“ศบ.ทก.” โต้แรง “กัมพูชา” ปล่อยข่าวมั่ว ชี้ระเบิด MK-84 โผล่เขมรสนิมอย่างเขรอะ ไม่ใช่ถูกบอมบ์จาก F-16 หรือ Gripen ไทย แน่นอน

"ศบ.ทก." โต้แรง "กัมพูชา" ปล่อยข่าวมั่ว ชี้ระเบิด MK-84 โผล่เขมรสนิมอย่างเขรอะ ไม่ใช่ถูกบอมบ์จาก F-16 หรือ Gripen ไทย แน่นอน

“ศบ.ทก.” โต้แรง “กัมพูชา” ปล่อยข่าวมั่ว ชี้ระเบิด MK-84 โผล่เขมรสนิมอย่างเขรอะ ไม่ใช่ถูกบอมบ์จาก F-16 หรือ Gripen ไทย แน่นอน

ข่าวที่น่าสนใจ

31 ก.ค.2568 พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก.ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีระเบิด MK-84 ไม่ใช่ของกองทัพอากาศไทย ตามที่สื่อกัมพูชา (The Phnom Penh Post) รายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านทุ่นระเบิด ว่าพบระเบิดอากาศ MK-84 ตกใส่บ้านเรือนประชาชน โดยเชื่อมโยงว่ามีสาเหตุจากการโจมตีทางอากาศของเครื่องบิน F-16 หรือ Gripen ของไทยนั้น

 

ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) ได้รับการยืนยันจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วว่า

 

 

 

1. ปฏิบัติการทางอากาศของไทยเป็นไปอย่างแม่นยำ มุ่งสู่เป้าหมายทางทหารที่ตรวจสอบและยืนยันแล้ว ไม่มีการโจมตีพื้นที่พลเรือนตามหลักสากลว่าด้วยการป้องกันตนเองและเคารพกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ

2. ลักษณะของระเบิดที่พบในฝั่งกัมพูชา
•   อยู่ในสภาพเก่าและขึ้นสนิมอย่างชัดเจน
•   มีลักษณะคล้ายถูก “ขุดขึ้นมาจากใต้ดิน” มากกว่าการตกจากอากาศ
•   ความลึกของหลุมและทิศทางการวาง ไม่สอดคล้องกับแรงปะทะจากการทิ้งระเบิดทางอากาศ

3. จากการตรวจสอบภารกิจล่าสุด
•   ฝูงบิน F-16 และ Gripen ทิ้งระเบิดเป้าหมายทางทหารก่อนที่ข้อตกลงหยุดยิงจะมีผล
•   ลูกระเบิดทำงานสมบูรณ์ และตรวจสอบซากได้ครบถ้วน

ศบ.ทก. ขอให้สาธารณชนมั่นใจว่า กองทัพอากาศไทยดำเนินภารกิจด้วยความรับผิดชอบสูงสุด ปฏิบัติตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด และยึดมั่นในหลักมนุษยธรรมโดยไม่มุ่งสร้างความเสียหายต่อพลเรือนโดยเด็ดขาด

 

 

ต่อมาได้มีการแถลงสถานการณ์ภาพรวม ด้านความมั่นคง การติดตามสถานการณ์ตามแนวชายแดนในภาพรวมช่วงเวลาที่ผ่านมาเป็นข่าวดีที่สถานภาพโดยรวมยังเป็นลักษณะการตรึงกำลังทั้งสองฝ่าย โดยที่ผ่านมาเราได้มีการตรวจพบการใช้โดรนของฝ่ายกัมพูชา อย่างไรก็ตามในสภาพแวดล้อมโดยรวมยังอยู่ในความสงบ

 

ส่วนประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกรณีผู้ถูกควบคุมตัว 20 นายอันนี้เป็นสาเหตุมาจากการยอมจำนนของทางฝ่ายทหารกัมพูชา จำนวน 20 นายเนื่องจากกระสุนหมด ในพื้นที่ช่องซำแต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ทั้ง 20 นายถูกส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย ในความผิดฐานเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือมาอยู่ในราชอาณาจักร โดยผิดกฎหมาย ส่วนกรณีของผู้ถูกควบคุมตัวที่ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ถูกส่งเข้ารับการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน อ.เมือง จ.สุรินทร์ ซึ่งทั้งสองนายอยู่ภายใต้การควบคุมกำกับดูแลของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง

ทั้งนี้ประเด็นที่ผ่านมาสังเกตได้ว่าทางผู้บังคับบัญชาหรือผู้นำฝ่ายทหารของประเทศมาเลเซีย ได้เข้ามาสังเกตการณ์และพูดคุยพบปะหารือกับทั้งทางฝ่ายไทยและกัมพูชาโดยช่วงเวลาที่ผ่านมา พลเอก ดาโต๊ะ โมฮัมหมัด นิซัม จาฟฟาร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดมาเลเซีย ได้มีโอกาสเข้าไปพูดคุยพบปะหารือกับแม่ทัพภาคที่ 1 และแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อรับทราบข้อเท็จจริงกรณีปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา เมื่อวันที่ 29 และ วันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมาตามข้อตกลงหยุดยิงที่ฝ่ายไทยและกัมพูชาได้ให้ไว้ โดยสรุปเนื้อหาการหารือฝ่ายไทยได้ชี้แจงถึงข้อมูลสถานการณ์ก่อนที่จะนำไปสู่การปะทะกันของทั้ง 2 ประเทศโดยฝ่ายไทยได้อธิบายชี้แจงว่าฝ่ายไทยได้ใช้ความพยายามอดทน อดกลั้น ประท้วงการละเมิดข้อตกลงต่างๆ ส่วนฝ่ายกัมพูชาเลือกใช้การวางกำลังทหารและวางทุ่นระเบิดในพื้นที่ข้อพิพาท ซึ่งเป็นการละเมิดสัญญา รวมทั้งมีการใช้มวลชนเข้ามาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในทางปลุกปั่นยั่วยุในบริเวณพื้นที่ประสาทตาเมือนธม ซึ่งสถานการณ์เกิดความตึงเครียดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จนฝ่ายกัมพูชาเริ่มประทะปราสาทตาเมืองธม ทำให้ฝ่ายไทยมีความจำเป็นต้องตอบโต้เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศไว้และเพื่อรักษาความปลอดภัยแก่พี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ด้วย ทั้งนี้ยืนยันว่าฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดและยินดีให้การสนับสนุนเรื่องการสังเกตการณ์ของฝ่ายมาเลเซียต่อไป โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันจุดมุ่งหมายของการเจรจาหยุดยิงนี้เพื่อไปสู่สันติภาพ นั่นคือการประกาศว่าจะหยุดยิงทันทีไม่เพิ่มกำลังทหารและการช่วยเหลือทางการแพทย์ให้แก่ผู้ป่วยและผู้บาดเจ็บในพื้นที่ด้วย

 

ที้งนี้ในส่วนสถานการณ์สถานภาพผู้อพยพผู้ลี้ภัยจากการปะทะฝ่ายพลเรือนที่ผ่านมามีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตดังนี้ผู้เสียชีวิตยอดทั้งหมด 14 คน บาดเจ็บสาหัส 12 คน บาดเจ็บปานกลาง 13 คนและบาดเจ็บเล็กน้อย 13 คนรวมยอดทั้งหมด 52 คน

อีกประเด็นของฝ่ายความมั่นคง ซึ่งอยากนำข่าวดีและเรื่องที่น่ารักมานำเสนอต่อพี่น้องประชาชน ซึ่งที่ผ่านมา กองทัพบกได้จัดวงดนตรี วงดุริยางค์มณฑลทหารบกที่ 25 ออกทำการแสดงที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว โรงเรียนบ้านวังหลัก อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์และศูนย์พักพิงชั่วคราวโรงเรียนบ้านโคกใต้ อำเภอลำบัว จังหวัดสุรินทร์ เพื่อสร้างความบันเทิงและผ่อนคลายความเครียดให้กับพี่น้องประชาชนรวมถึงสร้างขวัญและกำลังใจให้กับประชาชนในศูนย์พักพิงดังกล่าว ซึ่งการแสดงนี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายกองทัพในการดูแลพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ได้รับผลกระทบจากกรณีปะทะกันในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาซึ่งการแสดงดังกล่าวได้ทำการแสดงไปเมื่อวันที่ 26-29 กรกฎาคมที่ผ่านมาในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดสุรินทร์รวมทั้งหมด 8 พื้นที่ด้วยกันผลตอบรับชื่นชมดีมาก ประชาชนรู้สึกพึงพอใจ พร้อมทั้งขอบคุณที่ทางกองทัพได้จัดกิจกรรมดี ๆ อย่างนี้และหวังว่าในโอกาสอันใกล้นี้ จะมีการจัดกิจกรรมดี ๆ อย่างนี้อย่างต่อเนื่อง

 

สำหรับประเด็นสุดท้ายในส่วนความมั่นคงอยากให้พี่น้องประชาชนรับทราบว่าทาง ศบ.ทก.อยู่ระหว่างการเร่งบูรณาการด้านการสื่อสารบริการให้ข้อมูลโดยเฉพาะให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าว สื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศได้อย่างเบ็ดเสร็จ โดยจัดตั้งศูนย์วันสต๊อกเซอร์วิส เพื่อลดความเข้าใจผิด ความคาดเคลื่อนของข้อมูลข่าวสาร รวมทั้งการบิดเบิกข้อมูลข่าวสารจากฝ่ายตรงข้าม ศูนย์ตรงนี้กำลังเร่งจัดการคิดว่าภายใน 1-2 วันนี้จะมีความเป็นรูปธรรมสามารถให้พี่น้องสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศสามารถดึงข้อมูลต่างๆมาได้อย่างสมบูรณ์

 

 

ด้านนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ตามที่พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมได้ให้สัมภาษณ์ไป ว่าจะเชิญผู้ช่วยทูตทหารและคณะทูตและสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศลไปสังเกตการณ์พื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา ในวันพรุ่งนี้ 1 สิงหาคม 2568 นั้นเพื่อสังเกตการณ์และประเมินผลกระทบบริเวณชายแดนไทยกัมพูชานั้น เพื่อให้ข้อเท็จจริงจากการลงพื้นที่เป็นที่รับทราบแก่สาธารณะชนอย่างกว้างขวางรวมถึงในต่างประเทศ ทางกระทรวงการต่างประเทศจะนำคณะทูตและคณะสื่อมวลชนต่างประเทศจาก 22 สำนักงานรวม 38 คน ลงพื้นที่ร่วมกับคณะผู้ช่วยทูตทหารในวันพรุ่งนี้ด้วย

ซึ่งในส่วนของสื่อต่างประเทศจะเป็นช่องทางสำคัญที่จะช่วยเผยแพร่ข้อเท็จจริงให้ประชาคมโลกรับทราบ ซึ่งการลงพื้นที่ในวันพรุ่งนี้ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของทุกคนเป็นอันดับแรกเพราะไทยไม่ใช่เป็นผู้โจมตีก่อ ดังนั้นจึงไม่สามารถทราบล่วงหน้าได้ว่าช่วงเวลาใดที่จะปลอดภัยจึงต้องรอเวลาที่แน่นอนในเรื่องนี้

 

และยืนยันว่าฝ่ายไทยจะไม่สร้างภาพลวง ไม่ให้ข่าวบิดเบือน หรือกล่าวหาฝ่ายกัมพูชาลักพาตัวทหารไทยอย่างที่ทหารฝ่ายกัมพูชากล่าวหาไทยแต่จะเน้นสื่อสารเชิงคุณภาพ สะท้อนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งสิ่งที่คณะผู้ช่วยทูตทหาร คณะทูตและสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศจะได้เห็นและสามารถสื่อสารไปทั่วโลกได้ก็คือความเสียหายต่อบ้านเรือนประชาชน โรงพยาบาล โรงเรียนและสถานที่สาธารณะ ที่ฝ่ายกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มต้นและพุ่งเป้าโจมตีไปยังเป้าหมายที่ไม่ใช่ทางทหาร ละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ละเมิดหลักการสิทธิมนุษยชน และละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องเสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมากอีกทั้งมีผู้บริสุทธิ์ต้องอพยพไปยังศูนย์พักพิงนับกว่าแสนคน

 

ส่วนรายละเอียดการลงพื้นที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะแถลงข่าวให้ทราบในวันนี้เวลา 14:00 น. และวันพรุ่งนี้ทีมโฆษก ศบ.ทก.จะร่วมลงพื้นที่และจัดแถลงข่าวมาจากพื้นที่ด้วย

นางมาระตี กล่าวอีกว่ารัฐบาลไทยขอย้ำจุดยืนการยุติความขัดแย้งในครั้งนี้ ฝ่ายไทยมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด อย่างที่ทำอยู่ และมุ่งแก้ไขสถานการณ์ปัจจุบันด้วยสันติวิธี ฝ่ายไทยจึงขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชายุติการละเมิดข้อตกลงต่างๆทุกรูปแบบและทันที ทำตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างจริงจังและสุจริตใจ ไทยพร้อมกลับสู่โต๊ะเจรจาทวิภาคีกับกัมพูชาทุกเมื่อรอเพียงกัมพูชาส่งหนังสือเชิญอย่างเป็นทางการเพื่อเข้าร่วมการประชุมGBC ในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ ซึ่งจะเป็นความสำคัญในการหาทางออกร่วมกัน

และขอให้ประชาชนระมัดระวังข้อมูลเท็จ ข้อมูลบิดเบือนอย่างเป็นระบบของกัมพูชาที่มีเป้าหมายไม่เพียงเพื่อปกปิดความจริงที่เกิดขึ้น แต่ต้องการที่จะบ่อนทำลายเสถียรภาพของประเทศและความสามัคคีของคนไทย และย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน ผลประโยชน์ของประชาชนและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ ทุกฝ่ายกำลังทำงานกันอย่างเต็มที่เพื่อจุดมุ่งหมายเดียวกัน

 

ด้านนายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย แถลงว่าในสถานการณ์วันนี้ 7 จังหวัดชายแดนกัมพูชา เหตุการณ์ปกติ โดยมีอัตรากำลังของฝ่ายปกครองไม่ว่าจะเป็นชรบ.กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประมาณหมื่นกว่าคนที่เข้าไปดูแลในพื้นที่ 7 จังหวัด 22 อำเภอ 13 ตำบล 335 หมู่บ้านผลจากการไปดูแล จุดตรวจจุดต่างๆเพื่อรักษาทรัพย์สินพี่น้องประชาชน รวมทั้งสำรวจข้อมูลหลักฐาน และได้ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ในความเสียหาย ณ วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 มีประชาชนได้รับผลกระทบใน 7 จังหวัด 42 อำเภอ 321 ตำบล 3,884 หมู่บ้านรวมทั้งสิ้น 278,96 ครัวเรือน 839,935 คนผู้เสียชีวิต 16 รายผู้บาดเจ็บ 38 รายโดยมีการประกาศพื้นที่ภัยพิบัติ 7 จังหวัด 36 อำเภอ 238 ตำบล 2,702 หมู่บ้าน ในส่วนศูนย์พักพิงปัจจุบันมีการทยอยเข้าทยอยออก ข้อมูลศูนย์พักพิงปัจจุบันมี 7,330 มีผู้ที่ยังอาศัยอยู่ 187,974 คน ส่วนการจะกลับบางท่านไปอยู่บ้านญาติหรือกลับบ้าน ซึ่งวันนี้เราได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประสานงานกับหน่วยความมั่นคงในพื้นที่พิจารณาแต่ละศูนย์ถึงความเหมาะสม โดยทางเราเน้นเรื่องการดูแลความปลอดภัยชีวิตทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก และการจะกลับนั้นต้องให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานในพื้นที่แต่ละส่วนเป็นผู้พิจารณา

สำหรับการเยียวยาช่วยเหลือทางกระทรวงมหาดไทยได้มอบเงินทดรองจ่ายจังหวัดละ 100 ล้านและวันนี้ได้มีการเร่งเบิกจ่ายผู้เสียชีวิตผู้ได้รับบาดเจ็บให้เร่งเบิกจ่ายโดยเร็วทันทีสำหรับการสำรวจความเสียหายได้มีการสั่งการให้ทุกจังหวัดเรื่องดำเนินการสำรวจชดเชยเยียวยาประชาชนให้เป็นไปตามระเบียบโดยเร็วในส่วนของการบริจาคในภาครัฐได้มีการกำหนดพื้นที่บริจาคถ้าเป็นเงินบริจาคมาที่สำนักนายกรัฐมนตรี หากเป็นสิ่งของให้บริจาคไปที่ศาลาว่าการจังหวัดทุกจังหวัด ส่วนการจะเปิดปิดรับบริจาคเมื่อไหร่ก็เป็นการประกาศของแต่ละจังหวัด ในส่วนกลางกรุงเทพมหานครได้ปิดรับบริจาคไปแล้วยังเหลือแต่ที่ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทยยังเปิดรับบริจาคอยู่โดย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รับลริจาคเกือบ 6 ล้านบาทและวันนี้ตอน12.30 น.จะมีการปล่อยขบวนสิ่งของที่ได้รับบริจาคจากประชาชนในเขตกรุงเทพฯไป 7 จังหวัดในพื้นที่ชายแดนกัมพูชา สำหรับเรื่องการสนับสนุนเครื่องจักร รถผลิตอาหาร รสประกอบอาหารหรือรถบรรทุกน้ำ รถผลิตน้ำเราได้สนับสนุนจำนวน 112 คัน ในส่วนการดูแลความสงบเรียบร้อยหากพี่น้องประชาชนท่านใดยังไม่ได้รับการเยียวยาช่วยเหลืออื่นๆหรือตกลงสามารถติดต่อมาที่ทางจังหวัดทุกจังหวัดหรือศูนย์ดำรงธรรม 1567 เพื่อให้เราได้เข้าไปดูแลพี่น้องประชาชนอย่างทั่วถึง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ฉะเชิงเทรา ปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติดภายใต้แผนปฏิบัติการ No Drugs No Dealers
"ชาวสุรินทร์" รับไม่ได้ "เขมร" ไร้มนุษยธรรม ยิงปืนใหม่ใส่ รพ.-รร.ติดแนวชายแดน ตัดสินใจปลดอักษร ลบป้ายภาษากัมพูชาออก
"กองทัพภาคที่ 2" สรุปเหตุปะทะชายแดน 1 ส.ค. ไร้เสียงปืน นำส่ง 2 ทหารเขมร บาดเจ็บ - ป่วยเครียดสู้รบ ผ่านการรักษากลับกัมพูชา
สาววัย 35 ปี ควบเก๋งหรู เสยท้าย 18 ล้อ ดับสยองคาซาก
"เศรษฐา" แบ่งเบาภาระเกษตรกรลำไย ประสบภัยน้ำท่วม จัดซื้อตรงกว่า 7,000 กก. นำแบ่งปัน "ท็อป นิวส์" ร่วมชิมผลิตผลไม้ ไทย หนึ่งความภาคภูมิใจชาติ
ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นำคณะผู้บริหารและหัวหน้าส่วนราชการ บันทึกเทปถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​