“ทรัมป์” เผยคุย “ภูมิธรรม-ฮุน มาเนต” แล้ว ยื่นคำขาดหยุดยิง ถ้าต้องการกลับสู่โต๊ะเจรจาภาษีการค้าสหรัฐ

"ทรัมป์" เผยคุย "ภูมิธรรม-ฮุน มาเนต" แล้ว ยื่นคำขาดหยุดยิง ถ้าต้องการกลับสู่โต๊ะเจรจาภาษีการค้าสหรัฐ

“ทรัมป์” เผยคุย “ภูมิธรรม-ฮุน มาเนต” แล้ว ยื่นคำขาดหยุดยิง ถ้าต้องการกลับสู่โต๊ะเจรจาภาษีการค้าสหรัฐ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

จากกรณีที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียส่วนตัว @realDonaldTrump ว่า เขาเพิ่งคุยกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาเกี่ยวกับการยุติสงครามกับไทย และขณะนี้กำลังโทรหา รักษาการนายกรัฐมนตรีไทย เพื่อเรียกร้องให้หยุดยิงและยุติสงครามที่กำลังลุกลามอยู่ บังเอิญว่าเรากำลังเจรจาด้านการค้ากับทั้งสองประเทศ แต่จะไม่ทำข้อตกลงใดๆ หากทั้งสองฝ่ายยังสู้รบกันอยู่ และผมได้บอกพวกเขาแบบนั้นแล้ว!

การหารือกับไทยจะเริ่มในไม่ช้า ส่วนการคุยกับกัมพูชาเสร็จสิ้นแล้ว แต่คาดว่าจะโทรกลับไปอีกครั้งเกี่ยวกับการยุติสงครามและหยุดยิง ขึ้นอยู่กับสิ่งที่ไทยจะตอบมา ผมพยายามทำให้สถานการณ์ซับซ้อนนี้เรียบง่ายลง! มีผู้คนจำนวนมากเสียชีวิตในสงครามครั้งนี้ มันทำให้ผมนึกถึงความขัดแย้งระหว่างปากีสถานกับอินเดีย ที่สหรัฐสามารถยุติลงได้สำเร็จ

ต่อมา ประธานาธิบดีทรัมป์ โพสต์เพิ่มเติมว่า ผมเพิ่งคุยกับรักษาการนายกรัฐมนตรีไทย เป็นการสนทนาที่ดีมาก ไทยก็เหมือนกัมพูชา ที่ต้องการให้มีการหยุดยิงทันทีและมีสันติภาพ ตอนนี้ผมจะส่งข้อความนี้กลับไปให้นายกรัฐมนตรีกัมพูชาทราบ หลังจากคุยกับทั้งสองฝ่ายแล้ว การหยุดยิง สันติภาพ และความเจริญรุ่งเรืองดูจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน เราจะได้เห็นผลลัพธ์ในไม่ช้า!

และทางด้านประธานาธิบดีทรัมป์ ก็ได้โพสต์ข้อความอีกด้วยว่า ผมเพิ่งได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีประเทศกัมพูชา และได้แจ้งให้เขาทราบถึงการหารือของผมกับประเทศไทยและรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย ทั้งสองฝ่ายกำลังมองหาการหยุดยิงและสันติภาพโดยทันที พวกเขายังต้องการกลับเข้าสู่ “โต๊ะเจรจา” กับสหรัฐอเมริกา ซึ่งเราคิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมที่จะเจรจาจนกว่าการสู้รบจะยุติลง พวกเขาได้ตกลงที่จะพบกันทันที และหาข้อตกลงหยุดยิงอย่างรวดเร็ว ในที่สุดสันติภาพก็เกิดขึ้น! นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้หารือร่วมกับทั้งสองประเทศ ซึ่งมีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ยาวนาน หวังว่าพวกเขาจะสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติไปอีกหลายปี เมื่อทุกอย่างยุติลง และสันติภาพเกิดขึ้นแล้ว ผมตั้งตารอที่จะได้ลงนามในข้อตกลงทางการค้ากับทั้งสองประเทศ!

ข้อพิพาทชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชาที่คุกรุ่นมานานได้ทวีความรุนแรงขึ้นเป็นความรุนแรงเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ขณะที่กองกำลังทหารของทั้งสองประเทศปะทะกันในหลายจุด รัฐบาลไทยระบุว่ามีผู้เสียชีวิตมากกว่าสิบคน รวมถึงทหาร และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก

ความขัดแย้งชายแดนเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่อันตรายสำหรับทั้งสองประเทศ เนื่องจากต้องเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจมากมาย รวมถึงภัยคุกคามจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ สูงถึง 36% ที่กำลังใกล้เข้ามา แม้ว่าประเทศเพื่อนบ้านอย่างอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม จะบรรลุข้อตกลงการค้ากับรัฐบาลทรัมป์แล้ว แต่ไทยซึ่งพึ่งพาการส่งออกยังคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลงใดๆ ได้

เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ไทยกล่าวว่ากำลังใกล้บรรลุข้อตกลงกับสหรัฐฯ เพื่อลดอัตราภาษีศุลกากร ท่ามกลางข้อเสนอให้เข้าถึงตลาดสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ ได้มากขึ้น สหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของไทยในปี 2567 คิดเป็น 18% ของการส่งออกทั้งหมด

“ผมกำลังพยายามทำให้สถานการณ์ที่ซับซ้อนง่ายขึ้น!” ทรัมป์กล่าว สหรัฐฯ จีน และมาเลเซีย ได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ไทยเพื่ออำนวยความสะดวกในการหยุดยิง แต่ไทยระบุว่าตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาการสู้รบแบบทวิภาคี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) แม่นเกิ๊น!หน่วย SWAT จีนโชว์สกิล 'ยิงปืน' ระยะ 350 เมตร
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ซิโนเปกพบแหล่ง 'น้ำมันชั้นหินดินดาน' แห่งใหม่
ผู้ต้องหาคดีเงินกู้โหดสารภาพ อ้างเข้าใจผิดเป็นเรื่องยืมเงิน ไม่ได้ทำธุรกิจปล่อยกู้ ขอโทษและพร้อมชดใช้ค่าเสียหายทุกกรณี
เทศบาลเมืองปากพูน ปรับรูปแบบงาน “ประเพณีลอยกระทง ประจำปี 2568”
ผู้บริหาร "หงส์ไทย" แจงเหตุ อย. แจ้งปัญหายาดม สูตร 2 เป็นการสุ่มตรวจเฉพาะล็อตเก่า ธ.ค.67 ยันพร้อมรับผิดชอบผู้บริโภค "เพจดัง" ชี้ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่คุณภาพปกติ
ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา นำข้าราชการตำรวจ ปฏิบัติธรรมถวายพระราชกุศล แด่สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​