กองทัพภาคที่ 2 สดุดี “7 ทหารกล้า” พลีชีพเพื่อชาติ ปกป้องอธิปไตย เหตุปะทะไทย-กัมพูชา
ข่าวที่น่าสนใจ
27 ก.ค.2568 พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา กองทัพบก (ทบ.) ได้รับรายงานยืนยันการเสียชีวิตของกำลังพลเพิ่มเติมอีก 1 นาย จากการสู้รบในพื้นที่ภูมะเขือ อันเนื่องมาจากเหตุปะทะต่อเนื่องบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชาระหว่างวันที่ 24–26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ผู้เสียชีวิตรายล่าสุด คือ สิบเอก จิรายุส อินทุมาน สังกัดกองพันจู่โจม โดยเมื่อรวมยอดกำลังพลที่สละชีพจากเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะนี้มีทั้งหมด 7 นาย ประกอบด้วย
สิบตรีกองประจำกพลทหาร วรัญชิต ยวงสุวรรณ สังกัด กรมทหารราบที่ 13
จ่าสิบเอก ธวัชชัย บุสภา สังกัด กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 106 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 6
สิบเอก นพพล บุญเลิศ สังกัด กองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 6
สิบเอก กฤษฎา น้อยโคตร สังกัด กองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 6
สิบเอก จิรายุ สิงห์อ้น สังกัด กองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 6
สิบโท ศราวุฒิ นามสวัสดิ์ สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 8
สิบเอก จิรายุส อินทุมาน สังกัด กองพันจู่โจม
ด้านทางกองทัพบก ระบุว่า ความมุ่งมั่น กล้าหาญ และการอุทิศตนของวีรชนทั้ง 7 นาย ในการปกป้องแผ่นดินไทยครั้งนี้ ได้สร้างความภาคภูมิใจอย่างยิ่งแก่ครอบครัว ผู้บังคับบัญชา เพื่อนทหารร่วมภารกิจ ตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกคน กองทัพบกจะดูแลสิทธิและสวัสดิการแก่ครอบครัวและทายาทของทหารกล้าเหล่านี้ให้ดีที่สุด เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติแห่งความเสียสละของท่านเหล่านี้ สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ฝ่ายกัมพูชาได้กระทำการที่เข้าข่าย อาชญากรรมสงคราม อย่างชัดเจน ได้แก่ การจงใจโจมตีพลเรือนและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มีสถานะทางทหาร การทำลายสถานที่สาธารณะ เช่น โรงเรียน อนุสาวรีย์ การใช้อาวุธหนักแบบไม่เลือกเป้าหมาย การตั้งฐานยิงในพื้นที่ชุมชนและใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์
ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก กองทัพภาคที่ 2 ได้โพสต์ภาพ พร้อมข้อความระบุว่า
“ลำนำแห่งการเสียสละของผู้กล้า จะคงอยู่เหนือกาลเวลาเสมอ”
เขาไม่ได้สละชีวิตเพื่อให้ใครกล่าวถึง
แต่เขาเลือกจะสู้ เพื่อให้คนไทยทุกคนยังมี “ชาติ” ให้ยืนอยู่ได้อย่างภาคภูมิ
แด่…ทหารหาญในสมรภูมิ
ผู้ที่ยอมวางชีพไว้บนผืนแผ่นดินไทย
เพื่อธงไตรรงค์จะได้ไม่เคยปลิวไสวใต้ธงของผู้รุกราน
วันนี้…แม้เขาจะนิทราไปอย่างสงบ
แต่ “คุณงามความดี” และ “เกียรติแห่งนักรบ” จะยังคงอยู่ในหัวใจของแผ่นดินนี้ ตราบนานเท่านาน
ขอคารวะด้วยหัวใจ
ต่อทุกหยาดเหงื่อ เลือด และลมหายใจ
ที่ทหารกล้าของไทยได้มอบไว้ เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน
บทลำนำ|
ดวงดาวสกาวหม่น อัสสุชลสิหลั่งไหล
อาบร่างนักรบไทย ในพนาแสนอาดูร
เจ็บช้ำระกำจิต มิเคยคิดจะสิ้นสูญ
ประวัติศาสตร์จะเทิดทูน วีรกรรมอันอำไพ…
เพื่อนแก้วผู้แกล้วกล้า ทอดกายา ณ แดนไกล
ต้องเหน็บหนาวร้าวฤทัย อย่างโดดเดี่ยวและเดียวดาย
รอบข้างมีร่างเพื่อน นอนกล่นเกลื่อนชีวาวาย
กอดปืนไว้แนบกาย ชีพสาหัสด้วยดัสกร…
เพื่อนถูกบุกกระหน่ำ อริล้ำทั่วสิงขร
เพราะห่วงแหนแดนมารดร จึงมอบชีพเป็นชาติพลี
เพื่อนสู้ด้วยมือเปล่า จู่โจมเข้ารุกราวี
กระสุนหมดแต่ยังมี สติมั่นในดวงมาลย์…
มิยอมให้ธงชาติใด ปลิวไสวบนทัพฐาน
แม้ร่างจะแหลกลาญ แต่ไตรรงค์คงยั่งยืน
ขอเทิดเพื่อนร่วมตาย ด้วยอาลัยสุดจักฝืน
หากช้ำต้องกล้ำกลืน เพื่อหน้าที่อันจีรัง…
จำไว้ผู้รุกราน จะต่อต้านสุดกำลัง
หากชีพเราคงยัง ขอแลกชีพกับไพรี
หยาดเลือดทุกหยาดหยด ที่หลั่งรดปฐพี
จะชดใช้ในครานี้ จะต้องปลาตและพินาศไป…
จะหาญสู้กับทรชน ผู้คิดปล้นอธิปไตย
ไล่ออกนอกแดนไทย เพื่อวิญญาณทหารเรา
ขอเชิญทหารกล้า จงนิทรายังที่เนา
หลับเถิดอย่าหมองเศร้า จะปกป้องผองไผท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น