นักลงทุนไทยในเกาะกง หวั่นไทยเสียตลาดสินค้าให้ อินโดฯ เวียตนาม

นักลงทุนไทยในเกาะกงกัมพูชาส่งสัญญานพื้นที่เกาะกงสงบไม่ตึงเครียดยันแรงงานไทยเกือบ 200 คน ส่วนที่มีการติดตั้งอาวุธหนักบนเขาแค่ปกติ หวั่นไทยเสียตลาดสินค้าให้ อินโดฯ เวียตนาม

จ.ตราด/จากสถานการณ์การสู้รบของไทยและกัมพูชาและสถานการณ์อาจจะลุกลามมาฝั่งพื้นที่ภาคตะวันออก หลังจากผบ.กองกำลังป้องกันจันทบุรีและตราดสั่งปิดชายแดนตลอดแนวจันทบุรีและตราด ขณะที่ทางผู้ว่าราชการจังหวัดตราดได้สั่งให้ฝ่ายปกครองทุกอำเภอที่ติดชายแดนเตรียมความพร้อมในการอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยในรัศมีปืนใหญ่ พร้อมกันนี้ มีข่าวลือในเรื่องการติดตั้งอาวุธสงครามในพื้นที่แนวชายแดนจังหวัดตราด โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชาที่มีพื้นที่ติดกับบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ซึ่งเป็นที่ตั้งของจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็กซึ่งเป็นที่ค้าขาย และส่งสินค้า พร้อมนักท่องเที่ยวเดินทางไปมาก่อนมีการปิดอย่างสินเชิงในวันนี้

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายธิติเดช ทองภัทร รองกรรมการผู้จัดการนิคมอุตสาหกรรมเกาะกง ประเทศกัมพูชา(รองประธานบริหารโรงแรมเกาะกงอินเตอร์เนชั่นแนล ธุรกิจในเครือของกลุ่มแอล วาย พี:LYP GROUP ของนายลี ยง พัด หรือออกญาลี ยง พัด กลุ่มทุนของสมเด็จฮุนเซน)ได้เปิดเผยถึงสถานการณ์ชายแดนระหว่าง 2 จังหวัดว่า การปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็กห้ามการส่งสินค้าทั้งทางบกและทางทะเลนั้น มีผบกระทบกับการขนส่งสินค้าระหว่าง 2 ประเทศที่แต่ละปีจะมีการค้าขายในพื้นที่นี้ปีละ 3.5 หมื่นล้านบาท โดยประเทศไทยได้ดุลการค้ากว่า 3.1 หมื่นล้านบาท การที่ห้ามการค้าขายต่อไปย่อมส่งผลกระทบต่อประเทศไทย และหากยืดเยื้อต่อไป สินค้าไทยที่เป็นที่นิยมในกัมพูชาจะถูกแทนที่จากสินค้าในประเทศอินโดนีเซียหรือเวียตนาม รวมทั้งสิงคโปร์ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย รวมทั้งการที่มีนักลงทุนชาวไทยและชาวตราดที่เข้าไปลงทุนทางธุรกิจในกัมพูชาก็จะได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งครั้งนี้

“ต้องบอกว่า สถานการณ์ในเกาะกงยังไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง ไม่มีการสู้รบใดๆ แต่การที่มีภาพการติดตั้งอาวุธหนักบนเขาเหนือโรงแรมเกาะกงรีสอร์ทนั้น ก็เป็นแค่อาวุธธรรมดา ที่ไม่มีประสิทธิภาพสูงที่จะยิงเข้ามายังฝั่งไทยได้ ตามที่มีการเผยแพร่ในสื่อโชเชียล เพราะภาพนี้แรงงานกัมพูชาและแรงงานไทยในนิคมอุตสาหกรรมเกาะกงก็มี ซึ่งมั่นใจว่า ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างข้าราชการของเกาะกงและข้าราชการของจ.ตราดรวมทั้งความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกองทัพเรือไทยกับกองทัพเรือกัมพูชาที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมานาน จึงมั่นใจว่า จะไม่เกิดการปะทะกัน“

นายธิติเดช กล่าวว่า สิ่งน่าเป็นห่วงก็คือ ผลกระทบทางธุรกิจ และการลงทุนระหว่าง 2 ประเทศ เพราะเมื่อมีการปะทะกันเกิดขึ้นย่อมจะส่งกระทบต่อความเชื่อมั่นระหว่างนักลงทุนทั้งสองฝ่าย และจากปัญหานี้ ทางฝ่ายเกาะกง จึงได้ประสานงานกับฝ่ายทหารด้วยการรื้อแท่นปืนออกไปแล้วในเช้าวันนี้

 

 

ภาพ/ข่าว จักรกฤชณ์ แววคล้ายหงษ์ ผู้สื่อข่าว จ.ตราด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

GULF ระดมทีม "กัลฟ์อาสา" ร่วมแพ็คถุงยังชีพ 1,000 ชุด ส่งต่อกำลังใจและความช่วยเหลือให้พี่น้องประชาชนพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา
เปลี่ยนของดีชุมชนให้เป็นแบรนด์โลก CPOT เปิดเวทีเฟ้นหาสุดยอดผลิตภัณฑ์รักษ์โลก
ททท.ตราด ผู้ประกอบการท่องเที่ยวตราด ยืนยันท่องเที่ยวตราด และ 3 เกาะ ไม่มีผลกระทบ หลัง นทท.ยกเลิกห้องพักเพียบหวั่นเหตุปะทะ
"เครือซีพี" เคียงข้างชาวน่าน รวมพลังทุกกลุ่มธุรกิจเร่งช่วยผู้ประสบอุทกภัยจาก "พายุวิภา" ส่งอาหาร-น้ำดื่ม-ถุงยังชีพ พร้อมหนุนสื่อสาร-ตั้งศูนย์ประสานงาน
"ผู้ว่าฯสงขลา" มอบบ้านโครงการบ้านห่วงใยจากใจ GLO ประจำปี 2568
"วธ." เร่งเตรียมพร้อมภารกิจพิธีการศพในพระบรมราชานุเคราะห์ และสนับสนุนภารกิจอื่นในพื้นที่ จากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​