“ภูมิธรรม” เผยประชุมสมช. ครม.นัดพิเศษ ประณามกัมพูชา ยันแค่ปะทะไม่ใช่สงคราม ยึดสันติวิธีแก้ปัญหา

“ภูมิธรรม” เผย ประชุมสภาความมั่นคง และ ครม.วาระพิเศษ แก้ไขสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำกัมพูชายั่วยุเปิดฉากยิงก่อน เป้าหมายไม่ชัดเจน ทำให้พลเรือนเสียชีวิต 10 ราย ทหาร 1 ราย มอบจังหวัดดูแลประชาชนอพยพห่างชายแดน 50 กิโลเมตร ยังไม่คุยกัมพูชา จนกว่าสถานการณ์จะยุติ ระบุไม่มีประกาศสงคราม แต่มอบอำนาจกองทัพตัดสินใจดูแลเหตุการณ์ ก่อนรายงานรัฐบาล แต่ย้ำต้องอยู่ภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ ไม่จำเป็นดึงต่างประเทศเป็นตัวกลางเจรจา พร้อมเผย กต.คุยยูเอ็นแล้ว ย้ำชัดปฎิบัติการทางทหารจะยุติเร็วที่สุด

“ภูมิธรรม” เผยประชุมสมช. ครม.นัดพิเศษ ประณามกัมพูชา ยันแค่ปะทะไม่ใช่สงคราม ยึดสันติวิธีแก้ปัญหา – Top News รายงาน

 

ภูมิธรรม

 

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีเปิดเผยภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ วาระพิเศษ ที่มีคณะรัฐมนตรี ตัวแทนเหล่าทัพเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงว่า เนื่องจากเกิดเหตุการณ์ปะทะกันตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะเดียวกัน ยังเป็นการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษไปด้วย โดยเชิญเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเข้าร่วม ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ ดังนั้นจึงเป็นการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาตินัดพิเศษ และคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษด้วย เพราะหลายเรื่องจำเป็นต้องใช้มติคณะรัฐมนตรีในการดำเนินการ พร้อมระบุว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเหตุการณ์ปะทะกัน เท่าที่รับรายงานจากหน่วยทหารที่เกี่ยวข้อง ยืนยันว่า กัมพูชาได้ยิงเข้ามาและเปิดฉากใส่ทหารไทยก่อน จนนำไปสู่เหตุการณ์บานปลาย จนถึงเวลานี้ก็มีการใช้อาวุธหนัก แต่สิ่งสำคัญคือ การยิงของกัมพูชาใช้อาวุธหนัก และยิงเข้ามาในเขตแดนประเทศไทย โดยไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน และเป็นการยิงที่เกี่ยวข้องกับพลเรือน ทำให้พลเรือนไทยเสียชีวิต ทั้งหมดขณะนี้มีตัวเลขผู้เสียชีวิต 11 ราย เป็นพลเรือน 10 ราย และทหาร 1 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 28 คน โดย 24 คนเป็นพลเรือน อีก 4 คนเป็นทหาร ดังนั้นจึงขอประณามกัมพูชาว่าเป็นการใช้อาวุธหนักที่รุนแรงไม่มีเป้าหมาย และไม่ได้จำกัดเฉพาะเขตการต่อสู้ ซึ่งทหารกัมพูชายิงเข้ามาบริเวณปั๊มน้ำมันในร้านสะดวกซื้อและบางส่วนกระสุนยิงเข้ากลางโรงพยาบาล บางส่วนห่างพื้นที่โรงพยาบาล 3 กิโลเมตร ดังนั้นไทยขอประณามเป็นการกระทำที่ไม่ยึดกฎหมายระหว่างประเทศ และคำนึงปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ย้ำว่า สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นไม่ใช่การประกาศสงคราม เป็นแค่การปะทะกัน โดยไทยยืนยันหลักการว่า ต้องใช้สันติวิธีไม่ใช้ความรุนแรง และต้องใช้การพูดคุยกันในการแก้ไขปัญหา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นลักษณะที่มีการยั่วยุจากฝั่งกัมพูชามาโดยตลอด ซึ่งไทยต้องป้องกันตัวเอง และป้องกันอธิปไตยของประเทศ ถือเป็นหัวใจสำคัญยอมไม่ได้ที่จะมีลักษณะบุกรุกในการละเมิดอธิปไตยต่อประเทศไทย ดังนั้นจึงต้องทำหน้าที่อย่างเต็มที่

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายภูมิธรรม ยังระบุว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำที่กัมพูชาได้ก่อขึ้นอย่างน้อย 2 เหตุการณ์ในเขตพื้นที่ที่มีการลาดตระเวนของทหารไทย และกัมพูชาตามข้อตกลงเดิม แต่สิ่งที่ทำให้เกิดปัญหาที่ผ่านมามีการลาดตระเวนมาโดยตลอด แต่กลับมีระเบิดเกิดขึ้น ล่าสุดทำให้สูญเสียขาของทหาร จึงเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ ดังนั้นไทยจะต้องแสดงความชัดเจนในเรื่องนี้ พร้อมระบุว่า ขณะนี้ไทยได้เตรียมการและแก้ไขปัญหาต่างๆ แล้ว โดยทางกองทัพได้ดำเนินการปกป้องอธิปไตยในพื้นที่อย่างเต็มที่ ซึ่งกองทัพภาคที่ 2 เป็นผู้รับผิดชอบ ขณะเดียวกัน รัฐบาลได้มอบอำนาจให้กองทัพดำเนินมาตรการต่างๆ ตามความจำเป็นโดยยึดหลักกฎหมายระหว่างประเทศ เพราะเมื่อสถานการณ์ฉุกเฉิน อาจจะไม่มีเวลามาขออนุญาต จึงต้องดำเนินการไปตามขอบเขต และแจ้งให้กับรัฐบาลทราบโดยเร็ว

นอกจากนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัด คือ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ดังนั้น ยังต้องควบคุมอยู่ในพื้นที่ แต่ได้ระมัดระวังป้องกันตามแนวชายแดนอย่างเต็มที่ โดยให้กระทรวงมหาดไทย อพยพคนออกจากพื้นที่ให้ไกลกว่าชายแดน 50 กิโลเมตร ถือเป็นระยะที่ปลอดภัย และสั่งการให้ดูแลอพยพประชาชน ซึ่งมีแผนรองรับอยู่แล้ว และได้ดำเนินการอย่างเรียบร้อย ขณะที่มติที่ประชุมวันนี้และเป็นมติคณะรัฐมนตรี ให้ดูแลประชาชนและเยียวยาผู้เสียชีวิต ผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างดีที่สุด โดยเป็นไปตามระเบียบที่วางไว้ พร้อมระบุว่า โรงเรียนตามแนวชายแดนถูกสั่งปิด เพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับนักเรียน ขณะที่ กระทรวงสาธารณสุข ได้ดำเนินการเปลี่ยนแปลงโรงพยาบาลอำเภอบริเวณชายแดนให้เป็นโรงพยาบาลสนาม และได้อพยพคนไข้ รวมถึงผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดไปสู่แนวหลัง และอยู่ในจุดที่ปลอดภัย ส่วนมาตรการกระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการไปแล้ว ทั้งลดระดับทางการทูตกับกัมพูชา ถือว่าเป็นระดับที่รุนแรงแล้ว

ส่วนจะมีการพูดคุยระดับสองประเทศเพื่อให้เหตุการณ์ยุตินั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตอนนี้ต้องให้สถานการณ์ยุติก่อน เพราะไทยไม่ได้เป็นผู้เริ่ม ถ้าแสดงความจริงใจต่อกันสามารถพูดคุยกันได้ แต่ขณะนี้รู้สึกว่าฝ่ายกัมพูชาเป็นฝ่ายยั่วยุ ดังนั้นต้องดำเนินการตามครรลองที่เกิดขึ้น ขณะที่มาตรการช่วยเหลือประชาชน จังหวัดมีมาตรการอยู่แล้ว รวมถึงการเบิกงบในการช่วยเหลือ

 

ส่วนมีรายงานเรื่องความเสียหายของทางกัมพูชาหรือไม่นั้น นายภูมิธรรมกล่าวว่า เรื่องยุทธการไม่ขอพูดถึง และไม่ทราบกระแสข่าวสมเด็จฮุนเซน บิน ออกนอกประเทศกัมพูชา เพราะไม่ได้ติดตามเรื่องของคนคนนั้น ห่วงใยเฉพาะคนในประเทศเราและสนใจเฉพาะเหตุการณ์ที่มีการปะทะกัน และบานปลาย เพื่อคำนึงถึงชีวิตทหารหาญ และประชาชนคนไทย

ส่วนที่ทางกัมพูชามีการยื่นหนังสือถึงยูเอ็น ทางฝั่งไทยมีการดำเนินการอย่างไร นายภูมิธรรมชี้แจงว่านายมาริษ เสงี่ยมพงศ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ อยู่ที่นิวยอร์ก สหรัฐฯ และได้คุยกับเลขาธิการสภาความมั่นคง ขององค์การสหประชาชาติ ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา จากนั้นได้รายงานและหารือกับรัฐบาลถึงแนวทาง ที่จะดำเนินการมาตรการในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศ รวมทั้งชี้แจงสถานการณ์ ให้เข้าใจ ส่วนรายละเอียดของหนังสือทำชี้แจง เกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รอกระทรวงการต่างประเทศแถลงรายละเอียดอีกครั้ง ยืนยันไม่ได้มีการปกปิด แต่พื้นที่เป็นเรื่องความละเอียดอ่อน ยืนยันว่าโดยหลักการการจะเกี่ยวข้องกับอธิปไตยของประเทศ และการรุกล้ำเข้ามาในประเทศไทย เราต้องปกป้องตนเอง และยืนยันถึงมาตรการของกระทรวงการต่างประเทศ แต่เนื่องจากรายละเอียดบางอย่างยังไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยเฉพาะด้านยุทธการ พอจะทำให้กัมพูชารู้ความเคลื่อนไหว และอาจจะทำให้เกิดการเพลี่ยงพล้ำ

ทางกองทัพได้มีการขีดเส้นหรือไม่ ว่าปฏิบัติการครั้งนี้จะยุติเมื่อใด นายภูมิธรรมกล่าวว่า การปฏิบัติการจะให้ยุติโดยเร็วที่สุด

 

 

ถ้าสมมุติว่าทางกัมพูชาอยากจะ เจรจาเพื่อให้เหตุการณ์ปกติ เราจะมีวิธีการอย่างไร นายภูมิธรรมกล่าวว่าวิธีการนั้นพูดไม่ได้ แต่เขาต้องยุติความรุนแรง และสิ่งที่สำคัญต้องระมัดระวังเรื่องข่าวลือ หากข่าวยังไม่ชัดเจนก็ยังไม่ควรไปเผยแพร่ เพราะอาจทำให้เกิดความรุนแรงไปมากกว่านี้ ย้ำว่ากองทัพสามารถดูแลและปกป้องประเทศได้ มีความพร้อมทุกอย่าง แต่หากเหตุการณ์บานปลายจะกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินประชาชน ขณะนี้ให้ตำรวจดูแลทรัพย์สินของประชาชนที่อพยพออกจากพื้นที่

ทั้งนี้ ถ้ากัมพูชาใช้มาตรการรุนแรง ไทยจะใช้มาตรการรุนแรงกลับไปหรือไม่ นาย ภูมิธรรม กล่าวว่า จะดูแลตามสถานการณ์ โดยไม่ให้อธิปไตย เราเสียหายไม่ให้ประเทศเสียหาย อย่าไปพูดว่าจะรุนแรงไปรุนแรงมา การพูดนั้น ไม่ได้ดีเท่ากับการทำ เพราะการกระทำที่ดีจะสามารถแก้ปัญหาได้ พูดไปมีแต่ยั่วยุ

ทั้งนี้จำเป็นต้องดึงองค์การระหว่างประเทศมาเป็นตัวช่วยในการเจรจาหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ยังไม่จำเป็น ตอนนี้อยู่ระหว่างดำเนินการและแจ้งให้ทราบ ให้องค์การระหว่างประเทศได้รับทราบ

นายภูมิธรรม ย้ำว่ารัฐบาลมีความห่วงใย ประชาชนและยืนยันเราไม่ยอมสูญเสียอธิปไตย ของประเทศ เราป้องกันตัวเองอย่างเต็มที่ และให้ความมั่นใจกับประชาชนว่ารัฐบาลจะรับผิดชอบและดูแลความปลอดภัยและทำทุกอย่างเท่าที่เงื่อนไขเราจะทำได้

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"โฆษกทบ."แจงย้ำ ผลสอบเหตุกระสุนปืนใหญ่ 10 นัด ถูกยิงตกในส.ป.ป.ลาว ไม่ใช่ของทหารไทยแน่นอน
ด่วน "ทัพฟ้าไทย" จัดเต็ม F 16 - กริพเพน ระดมบินทิ้งไข่ ใส่อีก 2 ฐานทัพเขมร "ตาเมือนธม-ภูมะเขือ" ถล่มเครื่องยิงขีปนาวุธ วิถีโค้ง พินาศยับ
ชายแดนหาดเล็ก วุ่นชาวไทยและชาวกัมพูชา แห่กลับประเทศ หลังเหตุปะทะที่ชำราก นายอำเภอคลองใหญ่เผยฝั่งหาดเล็กไม่มีสู้รบ
จันทบุรี ชายแดน กัมพูชาปั่นกระแส เรียกแรงงานกลับ ถ้าใครไม่กลับจะถูกตัดชื่อออกจากประเทศ
ปลัดอำเภอหญิงคอฟฟี่ อำเภอวังจันทร์ ล่อ รวบ นักค้ายาเสพติด พึ่งพ้นกระบวนการบำบัด
กกล.บูรพา ส่งกำลัง ไล่ ขยี้ เขมร ออกจาก 4 พื้นที่ ใน อ.ตาพระยาและโคกสูง จ.สระแก้ว เรียบร้อยแล้ว

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​