AFP รายงานว่าแม้ไต้ฝุ่นวิภาจะอ่อนกำลังและศูนย์กลางของพายุได้เคลื่อนตัวออกจากฟิลิปปินส์ ผ่านไต้หวัน, ฮ่องกงและจีนจนเข้าสู่เวียดนามเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา แต่อิทธิพลของพายุยังทำให้เกิดฝนตกหนักตลอดคืนที่ผ่านมา (จันทร์ที่ 21 กค.) ทำให้น้ำในแม่น้ำมาริคิน่าไหลทะลักเข้าท่วมกรุงมะนิลา เจ้าหน้าที่กุ้ภัยต้องเร่งอพยพประชาชนกว่า 2 หมื่น 3 พันที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำตลอดคืนที่ผ่านมา ไปอยู่ตามโรงเรียน, ศาลาประชาคมและศูนย์ประสบภัยชั่วคราว นอกจากนี้ก็อพยพผู้อยู่อาศัยอีกราว 4 หมื่น 4 พันคนที่เมืองเกซอน, ปาซิกและคาลูกัน หลังจากระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงถึงระดับ 18 เมตร
หัวหน้าเจ้าหน้าที่กู้ภัยเผยว่า หญิงสูงวัยและคนขับรถได้ถูกกระแสน้ำพัดตกลำธารขณะพยายามขับรถข้ามสะพานที่เมืองคาลูกัน ล่าสุดเจ้าหน้าที่พบรถที่สูญหายเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่ไม่พบผู้ประสบภัยทั้งสองคน เจ้าหน้าที่เผยว่ากระจกรถมีร่องรอยถูกทุบแตก สร้างความหวังว่าทั้งคู่จะทุบกระจกหนีรอดไปได้
ล่าสุดระดับน้ำในกรุงมะนิลาเริ่มลดลงแล้ว แต่ผู้ประสบภัยหลายพันคนยังไม่สามารถกลับเข้าบ้านได้ ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์คาดการณ์ว่าจะมีฝนตกต่อเนื่องจนถึงสุดสัปดาห์
พายุวิภาได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 6 คนสูญหายอีก 6 คนในพื้นที่ตอนกลางและทางใต้ของฟิลิปปินส์ขณะพัดถล่มเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 กค.) โดยขณะนี้กำลังเคลื่อนตัวผ่านเวียดนามและคาดว่าจะเข้าสู่ลาวในวันพรุ่งนี้
