เมื่อช่วงเย็นวันที่ ( 14 ก.ค. 68 ) ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจากนางบุญทัน พวงพันธ์ อายุ 62 ปี แม่ค้าขายอาหารตามสั่ง ริมถนนสุวินทวงศ์ เลขที่ 35/21 ม.21 ต.ศาลาแดง อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ว่าสร้อยคอทองคำและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวม 4 บาท ที่ตนเองถอดเก็บไว้ในห้องนอนได้หายไป อยากให้ช่วยประชาสัมพันธ์ติดตามคนร้ายที่เอาไปให้นำมาคืน
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังร้านขายอาหารต่างสั่งดังกล่าว พบว่าเป็นร้านขายอาหาร ด้านหลังกั้นเป็นห้องนอนเป็นประตูไม้ มีแม่กุญแจล็อคเอาไว้ โดยนางบุญทัน ได้พาผู้สื่อไปดูจุดที่เก็บทองคำเอาไว้ โดยนางบุญทันจะถอดสร้อยคอและสร้อยข้อมือใส่ตลับทองและใส่กระเป๋าสีเหลือง ก่อนจะใส่ไว้ในกระเป๋าสะพายสีดำแล้วแขวนไว้บริเวณหน้าห้อง แต่ได้ได้ล็อคห้องเอาไว้เพราะจะเปิดเข้าออก เพื่อแลกเงินเวลาลูกค้าจ่ายธนบัตรชนิด 1,000 บาทนำมาเก็บไว้ในห้องนอน
นางบุญทัน เปิดเผยว่า ทองคำที่หายไป เป็นสร้อยคอน้ำหนัก 2 บาทและสร้อยคอมือ น้ำหนัก 2 บาท ตนเองทำงานเก็บหอมรอมริบมานานกว่า 10 ปี ค่อยๆสะสมจนไปซื้อมาได้ ปกติแล้วก็จะใส่ตลอด แต่พอมาหลังๆ ราคาทองเริ่มแพงขึ้น รู้สึกไม่ปลอดภัยจึงถอดเก็บเอาไว้ จะหยิบออกมาใส่เฉพาะเวลาไปงานต่างแล้ว แล้วก็จะถอดเก็บ ตนเองนำออกมาใส่ครั้งสุดท้ายคืองานบวชหลาน แล้วก็ถอดนำมาเก็บไว้เหมือนเช่นทุกครั้ง โดยจะคอยสังเกตตลอดเวลาเข้ามาแลกเงินให้กับลูกค้า ตนเองเห็นตลับทองและมีทองอยู่ด้านในก็ไม่ได้เอะใจอะไร จนกระทั่งเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ตนเองจะหยิบทองออกมาใส่เพื่อไปทำบุญที่วัด แต่กลับพบว่าทองที่อยู่ในตลับนั้นไม่ใช่ของตน เพราะตนเองจำลายทองที่ใส่ได้ จึงโทรศัพท์หาลูกชายให้พาไปเช็คที่ร้านทองที่อยู่ไม่ไกลจากร้านมากนัก พอพนักงานตรวจสอบและบอกกับตนเองว่าทั้งหมดเป็นทองปลอม ตนเองก็รู้สึกเสียใจ เพราะทองทั้งหมดนี้ตนเองทำงานเก็บเงินทำมาทั้งชีวิต เหมือนหมดเนื้อหมดตัว เพราะเงินในบัญชีก็มีไม่กี่บาท เป็นแม่ค้าขายของไปวันๆ และราคาทอง ณ ปัจจุบันนี้ ก็คงไม่มีปัญญาไปทำใหม่ได้แล้ว ตนเองก็อยากวอนลูกค้า หรือใครที่เอาไป หากขายไปแล้วเงินเหลือเท่าไหร่อยากให้เอามาคืนตน หรือถ้ายังไม่ขายก็อยากให้เอามาคืน เพราะตนเองไม่เหลืออะไรแล้ว อยากให้คนที่เอาไปนำมาคืนจริงๆ เพราะตนเองเดือดร้อนมาก





