จากกรณีเกิดเหตุนักท่องเที่ยวชาวไทยแต่งตัวคล้ายทหารพราน 1 ราย และแต่งชุดธรรมดาอีก 1 ราย ชกหน้าทหารกัมพูชา ขณะกำลังพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ทหารไทยที่คอยอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ก่อนวิ่งหนีเข้ามายังเขตไทย ท่ามกลางความตกใจของนักท่องเที่ยวและทหารไทยซึ่งประจำจุดอยู่ที่ประตูทางเข้าปราสาทตาเมือนธม ก่อนควบคุมตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 2 รายไปส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.พนมดงรัก ดำเนินคดีไปตามกฎหมาย
ข่าวที่น่าสนใจ
ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. (14 ก.ค.68) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ ปราสาทตาเมือนธม พบนักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวนมาก ยังคงมาเที่ยวชมปราสาทตาเมือนธม พร้อมมอบสิ่งของเป็นกำลังใจทหารไทยกันอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ขณะที่นักท่องเที่ยวฝั่งกัมพูชา เดินทางมาท่องเที่ยวที่ปราสาทตาเมือนธม ด้วยเช่นกัน แต่ไม่มากนัก ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยของทหารไทยและกัมพูชา โดยไม่พบทหารกัมพูชา ที่โดนชกเมื่อวานแต่อย่างใด
ในส่วนของการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุชกทหารกัมพูชานั้น พ.ต.อ.นพดล พินิจอักษร ผู้กำกับการ สภ.พนมดงรัก กล่าวว่า คนก่อเหตุทำร้ายทหารกัมพูชา คือ นายสมหมาย อดีตทหารพราน อายุ 60 ปี เป็นชาว จ.นครปฐม และนายปฐมพง์ อายุ 50 ปี เป็นชาว จ.นนทบุรี จากการสอบสวนบุคคลทั้ง 2 ให้การว่า มาเยี่ยมชมปราสาทตาเมือนธม เมื่อมาถึงพบทหารกัมพูชา ซึ่งมีการพูดจากันแต่สื่อสารไม่เข้าใจ จึงลงมือชกทหารกัมพูชา ไปคนละ 1 หมัด ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยซึ่งประจำอยู่ที่จุดดังกล่าววิ่งเข้าไปห้ามปราม ก่อนควบคุมตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 2 รายไปส่งที่ สภ.พนมดงรัก เพื่อให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะนี้ พนักงานสอบสวน สภ.พนมดงรัก ได้ลงพื้นที่ไปยังปราสาทตาเมือนธม เพื่อประสานไปยังทหารระดับสูงในฝั่งของกัมพูชา ขอให้ช่วยเชิญตัวทหารกัมพูชา ที่ถูกชาวไทยชก เข้าให้ปากคำที่ สภ.พนมดงรัก และให้แพทย์ตรวจร่างกายว่าบาดเจ็บมากน้อยเพียงใด จึงจะแจ้งข้อกล่าวหากับ 2 คนไทยที่ชัดเจนต่อไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหากับชาวไทยทั้ง 2 ราย ฐานร่วมกันทำร้ายร่างกาย โดยพนักงานสอบสวนไม่สามารถเปรียบเทียบปรับได้เพราะเป็นคดีอาญา อย่างไรก็ตามผู้ต้องหาทั้ง 2 รายยังไม่ได้หลบหนีไปไหน โดยสามารถเรียกตัวให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาได้ตลอดเวลา และพร้อมที่จะให้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
