“สว.ปริญญา” จี้ รัฐกู้วิกฤติศรัทธาวงการสงฆ์ ด้าน “สุชาติ” เผย เร่งออกกฎหมายคุ้มครองพระพุทธศาสนา

“สว.ปริญญา” จี้ รัฐกู้วิกฤติศรัทธาวงการสงฆ์ บอก อยากให้มีสีกากอล์ฟร้อยคน ขุดพระเลวออกจากศาสนา ลั่น พระที่ดีมีแค่พระพุทธรูป ด้าน“สุชาติ” เผย เร่งออกกฎหมายคุ้มครองพระพุทธศาสนาโดยเร็ว คาด 3-4 เดือนรู้เรื่อง

“สว.ปริญญา” จี้ รัฐกู้วิกฤติศรัทธาวงการสงฆ์ ด้าน “สุชาติ” เผย เร่งออกกฎหมายคุ้มครองพระพุทธศาสนา – Top News รายงาน

 

 

เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณากระทู้ถาม เรื่องวิกฤตศรัทธาในพุทธศาสนา พระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่มั่วสีกา ทำลายศรัทธาของชาวไทยพุทธ ของนายปริญญา วงษ์เชิดขวัญ สว. ถามนายกรัฐมนตรี โดยมอบหมายให้นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ตอบกระทู้แทน

 

สว.ปริญญา

นายปริญญา ตั้งกระทู้ถามว่า ประเทศไทยเราเป็นเมืองพุทธ แต่มีวิกฤตศรัทธาในพุทธศาสนา สมัยก่อนเราจะเห็นพระลูกวัดมั่วสีกา เสพยา แต่วันนี้พระชั้นผู้ใหญ่ถึงราชาคณะ ที่มีพฤติกรรมเลวทรามทำให้ศาสนาเสื่อมอย่างยิ่ง ทำลายความรู้สึกคนไทยมาก ปัจจุบันในประเทศไทยมีวัดเป็นจำนวนมากมาย ประชาชนเข้าวัดกันอย่างศรัทธายิ่งภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ที่พึ่งทางใจที่ดีที่สุดคือวัด ขณะนี้มีสีกาชื่อดัง คือ”สีกากอล์ฟ” ตนอยากได้ “สีกากอล์ฟ”แบบนี้อีก 100 คนเพื่อมาขุดพระเลวๆ พระชั่วๆ จะได้รื้อศาสนาให้กลับมาดีได้อีกครั้งหนึ่ง

 

ข่าวที่น่าสนใจ

“ในอดีตเรามีพระดังจากเรื่องแย่ ๆ เกี่ยวกับสีกา เริ่มจากพระยันตระ ที่มั่วสีกา กลายเป็นเด็กใจแตก จนถึงวันนี้ท่านไปสู่โลกภิภพของท่านเรียบร้อยแล้ว ต่อมาสมีเจี๊ยบ เปรียญธรรม 9 ประโยค มีเมียเกือบ 10 คน ,พระนิกร ,พระภาวนาพุทธโธ ,พระอิสระมุณี, เณรคำ,พระกาโตะ เป็นต้น จนมาถึงปัจจุบันเราจะเห็นปัญหาสิ่งที่เกิดขึ้นสีกากอล์ฟคนดัง เล่นชั้นเทพไปแล้ว ไม่รู้กี่คนและวัดต่าง ๆ เป็นวัดที่ประชาชนให้ความศรัทธาค่อนข้างมาก อยากถามว่าวันนี้พระเป็นอะไร เรามีการควบคุมดูแลมากน้อยแค่ไหน ทางมหาเถรสมาคมจะไปยุ่งเกี่ยวกับพระมากไม่ได้ แต่จริง ๆ แล้วจะปล่อยไว้อย่างนี้หรือ พวกเรากราบแทบเท้าท่าน แต่วันนี้ท่านไปกราบตีนเมียเรียบร้อยแล้ว สภาพที่เห็นทำร้ายจิตใจพี่น้องประชาชนชาวไทยพุทธแค่ไหนที่เราอุตส่าห์ไว้ใจพระ สิ่งที่เราสังเกตเห็นเวลานี้ผู้หญิงเขาไม่ไปอาเสี่ยแล้ว เขามาหาเจ้าอาวาสดีกว่ารวยกว่าเสี่ยไหน ๆ ทุกวันนี้เรามีพระดีแค่พระพุทธรูปเท่านั้น “นายปริญญา กล่าว

นายปริญญา กล่าวว่า จึงขอถามใน 4 ข้อ คือ 1. รัฐบาลและสำนักพระพุทธฯ มีการวางแผนและแก้ปัญหานี้อย่างไรในการร่วมกับกรรมการมหาเถรสมาคม 2.การดำเนินคดีกับสมีทั้งหลาย สามารถทำได้หรือไม่ ทั้งเรื่องการมีเพศสัมพันธ์และเรื่องเงิน เพราะต้องยอมรับว่าทุกวันนี้นักการเมือง ข้าราชการกับนักการเมืออย่างไรก็สู้พระไม่ได้ เพราะพระรวยกว่า 3.ในอนาคตรัฐบาลจะมีการตรวจสอบเงินเงินอย่างจริงจังเมื่อไหร่ หรือจะแก้ไขฎหมายเพื่อให้ด้ต่อการตรวขสอบได้หรือไม่ และ 4. ควรเร่งพลักดันพ.ร.บ.คุ้มครองพระพุทธศาสนา ได้แล้วหรือยัง เพื่อกำหนดโทษ ว่าพระที่กระทำความผิดเช่นนี้ และทำให้เสื่อมเสียพระพุทธศาสนามีโทษอาญาจำคุกได้หรือไม่

 

ด้านนายสุชาติ ตันเจริญ ชี้แจงว่า ปัญหาในวงการสงฆ์ขณะนี้ เป็นที่กล่าวขวัญและสะเทือนใจมาก ทำให้เกิดความเสื่อมเสียแก่ผู้นับถือศาสนาพุทธ แต่การที่เสนอว่าให้คนแบบสีกากาล์ฟมีเยอะๆ เพื่อที่จะให้ปราบปรามพระไม่ดีนั้น ไม่ได้ เพราะตอนนี้เสื่อมมากแล้ว การที่คนเกิดวิกฤติศัทธา เกิดจากตัวพระสงฆ์ แต่เรานับถือคำสั่งสอนทางพระพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้า ดังนั้น ต้องแยกกัน และการแก้ปัญหาสงฆ์มีวิธีอื่น ไม่ใช่ส่งสีกาไปเยอะ ก็จะยิ่งเสื่อมเสียกันใหญ่ ซึ่งเรื่องนี้ตนได้ให้นโยบายกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ว่าต้องทำงานในเชิงรุก เพราะวัดต่าง ๆ ที่อยู่ทั้งในเมืองและตามต่างจังหวัด ทำไมประชาชนจึงรู้ว่าพระปฏิบัติไม่ดี อย่างไร ยักยอกเงินวัดอย่างไร เอาเงินวัดไปทำอะไร ไปแอบเสพเมถุนกับใคร แล้วทำไม พศ.ไม่รู้ ซึ่งตนได้บอกว่าตั้งแต่นี้ต่อไปพศ. ต้องทำงานเชิงรุก ไปหาข่าวจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและชาวบ้าน

สุชาติ

 

นายสุชาติ กล่าวว่า เรื่องนี้การควบคุมพระสงฆ์เป็นการดำเนินของพระมหาเถรสมาคม ส่วนการดำเนินคดีกับพระที่ประพฤติปฏิบัติผิดพระธรรมวินัยหรือสมี ปัจจุบันยังไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายใดเอาผิดพระภิกษุสงฆ์ที่เสพเมถุน หรือแม้แต่สีกาที่ไปเสพเมถุนกับพระเลย ดังนั้น ตอนนี้จึงต้องรีบร่างพ.ร.บ.สงฆ์ โดยด่วน เพิ่มโทษพระที่ผิดพระธรรมวินัยถึงจำคุก หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยค่าปรับประมาณหลายหมื่นบาท ถึงหลักแสนบาท ส่วนสีกาก็ต้องมีความผิดด้วย แม้ขณะนี้จะเอาความผิดสีกาไม่ได้ แต่หากพบว่าไปล่อลวง ข่มขู่ เราก็เอาผิดกฎหมายอาญอื่นๆได้ อย่างไรก็ตามเรารีบออกกฎหมาย โดยขณะนี้ได้เริ่มร่างกฎหมายแล้ว คิดว่าภายใน 3-4 เดือนนี้จะมีการแก้กฎหมาย โดยอาจจะรวมไปถึงการเอาผิดการเรี่ยไร หรือการบริจาค ซึ่งการบริจาคเงินให้วัดทางมหาเถรสมาคม ออกเป็นกฎกระทรวงแล้ว จะเริ่มใช้ 1 ต.ค.นี้ ว่าตั้งแต่นี้ต่อไปทุกวัดที่มีเงินบริจาค ต้องนำเงินเข้าสู่บัญชีธนาคารในพื้นที่ที่วัดตั้งอยู่ และวัดห้ามถือเงินสดเกิน 1 แสนบาท และบัญชีรายรับรายจ่าย เป็นการแก้ไขปัญหาไปได้ส่วนหนึ่ง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

อีอีซี จัดงานมอบตรารับรอง EEC Select Best Service 2025 ให้ 25 ผู้ประกอบการอีอีซี ยกมาทุกผลิตภัณฑ์ มอบ Gift Voucher ให้ช้อปฟรี
"ตร.สอบสวนกลาง" เปิดศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เปิดให้ปชช.แจ้งเบาะแสพระทำผิด
"นฤมล" สั่งการด่วน "ก.ค.ศ.-สพฐ." เดินหน้าบริหารอัตรากำลังการศึกษา เร่งแก้ปัญหาภาระครูล้นมือ
สึกแล้ว! อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ รับอ่อนต่อโลก โอนเงินกว่า 13 ล้าน ให้ ‘สีกากอล์ฟ’ 
"ฮุน มาเนต" มาใหญ่ จี้ 3 เงื่อนไข ไทยต้องเปิดด่านก่อน "ชาวเขมร" วุ่นหนัก เจอกม.เกณฑ์ทหารใหม่
ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา มอบเงินทุนกู้ยืมประกอบอาชีพให้กับคนพิการและผู้ดูแลคนพิการ
สินค้าไทยในเกาะกงขาดตลาด พ่อค้าต้องซื้อจากเวียตนามทดแทนแต่ขายไม่ดี ขณะเจ้าของร้านสะดวกซื้อ ปิดหลังไม่มีนักท่องเที่ยว รับขายไม่ได้ ชี้ ร้านค้าหาย 90%
เข้าสู่วันที่ 20 มาตรการคุมด่านชายแดนตราด ตลาดค้าชายแดนริมทะเล เหลือเปิดแค่ร้านเดียวเจ้าของ เผย เหลือร้านเดียวก็เปิด บางวันขายได้บางไม่ได้บาง ยอมรับความมั่นคงต้องมาก่อน
ประธานกลุ่มประมงเรือเล็กบ้านคลอง(ลาวน) ร้องขอความเป็นธรรม ตรวจสอบนายทุนลุกล้ำป่าชายเลนที่ทำกินตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายาย
กรมส่งเสริมสหกรณ์ เดินหน้าปั้น "สมุนไพรไทย" สู่พืชเศรษฐกิจใหม่ เสริมแกร่งเครือข่ายเกษตรกรทั่วประเทศ ยกระดับมาตรฐานการผลิต–แปรรูป พร้อมดันไทยสู่ศูนย์กลางสมุนไพรคุณภาพในอาเซียน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น