วันที่ 14 ก.ค.2568 ที่กระทรวงมหาดไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้นายกรัฐมนตรี หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มีความเคลื่อนไหวจนอาจถูกมองว่าครอบงำนายกรัฐมนตรี โดยยืนยันว่าไม่เกี่ยวกัน คนละคนกัน นายทักษิณเป็นผู้เชี่ยวชาญผู้รู้หลายเรื่อง การรับฟังความเห็นที่ดีในการที่จะนำไปแก้ไขปัญหา ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
"ภูมิธรรม" ปัด "ทักษิณ" ครอบงำนายกฯอิ๊งค์ ชี้ร่วมทีมไทยแลนด์ถกรับมือภาษีทรัมป์ เพราะเก่งเรื่องล็อบบี้ยิสต์
ข่าวที่น่าสนใจ
อย่างกรณีที่นายทักษิณเข้าบ้านพิษณุโลก เพื่อร่วมประชุมทีมไทยแลนด์เจรจาภาษีสหรัฐเมื่อวันศุกร์ ต้องยอมรับว่านายทักษิณนั้นเก่งเรื่องล็อบบี้ยิสต์ การฟังหลายเรื่องก็เป็นประโยชน์ และนายทักษิณก็เคยทำธุรกิจ รวมทั้งรู้จักใกล้ชิดกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ฉะนั้นการได้ฟังแง่มุมต่างๆ ก็เป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ ไม่ควรจะต้องมาคอยจับผิดกัน เพราะเป็นเรื่องผลประโยชน์ภาพใหญ่
เมื่อถามว่า มีโอกาสเป็นไปได้หรือไม่ที่รัฐบาลจะให้นายทักษิณเจรจาตรงกับประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องรอดูสถานการณ์ว่าขนาดไหนเหมาะสม แต่ในการทำงานไม่จำเป็นต้องตั้งก็ได้ ความสัมพันธ์ส่วนตัวที่มีก็เป็นประโยชน์ ฉะนั้นไม่จำเป็นต้องตั้งเป็นตัวแทน เนื่องจากนายทักษิณเองก็มีข้อจำกัดในหลายๆ เรื่อง
พร้อมทั้งให้สัมภาษณ์ถึงผลสำรวจความเห็นของนิด้าโพลที่อยากให้นายกรัฐมนตรีลาออกหรือยุบสภา เพื่อหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ ว่า ผลโพลเป็นทัศนะความเห็นของประชาชน เรารับฟัง แต่ขณะนี้อยู่ในกระบวนการที่นายกรัฐมนตรีกำลังแก้ข้อกล่าวหา และกำลังต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมอยู่ ตนจึงมองว่าผลโพลอยู่ที่กระบวนการและปัญหาต่างๆ รวมถึงท่าทีที่นายกรัฐมนตรีกำลังเข้าสู่กระบวนการ ทำให้เกิดความรู้สึกได้ อย่างไรก็ตามทุกคนก็ทราบว่าที่ผ่านมาในรายละเอียดผลโพลก็เปลี่ยนได้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ตนเชื่อว่าถ้าได้ทราบข้อเท็จจริงที่ชัดเจนแล้ว นายกรัฐมนตรีน่าจะได้รับคะแนนความนิยมสูงขึ้นได้ เพราะว่าเรื่องที่ผ่านมาทั้งหมด ท่านยังไม่ได้มีข้อเสียหายอะไรนอกจากเรื่องนี้ อีกทั้งเป็นเรื่องที่แล้วแต่จะพิจารณา มองได้สองแบบ ถ้าใช้สติตนว่าน่าจะเข้าใจมากขึ้น แต่ต้องให้กระบวนการยุติธรรมว่าไป
นายภูมิธรรม ยังกล่าวถึงการแก้ข้อกล่าวหาคดี ที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งนายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ปมคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุนเซนว่า เข้าใจว่าน่าจะขยายเวลาไปอีก 15 วัน เพื่อแก้ข้อกล่าวหา แต่ตนไม่แน่ใจ เหตุผลและรายละเอียดต้องสอบถามนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง หลังจากเมื่อวานได้มีโอกาสพูดคุยกันเล็กน้อย ส่วนจะใช้ทีมกฎหมายเดิมหรือทีมใหม่ เพราะที่ผ่านมาเวลาสู้คดีพรรคเพื่อไทยไม่ค่อยประสบความสำเร็จนั้น ตนไม่แน่ใจว่าเกิดจากความไม่มีประสิทธิภาพของทีมกฎหมายหรือปัจจัยอื่น อย่างไรก็ตามยังไม่ทราบว่าจะเปลี่ยนทีมหรือไม่ ต้องถามนายกรัฐมนตรี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง