“ปลัดฯวธ.” เผยยูเนสโก เตรียมพิจารณาขึ้นทะเบียน “ชุดไทยราชนิยม” เป็นมรดกวัฒนธรรม ยันไม่พบกัมพูชา ยื่นเคลมชุดไทย

"ปลัดฯวธ." เผยยูเนสโก เตรียมพิจารณาขึ้นทะเบียน "ชุดไทยราชนิยม" เป็นมรดกวัฒนธรรม ยันไม่พบกัมพูชา ยื่นเคลมชุดไทย

ก่อนหน้านั้นเมื่อเวลา 09.55 น.วันที่7 ก.ค.น.ส.แพทองธาร ชินวัตรนายกรัฐมนตรี และรมววัฒนธรรม เดินทางเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)โดยผู้สื่อข่าวถามกรณีที่กัมพูชา เรียกร้องให้ไทยคืนวัตถุโบราณ 20 ชิ้น โดยจะออกค่าใช้จ่ายเอง รมว.วัฒนธรรม ได้หันมาถามสื่อมวลชน ว่านึกว่าจะถามเรื่องชุดไทย

ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีของชุดไทย ที่กัมพูชาสอดแทรกขึ้นทะเบียนมรดกโลกในการแต่งงานแบบโบราณของกัมพูชา ไทยจะทำหนังสือทักท้วงเรื่องนี้หรือไม่โดย น.ส.แพทองธาร กล่าวว่ากระทรวงวัฒนธรรมได้แถลงเรื่องนี้ไปเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันนี้แล้ว

จากนั้นรมว.วัฒนธรรม แวะเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์สินค้าจาก5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ “Taste of Southern อัตลักษณ์พื้นถิ่นจังหวัดชายแดนภาคใต้” ที่มาจัดแสดงบริเวณโถงตึกบัญชาการ โดยอุดหนุน
สินค้าเป็นผ้าซาติน ลายพระราชทานสิริราชพัสตราภรณ์ 3 ผืน

 

วันนี้ (8 ก.ค.68) นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม แจ้งว่าองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) แจ้งยืนยันว่ารายการ “ชุดไทย: ความรู้ งานช่างฝีมือ และแนวปฏิบัติการแต่งกายชุดไทยประจำชาติ” (Chud Thai: The Knowledge, Craftsmanship and Practices of the Thai National Costume) จะถูกบรรจุเข้าสู่การพิจารณาในการประชุมคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ (Intergovernmental Committee for the Safeguarding of the Intangible Cultural Heritage) สมัยที่ 21 ในปี 2569

การเสนอดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายส่งเสริม Soft Power และการอนุรักษ์มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2552 ปัจจุบันประเทศไทยมีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมขึ้นบัญชีระดับชาติแล้ว จำนวน 396 รายการ โดย “ชุดไทยพระราชนิยม” ได้รับการขึ้นบัญชีในระดับชาติตั้งแต่ปี 2566 และ ครม.มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2567 ให้เสนอขึ้นทะเบียนในระดับนานาชาติต่อ UNESCO

ปลัด วธ. กล่าวว่า ชุดไทยเป็นเครื่องแต่งกายประจำชาติที่สะท้อนอัตลักษณ์ และความวิจิตรของวัฒนธรรมไทยผ่านงานช่างฝีมือจากหลากหลายภูมิภาค ถ่ายทอดผ่านลวดลาย เทคนิคการตัดเย็บ และการใช้ผ้าไทยในรูปแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะ “ชุดไทยพระราชนิยม” ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงริเริ่มให้มีการศึกษาค้นคว้าเครื่องแต่งกายสตรีไทยสมัยต่างๆ มาศึกษา ฟื้นฟู และออกแบบ เพื่อทรงใช้เป็นฉลองพระองค์ในโอกาสที่โดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 พระราชดำเนินเยือนสหรัฐอเมริกา และประเทศยุโรปอย่างเป็นทางการ เมื่อปี 2503 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์ความเป็นไทยสู่สายตานานาชาติ และชาวไทยได้มีการนำชุดไทยดังกล่าวมาใช้อย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงอัตลักษณ์ของความเป็นไทย และเหมาะสมกับวาระโอกาสต่าง ๆ ทั้งงานพระราชพิธี งานพิธีการต่าง ๆ รวมถึงพิธีแต่งงานของไทยก็ใช้ชุดไทยเช่นกัน ก่อให้เกิดความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาช้านาน แสดงออกถึงคุณค่างานช่างฝีมือของคนไทยในท้องถิ่น และยังเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการสร้างสรรค์ชุดไทยในปัจจุบัน และอนาคต

ปลัด วธ. กล่าวอีกว่า กรณีมีความเคลื่อนไหวในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับรายงานว่า ประเทศกัมพูชาเตรียมเสนอ “ประเพณีแต่งงาน” ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ และมีข้อกล่าวอ้างว่าจะมีการสอดแทรก “ชุดไทย” ในรายการดังกล่าว จนก่อให้เกิดความวิตกในหมู่ประชาชนบางกลุ่ม ในเรื่องนี้ วธ. โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรมได้มีการตรวจสอบแล้ว พบว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เนื่องจากในขณะนี้ ยูเนสโกให้ทุกประเทศปรับแก้ไขลงในแบบเสนอข้อมูลใหม่ ที่จะใช้ในการเสนอในรอบปี ค.ศ. 2025-2026 ดังนั้น ข้อมูลที่ว่ากัมพูชาใช้ชุดไทยในประเพณีแต่งงานแบบเขมร จึงยังไม่พบข้อมูลยืนยันว่ามีการอ้างอิงถึง “ชุดไทย” หรือการสอดแทรกเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการแต่งกายแบบไทยแต่อย่างใด

ทั้งนี้ การเสนอขึ้นทะเบียนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ต่อยูเนสโก มิได้เป็นการแสดงความเป็นเจ้าของเหนือวัฒนธรรมใด แต่เป็นการแสดงถึงการสืบทอดคุณค่าในชุมชน องค์การยูเนสโกส่งเสริมให้ประเทศต่าง ๆ เสนอรายการวัฒนธรรมของตนอย่างโปร่งใส บนพื้นฐานของความร่วมมือ ความเคารพซึ่งกันและกัน และการอยู่ร่วมกันในความหลากหลาย ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ รายการ “ชุดแต่งกายเคบายา” (Kebaya) ที่มีการเสนอขึ้นทะเบียนร่วมกันโดยประเทศสิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย บรูไน และไทย หรือกรณี “โขน” ของไทย และ “ลครโขล” ของกัมพูชา ที่ต่างฝ่ายต่างเสนอในรูปแบบอิสระตามบริบทของตนในปี พ.ศ. 2561 โดยไม่กระทบต่อกัน

 

 

 

ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าประเทศที่มีรากวัฒนธรรมใกล้เคียงกันสามารถเสนอแยกกัน หรือเสนอร่วมกันหลายชาติ หรือหลายประเทศ (Multinational Nomination) ได้ ภายใต้เจตนารมณ์แห่งมิตรภาพ อย่างไรก็ดีกระบวนการพิจารณาของยูเนสโก ตรวจสอบเนื้อหาอย่างละเอียด โดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของยูเนสโก ที่ยึดหลักความโปร่งใส ความเคารพซึ่งกันและกัน และส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างประเทศ ซึ่งการที่ประเทศไทยเสนอ “ชุดไทย” ขึ้นทะเบียนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของยูเนสโก เพื่อให้ชุดไทยได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ และเป็นการสืบสานมรดกทางวัฒนธรรมไทย ให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก ด้วยความภาคภูมิใจ ภายใต้หลักของความเข้าใจ ความสร้างสรรค์ และการอยู่ร่วมกันอย่างสง่างามของมนุษยชาติ

ทั้งนี้ ปลัด วธ. เน้นย้ำว่า ประเทศไทยยึดมั่นในการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีความเชื่อมโยงทางประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรมมาอย่างยาวนาน ความเข้าใจที่ถูกต้อง จึงเป็นหัวใจสำคัญของความร่วมมือในระดับภูมิภาค และไม่ควรให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือข่าวลือมาบั่นทอนสายสัมพันธ์อันดีดังกล่าว ยูเนสโกยืนยันเสมอว่า วัฒนธรรมคือสะพาน ไม่ใช่กำแพง การขึ้นทะเบียนชุดไทย จึงเป็นการแสดงความหวงแหนและภาคภูมิใจในสิ่งที่เป็นของเรา และพร้อมส่งต่อให้เป็นสมบัติร่วมของมนุษยชาติ

อย่างไรก็ตาม วธ.ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมกันส่งแรงสนับสนุนให้ “ชุดไทย” และ “มวยไทย” ซึ่งอยู่ในกระบวนการพิจารณาของยูเนสโกในปี2569 และปี 2571 ตามลำดับ ให้ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนในระดับนานาชาติ โดยยึดหลักความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมของชาติ ความเข้าใจในบริบทสากล และการส่งเสริมภาพลักษณ์ไทยในเวทีโลกอย่างสร้างสรรค์

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"นายกฯอิ๊งค์" ยิ้มตอบสื่อ โดนซักปมสหรัฐฯยันขึ้นภาษี 36 % คืบหน้าทำคำชี้แจงศาลรธน.
ตร.รวบต่างด้าวชาวกัมพูชา ปลอมเป็นพระ ลอบเข้าไทยผิดกม. สุดเนียนพูดไทยคล่อง
ฉะเชิงเทรา จัดโครงการปลูกฝังจิตสำนึกรักสามัคคีและส่งเสริมความปรองดองของคนในชาติ
"บิ๊กเต่า" เผยสอบปากคำ "พระนิทัศน์-อดีตเลขาฯ เจ้าอาวาส" เป็นประโยชน์ต่อคดี จ่อสอบเส้นเงิน "เจ้าอาวาสวัดม่วง" โยงเงินวัด
"จอนนี่มือปราบ" ร้อง ป.ป.ช.เอาผิดอธิบดีฯ ชี้ถูกการเมืองเล่นงาน ลั่นคนโง่ไม่ควรเป็นผู้นำ
“อัยการคุ้มครองสิทธิฯ” จ.น่าน ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง เทศบาลตำบลศรีษะเกษ ตั้งศูนย์ช่วยเหลือทางกฎหมาย ลดเดือดร้อนปชช.
ครม. เห็นชอบโครงการลงทะเบียนสำรวจประชาชนที่ไม่มีสมาร์ตโฟน เล็งเพิ่มช่องทางเข้าถึงนโยบายรัฐ
"บิ๊กป้อม" ไม่ถอดใจ หลุดแคนดิเดตนายกฯ โยนรัฐบาลเป็นฝ่ายควรถอดใจ แก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้
การดำเนินงานของประเทศไทยภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ค.ศ. ๒๐๐๓
ฉะเชิงเทรา ตำรวจรวบผู้จัดการขนส่งเอกชนขายยาบ้าและยาไอซ์

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น