เก็งข้อสอบ “สว.ทหาร” รอซักนายกฯ ปมขัดแย้งชายแดนไทย-เขมร

เปิดปมการเมืองเขมรระส่ำ โยนบาปไทย "ศัตรูภายนอก" กลบปัญหา

ภายหลังคณะกรรมาธิการการทหาร วุฒิสภา กล่าวถึง กรณีที่ได้มีการเชิญ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มาชี้แจงกรณีสถานสถานการณ์ ในประเด็นความมั่นคง 3 ประเด็น คือ

1. ประเด็นจุดยืนและแนวปฏิบัติข้อพิพาทบริเวณพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา
2. ประเด็นสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
3. ประเด็นความปลอดภัยไซเบอร์และการต่อต้านการฟอกเงิน

 

ข่าวที่น่าสนใจ

สำหรับแนวโน้มคำถาม ที่กรรมาธิการเตรียมซักถามนายกฯ หรือตัวแทนฝ่ายความมั่นคง ที่ท่านนายกฯ จะส่งมา โดยเฉพาะในประเด็นอธิปไตยของประเทศ ตลอดแนวชายแดนไทย กัมพูชา มีการเก็งข้อสอบไว้กว้างๆ ตามที่ทีมข่าวได้รับรายงานมา อาทิ

– กรณีกองทัพภาคที่ 2 รายงานปัญหาชายแดนไทย กัมพูชา ไปยังกระทรวงการต่างประเทศ เป็นหนังสือกว่า 100 ฉบับ ที่ผ่านมา มีการดำเนินการไปอย่างไรบ้าง

– จากเดิมพื้นที่ปราสาทตามที่กัมพูชาเรียกร้อง เคยมีรั้วล้อม และมีทหารไทยเฝ้าเปิด-ปิดเป็นเวลา ปัจจุบันรั้วที่เคยล้อมปราสาทอันตรธารหายไปได้อย่างไร

– ข้อพิพาทกัมพูชา จะถูกยกระดับจากปัญหาชายแดนเป็นภัยคุกคามด้านตะวันออกได้หรือไม่ จะมีการปรับแผนเผชิญภัยคุกคามด้านนี้หรือไม่

– รัฐบาลมีแผนและมาตรการในการกดดัน ตอบโต้ รวมถึงการปฏิบัติอื่นๆ ในทุกมิติต่อประเทศกัมพูชา อย่างไร

– จะมีการประชาสัมพันธ์เชิงรุก ต่อกรณีปัญหาความขัดแย้งด้านกัมพูชา เพื่อให้ประชาชนรับทราบข้อเท็จจริง อย่างทันท่วงทีได้อย่างไร

– รัฐบาลแนวทางในการแก้ปัญหาและตอบโต้ การเคลมในด้านประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมของประเทศกัมพูชา อย่างไรบ้าง

– มีแนวทางและมาตรการแก้ปัญหาการกดดันจากประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะฝรั่งเศสในการเดินสายของผู้นำกัมพูชา และการยื่นเรื่องต่อศาลโลก อย่างไร

 

ก่อนหน้านี้ ฝ่ายความมั่นคงมีการวิเคราะห์ว่า ปัญหาภายในทางการเมืองของประเทศกัมพูชา กำลังถูกหยิบยกขึ้นมาในเวทีระดับนานาชาติ โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายระหว่างประเทศและสิทธิมนุษยชน อันอาจนำไปสู่ผลกระทบภายในประเทศ ทั้งในแง่เสถียรภาพทางการเมืองและความเชื่อมั่นของประชาชน

 

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ อาจเกิดแนวโน้ม ที่รัฐบาลกัมพูชาอาจจะใช้ “ศัตรูภายนอก” เป็นเครื่องมือในการเบี่ยงเบนความสนใจจากปัญหาภายใน เพื่อรวมศูนย์อำนาจและสร้างเอกภาพในหมู่ประชาชน

ในบริบทนี้ประเทศไทยโดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ชายแดน อาจถูกเลือกให้เป็น “ตัวแสดง” หนึ่งในกลเกมทางการเมืองดังกล่าว นอกจากนี้ ยังพบว่าบทบาทของคณะทูตไทยในเวทีระหว่างประเทศ ยังคงอยู่ใน ลักษณะเชิงรับ ขาดการแสดงออกอย่างชัดเจนถึงจุดยืนของรัฐ ในการปกป้องอธิปไตยและผลประโยชน์แห่งชาติ

ท่ามกลางบริบทที่ประเทศคู่ขัดแย้งอย่างกัมพูชา มีความสามารถในการใช้วาทกรรม และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับตนเองมากกว่า สะท้อนถึงความจำเป็น ในการปรับท่าทีเชิงนโยบายต่างประเทศของไทยใ ห้มีลักษณะเชิงรุกและบูรณาการมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

บิ๊กกุ้งเห็นด้วยสร้างกำแพงกั้นชายแดนไทย-เพื่อนบ้านหลังตอบรับคำถามนักเรียนในงานรักชาติ แผ่นดินไทย
ม.วลัยลักษณ์–อว. หนุนเยาวชนพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น
มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งระดมทีมกู้ชีพ–กู้ภัย พร้อมครัวสนาม ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยเพชรบูรณ์–เหนือ แจกถุงยังชีพ–อาหารสัตว์ และเดินหน้าฟื้นฟูหลังน้ำลดแบบครบวงจร
“สุรินทร์” ย้ำยึดมติพรรค ปชป. โหวตนายกฯ คนที่ 32
จิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ สนับสนุนแนวพระราชดำริ
ด่วน "วันนอร์" สั่งสภาฯบรรจุวาระโหวตนายกฯคนที่ 32 แล้ว วันที่ 5 ก.ย.นี้

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​