“ศรีสุวรรณ” ยื่น กกต.สอบ “ประชาธิปัตย์” เสนอชื่อ “เดชอิศม์-ชัยชนะ” นั่งรมต. เป็นไปตามข้อบังคับพรรคหรือไม่

“ศรีสุวรรณ” บุก กกต.ร้องสอบ กก.บห.พรรคประชาธิปัตย์ มีมติให้เดชอิศม์-ชัยชนะเป็น รมต.ชอบด้วยข้อบังคับของพรรคหรือไม่

“ศรีสุวรรณ” ยื่น กกต.สอบ “ประชาธิปัตย์” เสนอชื่อ “เดชอิศม์-ชัยชนะ” นั่งรมต. เป็นไปตามข้อบังคับพรรคหรือไม่ – Top News รายงาน

 

 

ศรีสุวรรณ

 

เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00 น.ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ได้เดินทางมายื่นคำร้องชี้เบาะแส ให้นายทะเบียนพรรคการเมือง สอบการใช้อำนาจของคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ในการเสนอชื่อนายเดชอิศม์ ขาวทอง และนายชัยชนะ เดชเดโช ขึ้นเป็นรัฐมนตรี เป็นไปตามข้อ 96(2) ของข้อบังคับพรรคประชาธิปัตย์ ตามประกาศของนายทะเบียนพรรคการเมือง ฉบับ 27 มิ.ย.67 หรือไม่

 

ศรีสุวรรณ

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้สืบเนื่องจากการให้สัมภาษณ์ของ นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า พรรคประชาธิปัตย์มีข้อบังคับกำหนดไว้ชัดเจน ในการคัดเลือกบุคคล เข้าดำรงตำแหน่งทางการเมือง การเสนอชื่อเข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ต้องผ่านการพิจารณาของกรรมการบริหาร แล้วจึงนำรายชื่อที่ผ่านคณะกรรมการบริหาร เข้าสู่ที่ประชุมร่วมกันของคณะกรรมการบริหาร กับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรค แต่การเสนอชื่อครั้งล่าสุด กลับไม่มีขั้นตอนใดที่เป็นไปตามกติกา ที่กำหนดในข้อบังคับพรรค โดยเฉพาะในข้อ 96 (2) แต่อย่างใด

ดังนั้น เมื่อความปรากฎเยี่ยงนี้ จึงเป็นหน้าที่ของนายทะเบียนพรรคการเมือง ซึ่งก็คือเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่จะต้องดำเนินการตรวจสอบการดำเนิน การเสนอชื่อรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ 2 คนในคณะรัฐมนตรีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร 1/2 เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในข้อบังคับของพรรคประชาธิปัตย์ ข้อ 96 (2) และข้อ 95 (3) โดยเฉพาะนายชัยชนะ เดชเดโช ซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือผู้ที่คณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ มีมติให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นครั้งแรก

 

อย่างไรก็ตาม หากนายทะเบียนพรรคการเมือง ตรวจสอบการใช้อำนาจของคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ข้างต้นแล้ว หากไม่เป็นไปตามข้อบังคับพรรค ก็อาจถือได้ว่าเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับพรรคประชาธิปัตย์ ข้อ 24 ว่าด้วยมาตรฐานจริยธรรม ของคณะกรรมการบริหารพรรค และสมาชิกพรรคอีกด้วย ซึ่งเป็นหน้าที่ของนายทะเบียนพรรคการเมือง ที่จะต้องเร่งดำเนินการตรวจสอบ เพื่อให้เป็นไปตาม พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 15 (13) มาตรา 21 วรรคแรก และวรรคสาม มาตรา 22 วรรคแรกและวรรคสี่ ประกอบมาตรา 104 และมาตรา 92 (2) ซึ่งคณะกรรมการบริหารพรรคทั้งหมด อาจต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้น มีกําหนด 5 ปี

 

นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า ท้ายที่สุด กรณีดังกล่าวหากคณะกรรมการการเลือกตั้ง วินิจฉัยว่า เป็นการกระทําการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ก็อาจต้องยื่นศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองดังกล่าวได้ต่อไป

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ลงนาม MOU ออนไลน์ “ ระหว่างศูนย์ความร่วมมือไทย-จีน กับ อบจ.นครราชสีมา”
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานสิ่งของอุปโภคบริโภคแก่ข้าราชการตำรวจในพื้นที่ชายแดน จ.สุรินทร์ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะ
พ.ต.ท.สุชาติ ดุสดี สวป.สภ.เมืองพัทยา สุดปัง! คว้าข้าราชการตำรวจดีเด่น ระดับสารวัตร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 2 ปีซ้อน
เลย ผอ.สปร.ทบ. เนื่องในโอกาสเดินทางมาตรวจเยี่ยมและติดตามความคืบหน้า การดำเนินโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
สกพอ.เดินหน้าจัดแฟมทริปภายใต้โครงการ EEC Select ชวนสัมผัสเสน่ห์จังหวัดชลบุรี สร้างเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน
รัสเซียชี้ยุโรปส่งทหารไปประจำยูเครนเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​