วันที่ 9 ตุลาคม 2564 นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ ได้เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 64 ที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วย นายบุญประสงศ์ นวลสายย์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ นายชัยยงค์ เมธาสุรวิทย์ นายอำเภอราษีไศล นายภัทรพงศ์ ภาชู นายช่างชลประทานชำนาญการ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามูลล่าง (เขื่อนราษีไศล) และผู้เกี่ยวข้องได้ร่วมกันออกไปตรวจติดตามการระบายน้ำลำน้ำมูลของเขื่อนราษีไศลที่เขื่อนราษีไศล อ.ราษีไศล ซึ่งขณะนี้เขื่อนราษีไศล ได้ยกประตูระบายน้ำขึ้นทั้ง 7 บาน ทำให้การระบายน้ำเป็นไปอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่งโมง หลังจากนั้น นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และคณะ ก็ได้เดินทางไปตรวจสถานีวัดระดับน้ำ M5 สะพานราษีไศล โดยขณะนี้ระดับในลำน้ำมูลได้ลดลงเล็กน้อย
นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ระดับน้ำในลำน้ำมูลได้ลดระดับลงแล้ว ส่วนน้ำจากจังหวัดนครราชสีมานั้น ขณะนี้น้ำได้เดินทางมาถึง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์แล้ว คาดว่าจะมาถึง จ.ศรีสะเกษ ประมาณ 4 – 5 วันนี้ จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่แถบลำน้ำมูลเช่น อ.ห้วยทับทัน บึงบูรพ์ ศิลาลาด ราษีไศล ยางชุมน้อย เมืองศรีสะเกษ และ อ.กันทรารมย์ ได้ระมัดระวังในเรื่องน้ำท่วมจุดเสี่ยงที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ ให้เฝ้าระวังระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงเตรียมพร้อมในการขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงให้พ้นจากแนวน้ำท่วมไว้ก่อน และขอให้คอยฟังประกาศสถานการณ์น้ำจากทางราชการอย่างใกล้ชิดด้วย จากการสำรวจพื้นที่ความเสียหายของภาคการเกษตร โดยเฉพาะนาข้าวในพื้นที่ราบลุ่ม ทั้ง 8 อำเภอ พบว่าได้รับความเสียหายประมาณ 97,000 ไร่ ซึ่งทาง จ.ศรีสะเกษ จะได้มีการสำรวจและตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อพิจารณาให้การช่วยเหลือเยียวยาตามระเบียบของราชการอย่างเร่งด่วนต่อไป.
ภาพ/ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ
