วันที่ 9 ต.ค. – นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า “ความยุติธรรม เป็นเสาค้ำยันระบอบประชาธิปไตย ในระบอบประชาธิปไตยมีคำกล่าวว่า “ความยุติธรรม คือเสาค้ำยันระบอบประชาธิปไตย” ผมไม่ต้องอธิบายว่ามีความหมายอย่างไร เพราะผมเขียนเรื่องแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว ระบอบประชาธิปไตยในเมืองไทยถูกทำให้บิดเบี้ยว กลายเป็น “ธนาธิปไตย” จนคนไทยส่วนหนึ่ง มีความเห็นว่าเลือกใครก็เหมือนกัน เอาเงินไว้ก่อน ความเชื่อนี้ถือว่าบิดเบี้ยวสุดๆแล้ว จากนั้นระบอบประชาธิปไตยเมืองไทยก็ดำดิ่งลงไปอีก ถึงจุดที่ประชาชนเชื่อว่าไม่มีผู้แทนราษฎรเราก็อยู่ได้”
นายนิพิฏฐ์ ระบุต่อว่า วันนี้ตนจึงชวนผู้คนในกระบวนการยุติธรรม ไม่ว่าในศาลรัฐธรรมนูญ และศาลฎีกาคุยเรื่องนี้ เหตุเพราะขณะนี้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหลายคน ถูกศาลสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ รอการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และศาลฎีกาอยู่หลายคน เป็นเหตุให้ในหลายพื้นที่ของประเทศไม่มีผู้แทนราษฎรปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งในระบอบประชาธิปไตยแล้ว ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ ยกตัวอย่าง ในจังหวัดพัทลุง มี 2 เขตเลือกตั้ง (จาก 3 เขตเลือกตั้ง) ส.ส.ถูกสั่งให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่ และยังมีกรณีนี้เกิดขึ้นอีกในหลายจังหวัด
ตนว่าศาลต้องรีบตัดสินปัญหาเหล่านี้ เพื่อให้ประชาชนได้มีตัวแทนของเขาปฏิบัติหน้าที่เหมือนในพื้นที่อื่นๆ รอนานไปจนประชาชนมีความรู้สึกว่าไม่มีตัวแทนเราก็อยู่ได้ ตนว่ามันกัดกร่อนความเป็นประชาธิปไตยจนหมดสิ้นแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญ หรือศาลฎีกา ที่มีคดีเหล่านี้อยู่ในชั้นศาล น่าจะทบทวนการพิจารณาคดีให้เร็วขึ้น มีคำกล่าวไม่ใช่หรือว่า “ความยุติธรรมที่ล่าช้า คือความอยุติธรรม” เมื่อกระบวนการยุติธรรมเป็นเสาค้ำยันระบอบประชาธิปไตย จึงต้องพิสูจน์ว่า ศาลรัฐธรรมนูญ และศาลฎีกา ทำหน้าที่เป็นเสาค้ำยันระบอบประชาธิปไตย หรือกำลังเอาเสาค้ำยันออกจากระบอบประชาธิปไตย