“นายกฯ” รับแล้ว นั่งควบ “รมว.วัฒนธรรม” อ้างผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ ไม่เกี่ยวศาลรธน. แต่กังวลอาจโดนสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่
ข่าวที่น่าสนใจ
30 มิ.ย 68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวว่าในการปรับคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ครั้งนี้ นายกรัฐมนตรี จะควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมด้วยใช่หรือไม่ ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการ และที่จะต้องดูกระทรวงวัฒนธรรมด้วยเนื่องจากต้องดูเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ ไม่ว่ากระทรวงวัฒนธรรมจะเป็นเกรดบี หรือเกรดซี แต่เป็นกระทรวงที่สำคัญ เพราะเป็นกระทรวงที่สามารถแนะนำวัฒนธรรมของไทยได้ และส่งออกซอฟต์พาวเวอร์ของไทยได้จริง ๆ
เมื่อถามว่า สาเหตุที่ควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นเพราะส่วนหนึ่งมาจากความกังวลต่อคำร้องที่ขอให้ศาลวินิจฉัยให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายกรัฐมนตรีนิ่งคิด ก่อนบอกว่า “ไม่เกี่ยวนะคะ” แต่เป็นเรื่องที่จะต้องเน้นซอฟต์พาวเวอร์ไปด้วย ทำให้ต้องควบวัฒนธรรมด้วย
ส่วนต้องการเน้นอะไรในกระทรวงวัฒนธรรม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะต้องไปดูในกระบวนการต่างๆ ว่ามีอะไรที่สามารถผลักดันเพิ่มเติมได้หรือไม่ เพราะวัฒนธรรมของไทยมีความเข้มข้นและน่าผลักดันอีกเยอะ ควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งไปด้วยกันได้
เมื่อถามถึง กระทรวงกลาโหมที่มีรายงานว่า จะมีการเว้นว่างตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไว้ก่อน นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้รอดู ขณะนี้ทุกอย่างอยู่ในกระบวนการขอให้จบขั้นตอนทุกอย่าง ก็จะเห็นรายชื่อออกมา
เมื่อถามว่ามีความกังวล และประเมินการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญพรุ่งนี้(1 ก.ค.) หรือไม่ หากผลออกมาเป็นลบ รัฐบาลจะเดินหน้าต่ออย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องปล่อยให้เป็นตามกระบวนการ หากถามว่ากังวลหรือไม่ก็ยอมรับว่ามีความกังวล
ส่วนเรื่องของการเตรียมตัวหากผลเป็นลบ หรือได้วางแนวทางต่อการพิจารณาของศาลฯไว้อย่างไรบ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “เน้นเรื่องกระบวนการทำงานก่อน ไม่อยากให้สะดุด เพราะยังมีหลายอย่างเช่นเรื่องกำแพงภาษี ที่ต้องเจรจากับต่างประเทศค่อนข้างเยอะ ซึ่งไม่อยากให้สะดุดในเรื่องนี้อยากทำให้ดี”
ส่วนผลสำรวจนิด้าโพล ที่คะแนนนิยมของนายกรัฐมนตรี ตกมาอยู่ลำดับที่ 5 เช่นเดียวกับความนิยมของพรรคเพื่อไทยที่ลดลงเช่นกัน ประเมินสถานการณ์ตรงนี้อย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าอย่างที่บอกว่าผลโพลทุกสำนักเป็นประโยชน์อยู่แล้ว หากผลโพลมาดีก็มีกำลังใจดี แต่ผลโพลไม่ดีก็ทำให้เตือนใจว่าเราต้องสู้ต่อ ต้องทำงานให้เต็มที่ ต้องแสดงผลงานให้ชัดเจน ต้องสื่อสารกับประชาชนให้ดียิ่งขึ้น เป็นสิ่งที่เรารับฟังอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นผลจากสำนักไหนก็ตาม
ส่วนเรื่องการชุมนุมเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ที่ผ่านมา ได้มีการวิเคราะห์หรือประเมินสถานการณ์อย่างไร นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่า ขอให้อยู่ในกรอบไม่ผิดกฎหมาย ยึดสันติวิธีเนื่องจากเป็นสิทธิเสรีภาพอยู่แล้ว ถ้าไม่มีความรุนแรงก็ถือเป็นสิทธิ คิดว่าไม่ได้มีอะไร
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ว่าจำนวนผู้ชุมนุมจะเยอะขึ้นจนทำให้เสียสมาธิในการทำงาน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราโฟกัสเป็นเรื่องๆไป ทุกคนมีสิทธิ์แสดงออกอยู่แล้วตนก็เน้นเรื่องการทำงาน เพราะเรื่องที่ถืออยู่ตอนนี้ไม่สามารถรอได้สักเรื่อง เพราะฉะนั้นต้องมุ่งเน้นการทำงานทุกเรื่องให้สำเร็จให้จบ และต่อเนื่อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น