“เปิ้ล นาคร” พร้อมภรรยา เข้าแจ้งความ ถูกมิจฉาชีพปลอมเพจขายสินค้า หลอกเหยื่อโอนเงิน เสียหายนับสิบคน

เปิ้ล นาคร พร้อมภรรยา เข้าแจ้งความ ผบช.สอท. หลังถูกมิจฉาชีพปลอมเพจขายสินค้า ส่งผลให้ผู้เสียหายนับสิบคน

“เปิ้ล นาคร” พร้อมภรรยา เข้าแจ้งความ ถูกมิจฉาชีพปลอมเพจขายสินค้า หลอกเหยื่อโอนเงิน เสียหายนับสิบคน – Top News รายงาน

 

เปิ้ล นาคร

เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2568 นายนาคร ศิลาชัย หรือ เปิ้ล นาคร พร้อมด้วย นางกษมา ศิลาชัย ภรรยา เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พลตำรวจโทไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ผบช.สอท. หลังถูกมิจฉาชีพสร้างเพจปลอมหลอกลวงประชาชนให้โอนเงินสั่งสินค้าแกงไก่ของนางกษมา จนมีผู้ได้รับความเสียหายจำนวนมาก

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายนาคร เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้มีผู้เสียหายประมาณ 10 คน ติดต่อสอบถามเข้ามาหาเพื่อสอบถามถึงสถานที่นัดรับสินค้า โดยบอกว่าได้โอนเงินสั่งสินค้าไปแล้ว ตัวเองจึงสอบถามข้อมูลกระทั่งทราบว่า ลูกค้าได้สั่งสินค้าผ่านเพจเฟซบุ๊คชื่อ “หม้อแม่จูน” ซึ่งมีผู้กดติดตามและกดถูกใจกว่า 1,300 คน โดยอ้างว่าจำหน่ายสินค้าแกงไก่ แบรนด์เดียวกันกับของภรรยาตัวเอง ในราคา 459 บาท ต่อแกงไก่ 2,000 กรัม โดยจะมีการจัดโปรโมชั่นต่างๆ และอ้างว่าจะได้สินค้าทันทีในวันที่สั่ง ส่วนบัญชีรับโอนเงินค่าสินค้าก็มีการใช้หลายชื่อหลายบัญชี   ตัวเองจึงขอยืนยันว่าแกงไก่แบรนด์ “หม้อแม่จูน” ไม่มีการเปิดเพจใดๆ โดยจะเปิดรับคำสั่งซื้อผ่านช่องทางเดียวคือ ไลน์เท่านั้น และบัญชีรับโอนเงินจะมีเพียงบัญชีเดียว คือ ชื่อบัญชี “นายนาคร ศิลาชัย” วันนี้ตัวเองจึงอยากมาเป็นกระบอกเสียงเตือนลูกค้าไม่ให้หลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อ จึงได้เดินทางเข้าแจ้งความในวันนี้ และเชื่อว่าหากไม่ดำเนินการจะมีผู้เสียหายเพิ่มมากขึ้นถึง 1 พันคน

 

ด้านพลตำรวจโทไตรรงค์ ระบุว่า คดีนี้มีการแบ่งความเสียหายออกเป็นสองส่วน คือ นายนาครที่เสื่อมเสียชื่อเสียง และส่วนของผู้เสียหายที่เสียทรัพย์ ซึ่งหลังจากนี้จะดำเนินการตรวจสอบพยานหลักฐานที่นายนาคร นำมามอบให้จากผู้เสียหายกว่า 10 คน โดยเบื้องต้น เชื่อว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นมิจฉาชีพซึ่งอยู่ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน

 

ขณะเดียวกันผบช.สอท. ยังฝากเตือนประชาชนให้ตั้งข้อสังเกตให้ดีก่อนโอนเงิน และหากใครที่หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อโอนเงินไปแล้ว ก็ขอให้รีบแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจหรือโทรสายด่วน 1441 เพราะหากเพิกเฉยก็อาจมีผู้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อจนสร้างมูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

จนท.รวบ "หนุ่มเขมร" ลอบขนซิมการ์ด 200 หมายเลข พร้อมยึดเงิน 1 แสนบาท ดำเนินคดีก่อนผลักดันกลับประเทศ
อาหารแปรรูปไม่ใช่ผู้ร้ายเสมอไป สามารถรับประทานได้ปลอดภัย
เกษตรกรยัน ปรับตัวอยู่กับ "ปลาหมอคางดำ" มีข้อดีและไม่อันตรายอย่างที่เป็นข่าว
นายกฯ คุยแก้ส่งออกชายแดนไทย-กัมพูชา ยันไร้สินค้าตกค้าง เร่งกำหนดโควต้าปรับราคาในประเทศ
นายทะเบียนสหกรณ์ ยืนยัน ไม่ได้ออกคำสั่งฯ ให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นเรียกคืนเงินปันผล-เฉลี่ยคืน จากสมาชิก หลังตรวจพบสหกรณ์คำนวนเงินปันผลสมาชิกคลาดเคลื่อน เผยสั่งตั้งคณะตรวจสอบข้อเท็จจริง เอาผิดผู้ปล่อยปละละเลยสร้างความเสียหายแก่สหกรณ์
เจ้าหน้าที่ผลักดันชายกัมพูชาลักลอบเข้าเมืองพร้อมขนซิม 200 เบอร์พร้อมเงินแสน
ทุเรียนไทยดังไกลถึงปักกิ่ง! CPFresh ครบรอบ 5 ปี ผนึกพันธมิตรไทย–จีน จัดเทศกาลใหญ่ ฉลอง 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูต ดันผลไม้ไทยสู่ระดับโลก
สมาคมคนพิการภาคตะวันออก ผนึกกำลังภาคธุรกิจ ขับเคลื่อน “โครงการฝึกงานมาตรา 35” ส่งเสริมอาชีพคนพิการอย่างยั่งยืน
เกาหลีใต้เล็งขอต่อเส้นตายการยกเว้นภาษีสหรัฐ
"สรวงศ์-ชูศักดิ์-วิสุทธิ์" เชื่อศาลรธน.รับคำร้อง สอบจริยธรรม "นายกฯอิ๊งค์" ปมคลิปฮุนเซน ชี้ "ภูมิธรรม" พร้อมรักษาการ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น