ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟสบุ๊ก ประเด็น “โควิด 19 การระบาดของโรค” โดยเนื้อหาระบุว่า ….
ในเกือบทุกประเทศ การระบาดของโรคโควิด 19 จะเริ่มจากในเมือง ที่มีประชากรอยู่หนาแน่น แล้วจึงกระจายไปสู่ต่างจังหวัดและอำเภอ ส่วนหมู่บ้าน จะกระทบทีหลังสุด ไม่ว่าจะเป็นในพม่า ในกัมพูชา และประเทศทางตะวันตก จะเป็นรูปแบบเดียวกันหมด ในปัจจุบัน ทราบดีแล้วว่า (จากการศึกษาในอังกฤษ) การให้วัคซีน นอกจากลดความรุนแรงของโรคแล้ว ยังสามารถลดการแพร่กระจายของโรคลงได้กว่าเท่าตัว ในภาวะที่เกิดการระบาดในประเทศไทย ที่เป็นอยู่ขณะนี้
สิ่งที่จะช่วยการระบาดของโรค คือ การปูพรมฉีดวัคซีน ให้ในจังหวัดสีแดงเข้มก่อน เพื่อควบคุมการระบาดให้ได้ รวมทั้ง กระจายไปยังเมืองใหญ่ก่อน ส่วนเมืองเล็ก หรือชนบท ยังสามารถรอได้ เพราะจะมีผลกระทบท้ายสุด การให้แบบหมู่มากจากเมืองออกไป ในทางปฏิบัติสามารถทำได้ง่ายกว่า และทำได้รวดเร็ว เพราะกลุ่มคนอยู่หนาแน่น และมีโรงพยาบาลที่รองรับ หรือ มีสถานบริการ ที่จะให้บริการเป็นจำนวนมาก เมื่อสามารถควบคุมโรคได้การเก็บตกในการให้วัคซีน สามารถทำได้ง่ายกว่า ในภาวะที่ไม่มีการระบาดของโรค การเลือกเป้าหมายให้กลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ และกลุ่มเสี่ยงต่าง ๆ เป็นวิธีการที่ดี
ประเทศไทย ใหญ่กว่าอิสราเอลมาก ในอิสราเอลเองสามารถเลือกจากกลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ ก่อนได้ แต่สำหรับประเทศไทย ถ้าให้แบบอิสราเอลในแต่ละวัน จะให้ได้จำนวนไม่มาก ดูเรื่องกันการกระตือรือร้นในการลงทะเบียน ไม่ได้มากและเร็วอย่างที่คิด ในการให้กลุ่มแรก ถ้าเลือกเฉพาะกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง หรือมีโรคประจำตัว ผู้สูงอายุ เป้าหมายในการฉีดวัคซีน ในระยะแรกให้ได้ วันละ 3-5 แสน ในทางปฏิบัติจะทำได้ยากพอสมควร หรืออาจจะทำพร้อมกัน ทั้งฉีดหมู่มากในเชิงรุกและรณรงค์ในกลุ่มเสี่ยง ให้กลุ่มเสี่ยงมาฉีดให้มากที่สุด ที่เหลือเป้าหมายก็ให้ในวงกว้างในจังหวัดสีแดงเข้ม
ที่มา : https://www.facebook.com/yong.poovorawan/posts/5625099224199315