“มนพร” เดินหน้าผลักดัน “ท่าเรือระนอง” รับมือขนส่งสินค้าพุ่ง 251 % สั่งการ กทท.เร่งดำเนินการยกระดับเทียบชั้นสากล

"มนพร" เดินหน้าผลักดัน "ท่าเรือระนอง" รับมือขนส่งสินค้าพุ่ง 251 % สั่งการ กทท.เร่งดำเนินการยกระดับเทียบชั้นสากล

วันนี้ 20 มิ.ย. 68 นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม ที่ต้องการยกระดับการให้บริการท่าเทียบเรือ ให้ทัดเทียมมาตรฐานสากล จึงได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ (Joint Working Group Meeting) ภายใต้ MOU ระหว่างการท่าเรือแห่งประเทศไทย (ท่าเรือระนอง) และท่าเรือจิตตะกอง ประเทศบังกลาเทศ ซึ่งจะเป็นจุดสำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค ทั้งในด้านการส่งเสริมการลงทุน การพัฒนาเส้นทางการขนส่งทางทะเลฝั่งอันดามัน เสริมสร้างศักยภาพท่าเทียบเรือ การถ่ายทอดเทคโนโลยี ช่วยตอบสนองความต้องการ ของผู้นำเข้าส่งออกด้วยการลดระยะเวลาการขนส่ง และลดค่าใช้จ่าย ทำให้ภาคการขนส่งของภาคใต้มีศักยภาพ และเติบโตอย่างก้าวกระโดด สร้างความมั่นคง ทางเศรษฐกิจในระยะยาว

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

 

ทั้งนี้ ภาพรวมท่าเรือระนองในปี 2567 ที่ผ่านมานั้น มีตู้สินค้าผ่านท่ารวม 324,933 ตัน เพิ่มขึ้น 251% จากปีก่อนซึ่งในปีนี้ ยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จึงได้สั่งการให้ กทท.เร่งดำเนินการยกระดับท่าเทียบเรือระนอง โดยการพัฒนาทั้งระบบเพื่อผลักดัน ให้เกิดการใช้บริการการขนส่งสินค้า ผ่านท่าเรือระนองของ กทท. ไปยังกลุ่มประเทศ BIMSTEC และอาเซียนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งยังเป็นตัวเลือกที่ดีให้กับผู้ขนส่งสินค้า โดยไม่ต้องผ่านช่องแคบมะละกา สามารถลดระยะเวลาการขนส่งสินค้า และช่วยลดต้นทุนโลจิสต์ของประเทศได้อีกด้วย ดังนั้นในระยะต่อไปท่าเรือของ กทท.จะขึ้นสู่การเป็นศูนย์กลาง การขนส่งของภูมิภาคตามนโยบายที่ได้มอบหมายไว้

 

 

ด้าน นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย เผยต่อว่า ความร่วมมือระหว่างท่าเรือระนองภายใต้การกำกับการดูแล ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) กับท่าเรือจิตตะกองประเทศบังกลาเทศ มีเป้าหมายการดำเนินงานร่วมกัน ในการผลักดันให้เกิดเส้นทางเดินเรือเชิงพาณิชย์ ระหว่างท่าเรือระนองและท่าเรือจิตตะกอง ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมและสร้างประโยชน์ ต่อธุรกิจภาคโลจิสติกส์ การบริหารจัดการท่าเรือ การดำเนินงาน ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร การขนส่งชายฝั่ง และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับท่าเรือ ฯลฯ

สำหรับการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ถือเป็นการต่อยอดการดำเนินงานร่วมกัน ระหว่างทั้งสองท่าเรือ ภายใต้กรอบความเข้าใจฯ และยังเป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมความเชื่อมั่น ว่าการดำเนินงานเชิงรุกควบคู่ กับการพัฒนาความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยเสริมสร้างจุดแข็งให้ท่าเรือระนองพร้อมรองรับ การเติบโตของภาคการขนส่งทางทะเล นำไปสู่บทบาทใหม่ในฐานะประตูการค้าของไทย และศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาคที่ยั่งยืน

 

 

อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมาผู้บริหาร และคณะเจ้าหน้าที่การท่าเรือฯ ได้เข้าร่วมกิจกรรมเจรจาธุรกิจการค้า (Business Matching) ภายใต้โครงการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างมูลค่า เพื่อเชื่อมโยงการค้ากับกลุ่มประเทศ BIMSTEC และอาเซียน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ณ เฮอริเทจ แกรนด์ คอนเวนชั่น อำเภอเมือง จังหวัดระนอง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับเศรษฐกิจท้องถิ่น เพิ่มช่องทางการค้าการลงทุน และเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน ของผู้ประกอบการไทยในเวทีระดับภูมิภาค ซึ่งมีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมกิจกรรม อาทิ ผู้ประกอบการสินค้าที่มีศักยภาพ ผู้ประกอบการจากกลุ่ม BIMSTEC และอาเซียน ผู้ประกอบการการค้าชายแดน ผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ บริษัทสายการเดินเรือโอกาสนี้ผู้อำนวยการ กทท.ได้ขึ้นเวทีนำเสนอในหัวข้อ “ศักยภาพของท่าเรือระนอง ในการเป็นประตูการค้าของไทย” โดยได้เน้นย้ำถึงข้อได้เปรียบ ในการขนส่งสินค้าผ่านท่าเรือระนอง ไปยังกลุ่มประเทศ BIMSTEC

 

 

โดยล่าสุด กทท.ได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจระหว่าง กทท. (ท่าเรือระนอง) และการท่าเรือจิตตะกอง ครั้งที่ 2 เพื่อหารือถึงแนวทางการผลักดัน เส้นทางการขนส่งสินค้าระหว่างท่าเรือระนองและท่าเรือจิตตะกอง โดยมีประธานการท่าเรือจิตตะกอง ผู้แทนจากสถานทูตบังกลาเทศ ประจำประเทศไทย และประธานหอการค้าไทย-บังกลาเทศ เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ รวมถึงคณะเจ้าหน้าที่จากการท่าเรือจิตตะกอง และผู้แทนจากกรมเอเชียใต้ กระทรวงต่างประเทศได้เข้าร่วมในรูปแบบออนไลน์ ซึ่งผลการประชุม ได้มอบหมายให้ฝ่ายไทย และฝ่ายบังกลาเทศร่วมกันจัดตั้งคณะทำงาน (Joint Working Group Committee) โดยให้พิจารณาผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเสนอให้แต่ละฝ่ายรับทราบต่อไป อีกทั้งให้กำหนดผู้ประสานงานของแต่ละฝ่าย เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันอย่างสม่ำเสมอ และให้เพิ่มความถี่ของการประชุมร่วมกันเป็นปีละ 1 ครั้ง ซึ่งการประชุมดังกล่าว ถือเป็นการยกระดับการดำเนินการร่วมกัน ให้มีความเข้มข้น และเป็นรูปธรรมเพิ่มมากขึ้นต่อไป

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สิบล้อขับพุ่งชนรถพ่วงจอดเสียซ่อมข้างทาง พบยาบ้า ยาไอซ์ และ เครื่องชั่ง
ทหารพราน ทพ.1304 สังกัด กองกำลังบูรพา รวบ 6 คนไทย ลอบข้ามแดนกลับไปทำงานคาสิโนปอยเปต
“นายกฯ” ยันเหตุไมค์โขกศีรษะ นักข่าวไม่ได้ตั้งใจ ขอบคุณทุกความห่วงใย
ชาวบ้านรวมใจส่งใจไปชายแดน มอบสิ่งของเป็นขวัญกำลังให้ทหารหาญ
"มนพร" เดินหน้าผลักดัน "ท่าเรือระนอง" รับมือขนส่งสินค้าพุ่ง 251 % สั่งการ กทท.เร่งดำเนินการยกระดับเทียบชั้นสากล
รมว.กลาโหมกัมพูชาแขวะกองทัพไทยอวดศักยภาพอาวุธ
จีนดับ 3 รายน้ำท่วม 'อาคารจอดรถใต้ดิน'หูหนาน
“อนุทิน” ยันข่าวปลอม “เนวิน” คุยลุง หนุน “พีระพันธุ์” เป็นนายกฯ สวน “ภูมิธรรม” ไม่เคยคิดฉวยโอกาส ลั่นชัดไม่ตั้งรัฐบาลสู้
จันทบุรี กัมพูชาส่งเอกสารปิดผนึกถึงผู้ว่าจันทบุรี
"พงศ์พรหม" ชำแหละ "นายกอิ๊งค์" โดนแบล็คเมล์ รอบ 2 โชว์บุญคุณ เหนือตระกูลชิน ชี้ไม่จบง่าย "ฮุน เซน" ขย่มต่อนักการเมือง ทุนไทยเทา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น