‘สตง.’ ทำหนังสือด่วน ถึงอธิบดีสถ. เตือนชงโครงการใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้าน ในเวลาแค่ 3 วัน ไม่รอบคอบ-เสี่ยงเสียหาย
ข่าวที่น่าสนใจ
17 มิ.ย.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ได้ทำหนังสือด่วนที่สุด เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2568 ถึงอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เรื่องการกำชับและกำกับดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเกี่ยวกับการเสนอโครงการและคำของบประมาณเพื่อดำเนินการตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 157,000ล้านบาท
โดยหนังสือมีเนื้อหาระบุว่า ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 พ.ค.68 เห็นชอบแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท และมอบหมายหน่วยรับงบประมาณจัดทำโครงการและคำของบประมาณเพื่อดำเนินการตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ตามที่คณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ในการประชุมครั้งที่ 2/ 2568 เมื่อวันที่ 19พ.ค.68 มีมติเสนอต่อคณะรัฐมนตรี ต่อมากระทรวงมหาดไทยได้มีหนังสือแจ้ง ให้สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดได้แจ้งและรวบรวมข้อเสนอโครงการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ
และกรมฯได้ให้ สำนักงานท้องถิ่นจังหวัด แจ้งต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ ได้พิจารณาศึกษาแนวทางการจัดทำโครงการและขอรับจัดสรรงบประมาณ เพื่อดำเนินการตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดังกล่าว โดยให้สำรวจข้อมูลแผนงาน/โครงการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความสอดคล้องกับหลักเกณฑ์และแนวทางที่สำนักงบประมาณกำหนด และรวบรวมข้อเสนอโครงการส่งให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ภายในวันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม 2568 นั้น
ล่าสุดทางสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน พิจารณาแล้วเห็นว่าเรื่องดังกล่าวเป็นการดำเนินการอย่างเร่งรัดในระยะเวลาเร่งด่วน ประกอบกับแนวทางการจัดทำโครงการและการขอรับจัดสรรงบประมาณยังอยู่ระหว่างการพิจารณาศึกษาตามที่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้แจ้ง จึงขาดความชัดเจนเป็นแนวทางเดียวกัน การดำเนินการตามข้อสั่งการข้างต้น จึงอาจขาดความรอบคอบ ระมัดระวังในการสำรวจข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน อันอาจส่งผลให้การกำหนดวงเงินงบประมาณในข้อเสนอโครงการที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดทำคลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริงและอาจทำให้การใช้จ่ายงบประมาณในการดำเนินงาน/โครงการไม่เกิดผลสัมฤทธิ์และประสิทธิภาพ ดังเช่นแผนงาน/โครงการเร่งด่วนหลายๆ โครงการที่ผ่านมา
ดังนั้น เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน ลดความเสี่ยงด้านความคุ้มค่า และป้องกันมีให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ รวมทั้งเป็นไปตามกฎหมายระเบียบที่เกี่ยวข้อง อาศัยอำนาจมาตรา 53 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. 2561
จึงขอให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นพิจารณาดำเนินการโดยกำชับ และกำกับดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ดำเนินการในทุกขั้นตอนด้วยความระมัดระวัง ละเอียด รอบคอบ และต้องคำนึงถึงการกระทำการใดๆ อันอาจเล็งเห็นได้ว่าเป็นเหตุหรือช่องทางในการเรียกรับผลประโยชน์อื่นใดเพื่อตนเองหรือผู้อื่นทั้งทางตรงและทางอ้อมโดยมิชอบจากการดำเนินโครงการตามมาตรการดังกล่าวข้างต้น รวมทั้งขอให้ระมัดระวังการกระทำด้วยประการใด ๆ ที่อาจเข้าข่ายเป็นการกระทำตามมาตรา 88 ของพระราชบัญญัติดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพุธ ที่ 18 มิ.ย. เวลา 14.00 น. นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ(บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ) ครั้ง3/2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล จะมีประเด็นสำคัญคือการพิจารณาอนุมัติโครงการ ตามที่คณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งมีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ว่า ขณะนี้คณะอนุกรรมการฯ ได้พิจารณาแผนงาน และคำของบประมาณภายใต้กรอบวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจระยะสั้นของรัฐบาลเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วจะได้นำเข้าสู่การพิจารณาด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง