จากกรณี ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรี ของกัมพูชา ออกการณ์ ถึงสถานการณ์ขัดแย้งพื้นที่ชายแดนกลับประเทศไทย โดยยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชายึดหลัก 4 ข้อ ซึ่งหากตรวจสอบข้อมูลจากผู้เกี่ยวข้องฝ่ายไทย ไม่ว่าจะเป็นของกองทัพบก ,พลตรีณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาค 2 ในฐานะอดีตผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี รับผิดชอบพื้นที่อีสานใต้มายาวนาน รวมถึงข้อมูลจากพลตรีวันชนะสวัสดี หรือ ผู้พันเบิร์ด รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ก็จะพบว่าสวนทางกับคำชี้แจงของฮุนมาเน็ตอย่างสิ้นเชิง โดยไล่เรียงมีประเด็นดังนี้
1.ฮุน มาเนต บอกว่า กัมพูชายึดมั่นในจุดยืนในการรักษาสันติภาพ มิตรภาพ และความร่วมมืออันดีกับไทย
แต่ข้อเท็จจริงพบว่า ที่ผ่านมากัมพูชาละเมิด MOU43 มาโดยตลอด ทั้งขยายชุมชน สร้างกาสิโน ปลูกพืชไร่ประชิดชายแดนที่เป็นการทำลายสันปันน้ำ ไทยประท้วง 400 กว่าครั้ง แต่ฝ่ายกัมพูชาให้ความร่วมมือแก้ไขน้อยมาก นอกจากนี้วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 68 กัมพูชายังเผาศาลาตรีมุข และเคลื่อนกำลังขึ้นมาวางที่ต้นพญาสัตบรรณ ซึ่งล้ำอธิปไตยไทยเข้ามาประมาณ 150 ม. รวมถึงขุดคูเลททำลายสันปันน้ำละเมิด MOU43
อีกทั้งการละเมิดแต่ละครั้งนำไปสู่การปะทะ เและจะมีข้อตกลงหยุดยิง ได้แก่
-ข้อตกลงหยุดยิงช่องสะงำจอม
-ข้อตกลงหยุดยิงจอมโปรเสม็ด
-ข้อตกลงปฏิบัติร่วมไทยกัมพูชาประสาทตาเมือน
-ข้อตกลงปฏิบัติร่วมไทยกัมพูชาประสาทตาควาย
-ข้อตกลงปฏิบัติร่วมไถ่กัมพูชาช่องกร่าง
-MOU43
-คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทยกัมพูชา
รวมถึงครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 68 ที่เกิดเหตุปะทะช่องบก เพราะทหารกัมพูชาเปิดฉากยิงทหารไทยก่อน