CNN และ BBC รายงานว่าทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีเมื่อวานนี้ (พุธที่ 4 มิย.) ให้กระทรวงต่างประเทศสหรัฐระงับการออกวีซ่าให้กับนักศึกษาใหม่ต่างชาติทุกคนที่สมัครมาเรียนที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ไม่ว่าจะด้วยทุนส่วนตัวหรือภายใต้โครงการแลกเปลี่ยน โดยเบื้องต้นให้มีผลบังคับใช้เป็นเวลา 6 เดือน แต่อาจมีการขยายเวลาออกไปในภายหลัง โดยผู้นำสหรัฐอ้างเหตุผลด้านความมั่นคง
นอกจากนี้ทรัมป์ยังมีคำสั่งให้กระทรวงต่างประเทศสหรัฐทบทวนเพิกถอนวีซ่านักศึกษาและนักศึกษาแลกเปลี่ยน ประเภท F, M, และ J ของนักศึกษาปัจจุบันหากพิจารณาแล้วพบว่ามีคุณสมบัติเป็นภัยคุกคามความมั่นคงภายใต้กฎเกณฑ์ของทรัมป์
ด้านโฆษกมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สถาบันการศึกษาชื่อดัง เก่าแก่และมั่งคั่งที่สุดของสหรัฐออกแถลงการณ์ตอบโต้ทันทีโดยกล่าวหาว่าคำสั่งล่าสุดของทรัมป์ละเมิดมาตรา 1 ของกฎหมายรัฐธรรมนูญสหรัฐหรือ First Amendment ว่าด้วยสิทธิเสรีภาพการแสดงออกขั้นพื้นฐานของฮาร์วาร์ด พร้อมประกาศจะเดินหน้าปกป้องนักศึกษาต่างชาติซึ่งมีจำนวนมากถึง 27% ของนักศึกษาฮาร์วาร์ดทั้งหมด
คำสั่งระงับวีซ่านักศึกษาฮาร์วาร์ดมีขึ้นหลังจากผู้พิพากษาที่ศาลนครบอสตันสั่งระงับคำสั่งของทรัมป์ที่ให้เพิกถอนอำนาจฮาร์วาร์ดในการรับนักศึกษาต่างชาติเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากก่อนหน้านี้ทรัมป์ได้สั่งตัดงบและความช่วยเหลือต่างๆต่อฮาร์วาร์ดหลายต่อหลายครั้งเพื่อตอบโต้ที่ฮาร์วาร์ดไม่ยอมส่งข้อมูลส่วนตัวของนักศึกษาต่างชาติให้กับรัฐบาลสหรัฐ
เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กระทรวงต่างประเทศสหรัฐได้สั่งให้สถานกงสุลอเมริกันทั่วโลกตรวจสอบใบสมัครวีซ่านักศึกษาที่ต้องการมาเรียนฮาร์วาร์ด หลังจากกล่าวหาฮาร์วาร์ดมีเชื่อมโยงกับรัฐบาลต่างชาติ รวมทั้งกล่าวหาว่ารับเงินจากจีน 150 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ขณะที่นักศึกษาต่างชาติฮาร์วาร์ดหลายคนอยู่เบื้องหลังการชุมนุมประท้วงต่อต้านยิว
แถลงการณ์ของทรัมป์ยังอ้างด้วยว่าตำรวจเอฟบีไอออกมาเตือนนานแล้วว่าศัตรูของสหรัฐได้แฝงตัวเข้ามาเรียนในมหาวิทยาล้ยสหรัฐเพื่อขโมยข้อมูลและผลวิจัย รวมทั้งสร้างข่าวเท็จเพื่อบ่อนทำลายสหรัฐ