แถลงการณ์ล่าสุดที่รัฐบาลกัมพูชา เผยแพร่เมื่อกลางดึกของวันที่ 4 มิถุนายน มีความยาวเกือบสองหน้ากระดาษ มีเนื้อหาระบุว่า รัฐบาลกัมพูชาดำเนินนโยบายต่างประเทศยึดมั่นในสันติภาพ มิตรภาพ และความร่วมมือระหว่างประเทศต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีพรมแดนร่วมกันในช่วงเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส
นับตั้งแต่ได้รับเอกราช ยกเว้นยุคการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของเขมรแดง กัมพูชายึดมั่นในพันธกรณีอย่างเหนียวแน่นที่จะเปลี่ยนพรมแดนร่วมกันเหล่านี้ ให้กลายเป็นพื้นที่สันติภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนา ความตั้งใจนี้ใช่ว่าจะปราศจากการท้าทาย แต่กัมพูชายังคงให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาชายแดนอย่างสันติ แม้เผชิญกับความตึงเครียดเป็นระยะ และการสูญเสียชีวิตอย่างน่าเสียใจของทหารผู้กล้าหาญ ที่ยืนหยัดปกป้องอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน
การยึดมั่นหาทางออกแบบสันติอย่างแน่วแน่ของรัฐบาลกัมพูชา เป็นที่ประจักษ์จากการดำเนินงานครั้งประวัติศาสตร์ รวมถึงการส่งข้อพิพาทชายแดนกับไทย เข้าสู่การพิจารณาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ICJ ที่ตัดสินเป็นคุณแก่กัมพูชาในปี 2515 และอีกครั้งในปี 2556 มาตรการเหล่านี้สะท้อนการยึดถือกฎหมายระหว่างประเทศอย่างลึกซึ้ง และการหาทางออกความขัดแย้งอย่างสันติ
เป็นที่่น่าเสียใจอย่างยิ่ง เมื่อเช้าตรู่ของวันที่ 25 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 5 นาฬิกา 30 นาที เกิดเหตุการณ์ใช้อาวุธ เมื่อทหารไทยเปิดฉากยิงใส่ที่ตั้งของกองทัพกัมพูชา ที่หมู่บ้าน เตโช มรกต ชุมชนมรกต เขตจอมกระสาน จังหวัดพระวิหาร พื้นที่ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นป้อมทหารกัมพูชา เหตุยิงตอบโต้ เป็นเหตุให้ทหารกัมพูชาคนหนึ่งเสียชีวิตอย่างน่าเศร้า รัฐบาลกัมพูชาได้ยื่นประท้วงการใช้กำลังโดยปราศจากการยั่วยุ อันเป็นการละเมิดอย่างร้ายแรงต่ออธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และหลักการความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี ตามที่บัญญัติในบันทึกความเข้าใจ หรือ MOU 2543 ระหว่างสองประเทศ
เหตุการณ์นี้เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่น่ากังวลหลายประการ ตอกย้ำข้อจำกัดของการใช้กลไกแก้ไขข้อพิพาทในปัจจุบัน ในการแก้ไขข้อขัดแย้งระยะยาวตามแนวชายแดน
ด้วยเหตุนี้ และเพื่อประโยชน์ของการหาทางแก้ไขปัญหาอย่างยุติธรรม เป็นกลาง และยั่งยืน ในวันที่ 2 มิถุนายน 2538 รัฐบาลกัมพูชาจึงได้ตัดสินใจส่งข้อพิพาทในพื้นที่อ่อนไหว 4 แห่ง ได้แก่ มุมไบ (สามเหลี่ยมมรกต) ตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาควาย เข้าสู่ ICJ
พื้นที่ 4 แห่งเหล่านี้ ไม่ได้รับการแก้ไขและมีความละเอียดอ่อนมาเป็นเวลานาน อาจทำให้ความตึงเครียดลุกลามได้หากไม่หาข้อยุติ การตัดสินใจเรื่องนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นเอกฉันท์จากสองสภาในวันเดียวกัน
ในระหว่างหาข้อยุติทางกฎหมาย ที่ ICJ รัฐบาลกัมพูชายังยึดมั่นในการเจรจาและการทูต กัมพูชาจะยังคงมีส่วนร่วมผ่านกรอบทวิภาคีที่มีอยู่ และจะเป็นเจ้าภาพการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือ JBC ครั้งต่อไปในวันที่ 14 มิถุนายน 2568 ที่กรุงพนมเปญ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีแผนส่งเรื่องไปยังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศแล้ว พื้นที่ 4 แห่งที่กล่าวถึงข้างต้น จะไม่รวมอยู่ในวาระการประชุม JBC ที่กำลังจะมาถึง
กัมพูชาแสดงความหวังว่า ประเทศไทยจะให้ความร่วมมือในการส่งเรื่องไปยัง ICJ โดยยึดหลักความยุติธรรม การสร้างความไว้วางใจ มิตรภาพระยะยาว และความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี แต่หากไม่ได้รับความร่วมมือ กัมพูชาก็พร้อมดำเนินการเองอย่างเป็นเอกเทศ
รัฐบาลขอเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชา มองเรื่องนี้อย่างมีสติ และอดทน ไม่ทำให้กลายเป็นเรื่องของความรู้สึกทางชาติพันธุ์หรือชาตินิยม เราเน้นย้ำความสำคัญอย่างยิ่งในอันที่จะรักษาความสัมพันธ์ระดับปกติกับประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้า การท่องเที่ยว และความร่วมมือในด้านอื่น ๆ เพื่อประโยชน์ร่วมกันของประชาชนทั้งสองฝ่าย