“เอกนัฏ” ส่ง “ทีมสุดซอย” ไล่หวดแก๊งศูนย์เหรียญ ปิด “บ.กำปั่นทอง” เหิมตั้งตัวเป็น “ฟรีโซน” แหล่งรวมขยะพิษ

“เอกนัฏ” ส่ง “สุดซอย” ไล่หวดแก๊งศูนย์เหรียญ หลังขยายผลพบ “บ.กำปั่นทอง” ต้นตอแจกดินปนเปื้อนเศษพลาสติกให้ชาวบ้าน พบให้เช่าโกดังคัดแยกขยะพิษ เคยโดนสั่งหยุด-ปรับปรุงกิจการให้ถูกกฎหมาย แต่ยังนิ่ง เหิมตั้งตัวเป็น ”ฟรีโซน“ ลอบจัดหาขยะพิษให้ลูกค้า

“เอกนัฏ” ส่ง “ทีมสุดซอย” ไล่หวดแก๊งศูนย์เหรียญ ปิด “บ.กำปั่นทอง” เหิมตั้งตัวเป็น “ฟรีโซน” แหล่งรวมขยะพิษ – Top News รายงาน

 

เอกนัฏ

 

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยความคืบหน้ากรณีเข้าตรวจสอบและดำเนินคดี บริษัท ภัชชาภิวัฒน์ จำกัด ตำบลเขาหินซ้อน อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งได้แจกจ่ายดินปนเปื้อนเศษพลาสติกอันตรายให้ชาวบ้านนำไปถมที่ และตั้งโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาตเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม 2568 ว่า ชุดตรวจการณ์สุดซอย หรือ “ทีมสุดซอย” กระทรวงอุตสาหกรรม นำโดย นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) โดยการอำนวยการของ พลตำรวจตรีวัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผู้บังคับการ ปทส. ได้ร่วมกันสืบสวนขยายผลจนพบ บริษัท กำปั่นทอง อินดัสทรี จำกัด ตั้งอยู่ หมู่ 9 ตำบลเขาหินซ้อน อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งมีลักษณะเป็นพื้นที่โกดังให้เช่าประกอบกิจการ

 

นายเอกนัฏ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบเศษสายไฟถูกฝังกลบในพื้นที่โรงงานและบริเวณท่อส่งแก๊สของ ปตท. ที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกับที่ บริษัท ภัชชาภิวัฒน์ จำกัด นำไปแจกชาวบ้านเพื่อถมดิน นอกจากนี้ยังพบการกระทำความผิดในการครอบครองและประกอบกิจการคัดแยก บดย่อยขยะอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2567 เจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด (สอจ.) จ.ฉะเชิงเทรา เคยเข้าตรวจสอบ บริษัท กำปั่นทองฯ พบว่ามีการประกอบกิจการไม่ตรงตามที่ได้รับอนุญาต จึงได้ออกคำสั่งให้หยุดและแก้ไขปรับปรุงให้ถูกต้อง แต่จากการเข้าตรวจสอบครั้งล่าสุด บริษัทฯ ยังคงเพิกเฉย จึงจำเป็นต้องสั่งหยุดกิจการ พร้อมยึดและอายัดเครื่องจักรและวัตถุอันตรายทั้งหมด

 

ข่าวที่น่าสนใจ

“ลักษณะการประกอบกิจการของบริษัท กำปั่นทองฯ ทำเหมือนผู้ให้บริการเช่าโกดัง มีหลักฐานการเก็บเงินค่าสาธารณูปโภค เช่น ค่าไฟ ค่าน้ำ ค่ายาม ค่าอินเทอร์เน็ตของแต่ละโกดัง ยิ่งกว่านั้นยังทำเสมือนเป็นพื้นที่ฟรีโซนที่ไม่อยู่ภายใต้กฎหมาย โดยบริการรับจัดหาวัตถุดิบที่เป็นของต้องห้ามนำเข้าในประเทศ เช่น ขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ ชิ้นส่วนรถยนต์ มาให้แต่ละโกดังโดยคิดตามน้ำหนักของรถขนส่งสินค้าที่นำมาส่งให้แต่ละโกดังในแต่ละวัน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ระบุ

นางสาวฐิติภัสร์ กล่าวเสริมว่า จากการเข้าตรวจสอบ บริษัท กำปั่นทองฯ มี นายเหว่ย เซิ่น หลิน เป็นกรรมการบริษัทและเป็นเจ้าของที่ดิน ซึ่งมีโกดังจำนวน 5 หลัง ทั้งหมดปล่อยให้ชาวจีนเช่าทำกิจการคัดแยก บดย่อย เศษสายไฟ มอเตอร์ ขยะอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนรถยนต์นำเข้า และเศษอลูมิเนียม แม้ว่าบริษัทฯ จะครอบครองใบอนุญาตโรงงานถึง 5 ใบ แต่กลับแจ้งประกอบกิจการเพียง 1 ใบอนุญาต คือประเภท 105 คัดแยกหรือฝังกลบสิ่งปฏิกูล หรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วโดยไม่ใช่วัตถุอันตราย ซึ่ง สอจ.ฉะเชิงเทรา ได้เคยแจ้งเตือนว่าการประกอบกิจการไม่ตรงตามที่ได้รับอนุญาต และได้ออกคำสั่งให้หยุดและแก้ไขปรับปรุงให้ถูกต้อง พร้อมแจ้งเตือนให้บริษัทฯ มาแจ้งเริ่มใบอนุญาตที่เหลือ แต่ปรากฏว่าบริษัทฯ ก็ยังคงเพิกเฉย ไม่ดำเนินการใดๆ นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบโรงงานที่ตั้งอยู่นอกรั้วติดกันอีก 2 โรงงาน ก็ไม่มีใบอนุญาตโรงงาน และพบเศษอลูมิเนียมปนเปื้อนขยะอิเล็กทรอนิกส์และมิเตอร์แก๊สอีกด้วย

 

 

“บริษัท กำปั่นทองฯ มีใบอนุญาตโรงงานถึง 5 ใบ แต่แจ้งประกอบกิจการเพียง 1 ใบอนุญาต ส่วนอีก 4 ใบยังไม่แจ้งเริ่มประกอบกิจการ ซึ่งเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทาง สอจ. ฉะเชิงเทรา ได้มีหนังสือเตือนให้แจ้งเริ่มใบอนุญาตภายในวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 หากครบกำหนดจะถือว่าไม่ประสงค์จะประกอบกิจการและจะเพิกถอนใบอนุญาต แต่ปรากฏว่าบริษัทฯ ก็ยังเพิกเฉย” นางสาวฐิติภัสร์กล่าว

นางสาวฐิติภัสร์ กล่าวถึงการดำเนินการทางกฎหมายว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ สอจ.ฉะเชิงเทรา ได้ออกคำสั่ง ให้หยุดกิจการ อายัดเครื่องจักร วัตถุดิบทั้งหมด พร้อมแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาตั้งและประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงข้อหาครอบครองวัตถุอันตรายและเสนอให้พิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตโรงงานทั้งหมดสำหรับใบอนุญาตที่ยังไม่แจ้งประกอบกิจการ ส่วนกรณีฝังกลบเศษสายไฟบดย่อยถมทับที่บริเวณท่อส่งก๊าซ ปตท. ได้ประสานให้สำนักงานพลังงานจังหวัดมาตรวจสอบ และประสานองค์การบริหารส่วนตำบลเรื่องการลักลอบปล่อยน้ำเสียบริเวณรอบโรงงานด้วย

  

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"อดีตบิ๊กข่าวกรอง" คาใจหนัก เวทีเจรจา 2 รมว.กลาโหม แค่ชุดแต่งกายก็งงแล้ว เกิดอะไรขึ้น
"ประธานเครือสหพัฒน์" ชี้ศก.ไทย 68 ลำบากกว่าช่วงโควิด แนะรัฐเร่งพัฒนาลงทุน EEC ชี้แจกเงินแค่วิธีหาเสียง
"อนุทิน" ปัดลือ "ภูมิใจไทย" ยอมเงื่อนไขปรับครม. ยันไม่มีพูดคุยนายกฯ
"ภูมิธรรม" เผย พบ "เตีย เซยฮา" ขอให้กัมพูชาถอยกลับพื้นที่เดิม อยู่จุดศาลาตรีมุข วอนอย่ายั่วยุให้มีสงคราม ไม่เป็นผลดี
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) มหกรรมบริการผู้สูงอายุจีนที่ปักกิ่งชูเทคโนโลยีอัจฉริยะ
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) 'รถบรรทุกเหมืองไร้คนขับ'จีนลุยงานในมองโกเลียใน
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ครูจีนประดิษฐ์ 'เจ้าม้าสองล้อ' ควบขี่เหมือนม้าจริง
"แม่ทัพภาคที่ 2" ลั่นจะใช้ความอดทนจนถึงที่สุด หากเกิดเหตุบานปลาย พร้อมรบทุกเมื่อ ปกป้องรักษาแผ่นดินไทย
"กองทัพ" ยันเฟกนิวส์ ปัดสั่งอพยพ "ชาวน้ำยืน" ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก
มรสุมกระหน่ำ อุตุฯเตือน 18 จังหวัด รับมือฝนถล่ม เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน กทม.ฝนหนัก บ่ายถึงค่ำ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น