“ภูมิธรรม” ยืนยันยึดสันติวิธี ใช้ MOU 43 แก้ปัญหาไทย-กัมพูชา ปิดด่านละเอียดอ่อน ต้องรอบคอบตัดสินใจ

"ภูมิธรรม" ยืนยันยึดสันติวิธี ใช้ MOU 43 แก้ปัญหาไทย-กัมพูชา ปิดด่านละเอียดอ่อน ต้องรอบคอบตัดสินใจ

“ภูมิธรรม” ยืนยันยึดสันติวิธี ใช้ MOU 43 แก้ปัญหาไทย-กัมพูชา ปิดด่านละเอียดอ่อน ต้องรอบคอบตัดสินใจ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

3 มิถุนายน 2568 นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม​ กล่าวถึงจุดยืนของไทยต่อสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ว่า​ จุดยืนตนได้บอกไปหลายครั้งแล้ว คือยึดมั่น ในแนวทางแก้ไขแบบสันติวิธี พยายามหลีกเลี่ยงความรุนแรง และยึดมั่นในการรักษาอธิปไตย และผลประโยชน์ของประชาชน ที่ผ่านมาเราได้พยายามแสดงจุดยืนเหล่านี้ และพยายามหาช่องทางในการเจรจา เพื่อหาทางยุติได้อย่างสงบ

 

ขณะเดียวกันเราก็ไม่ประมาท มีการประสานงานกันอย่างทั่วถึง ตลอดเวลากับทางกองทัพ กองทัพภาค ผู้บัญชาการทหารบก​ กระทรวงกลาโหม และกระทรวงการต่างประเทศ สิ่งที่เราทำขณะนี้ในแง่ของกองทัพ เราเตรียมความพร้อม เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ เท่าที่ตรวจดูในรายละเอียดต่างๆ มีการวางกำลังที่สามารถ ปกป้องอธิปไตยของประเทศ ได้โดยมั่นใจ และกองทัพก็ได้มีการเตรียมการอย่างเหมาะสม ไม่มีความบกพร่อง

ส่วนเรื่องของการเจรจา​ นายภูมิธรรม​ ยืนยันว่า​ เราได้มีการพูดคุยกันมาตลอด ทั้งกระทรวงกลาโหม​ กองทัพ​ และกระทรวงการต่างประเทศ ว่าสิ่งที่เราอยากจะแก้ไขปัญหา ต้องคุยกันภายในให้เป็นเอกภาพ เมื่อวานนี้ก็ได้มีการพูดคุยกันตลอดทั้งวัน สิ่งที่สำคัญก็คือ เราจะใช้มาตรการในการใช้ความรุนแรง หรือสงครามมันจะหักไหม เป็นมาตรการสุดท้าย หลังจากการแก้ไขวิกฤตต่างๆไม่สามารถเดินได้ แต่สิ่งสำคัญคือขณะนี้กำลังเริ่มต้นการเจรจา โดยยึด MOU 2543 และกลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือ JBC ในการแก้ไขปัญหา

 

ขณะที่การปิดด่านชายแดน​ นายภูมิธรรม​ กล่าวว่า ตนอยากทำความเข้าใจ ว่าเราไม่มีการสั่งปิดด่านชายแดน หรือมีการสั่งให้ปิดหรือเปิด และไม่ได้มีความขัดแย้งกันในเรื่องนี้ ซึ่งเรื่องของการปิดด่านชายแดน เป็นอีกหนึ่งมาตรการ ที่จะยกระดับการพูดคุย และตรงบริเวณด่านชายแดน ยังไม่มีเรื่องของการวางกำลัง แต่เราก็ได้มีการเตรียมความพร้อมเอาไว้ ซึ่งการปิดด่านเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องอยู่กับสถานการณ์ที่เป็นจริง และต้องเห็นตรงกันทั้ง 3 ฝ่าย ซึ่งขณะนี้อยู่ในภาวะวิกฤต มันจะมีความเห็นและอารมณ์ มีเหตุผลปะปนกันไป แต่ทั้ง 3 หน่วยงาน ก็พูดคุยกันตลอด ถึงแม้ต่างคนจะมีมุมมองที่ต่างกัน เราไม่อาจจะปล่อยให้การยกระดับต่างๆ เป็นไปตามอำเภอใจ​ แต่ทางถ้าต่างฝ่ายเห็นตรงกันว่าเป็นการเจรจา มาถึงขั้นต้องปิดด่านก็ต้องปิดด่าน ยืนยันว่าการตัดสินใจทั้งหมด ไม่ใช่เรื่องของผลประโยชน์ ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือคนใดคนหนึ่ง ไปยึดผลประโยชน์ที่เป็นอธิปไตยของชาติอย่างแท้จริง และยึดประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ

 

นายภูมิธรรม​ ยังยืนยันถึงความเป็นเอกภาพ และขอให้มั่นใจว่าหากมาถึงจุดสุดท้าย เราจะใช้สงครามเป็นบรรทัดสุดท้าย​ หากไปต่อไม่ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก เราต้องคำนึงถึงไม่ใช่แค่อารมณ์ ว่าอยากให้ทำอะไร แต่ต้องคำนึงถึงเหตุผลและความจำเป็น เพราะหากยกระดับถึงขั้นสุดท้าย ที่เป็นสงคราม ก็คงไม่มีใครปรารถนา ถึงแม้แนวหน้าทั้งทหารและประชาชน มีความพร้อม ที่จะปกป้องประเทศ แต่เราต้องคำนึงถึงชีวิตและความสูญเสียที่จะเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นถ้าเราหลีกเลี่ยงได้มากที่สุด เราก็จะต้องหลีกเลี่ยง

ส่วนกรณีที่ทางกัมพูชาเตรียมหยิบยกพื้นที่อ้างสิทธิ์​ สามเหลี่ยมมรกต​ ขึ้นสู่ศาลโลกไทยเตรียมความพร้อมเรื่องนี้อย่างไร นายภูมิธรรม​ ระบุว่า ตอนนี้ต่างฝ่ายจะพูดอะไรก็ได้​ แต่กระบวนการเจรจาเป็นไปตามขั้นตอน การพูดในเชิงอารมณ์หรือความรู้สึกหรือความรู้สึกของแต่ละบุคคลของแต่ละบุคคล ไม่อาจเป็นหลักฐาน ไปใช้ในระดับต่าง ๆ ได้ ตนคิดว่าหัวใจสำคัญ ก็คือการเอาข้อเท็จจริง มาพูดคุยกัน ว่าข้อเท็จจริงนั้นเป็นอย่างไร ถ้าการเจรจามันจบ ซึ่งมันเคยเกิดขึ้นก็ไม่มีอะไร

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"กองทัพบก" ยันกัมพูชา ระดมยิงใส่ฐานกำลังทหารไทย เฝ้าปราสาทตาเมือนธม เจ็บ 1 หลังทหารเขมรพร้อมอาวุธสงครามโผล่ป่วน
สื่อ BBC เผย "ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิด" กัมพูชา อ้างทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดเก่ายุคสงคราม ลั่นถ้าเป็น PMN-2 เสียชีวิตแล้ว
สื่อกัมพูชา ตีข่าว "ฮุน เซน" กร้าว พร้อมทำสงคราม ตอบโต้ไทย "ทหารเขมร" เคลื่อนพลประชิดชายแดน
"บิ๊กเล็ก" เรียกประชุมศบ.ทก.ด่วน เช้านี้ ถกเข้มแผนมาตรการตอบโต้กัมพูชา รุกล้ำอธิปไตยวางทุ่นระเบิดใหม่ ทำร้ายทหารไทย
"อุตุฯ" เตือน 25 จังหวัดฝนถล่มหนัก ระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก กทม.ก็ไม่รอด
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) แพนด้ายักษ์ในฉงชิ่ง นั่งแช่น้ำเย็นคลายร้อน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​