นักกฎหมายมหาชนชี้ “พีระพันธ์” แก้ข้อบังคับพรรคข้อ 53 ทำ “สุชาติ” ตกที่นั่งลำบาก ระบุหากฝ่าฝืนจริงหลุดจากสมาชิกพรรค และพ้นจาก สส.ทันที

“นักกฎหมายมหาชน” ชี้ “พีระพันธุ์” แก้ข้อบังคับรทสช. ยังไม่มีผลทำ “สุชาติ” พ้นสมาชิกพรรค ต้องตั้งคกก.สอบผิดร้ายแรงหรือไม่ – Top News รายงาน

ความคืบหน้ากรณีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) ได้แก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรครวมไทยสร้างชาติ พ.ศ. 2563 โดยยกเลิกความในข้อ 53 ของข้อบังคับพรรครวมไทยสร้างชาติ พ.ศ. 2563 และ ให้ใช้ข้อบังคับพรรคข้อ 53 ที่แก้ไขเปลี่ยนแปลงเข้ามาใหม่ โดยโดยมีสาระสำคัญใน (5) คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองมีมติให้พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรค เพราะกระทำผิดวินัยหรือมาตรฐานทางจริยธรรมหรือจรรยาบรรณอย่างร้ายแรง หรือไม่ปฏิบัติตามหน้าที่และความรับผิดชอบต่อพรรคการเมืองตามข้อ 55 หรือกระทำความผิดกฎหมายร้ายแรง หรือมีเหตุร้ายแรงอื่น (6) ฝักใฝ่พรรคการเมืองอื่นหรือสนับสนุนผู้สมัครในตำแหน่งทางการเมืองใดๆที่ไม่ใช่ของพรรคการเมือง (7) กระทำการใดที่ทำให้เกิดความแตกแยกหรือความเป็นเอกภาพในพรรคการเมือง หรือการบริหารพรรคการเมือง รวมทั้งสนับสนุนหรือส่งเสริมการกระทำเช่นว่านั้น

ข่าวที่น่าสนใจ

เปิดรายชื่อ “กรรมการบริหารพรรค รทสช.” ใครเป็นใครหลังสุชาติ จ่อทิ้งซบ “โอกาสใหม่”

“แรมโบ้” ไม่ทน ประกาศทวงคืน พรรครวมไทยสร้างชาติ ไล่ “พีระพันธุ์” พ้นหัวหน้า

ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2568 ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน เปิดเผยว่า เมื่อศึกษาถึงข้อบังคับพรรคข้อ 53 ที่เขียนขึ้นมาใหม่นั้น ต้องดูว่าการกระทำที่เกิดขึ้นเป็นการกระด้างกระเดื่อง และก่อให้เกิดความแตกแยกภายในพรรคอย่างร้ายแรงหรือไม่ เพราะเท่าที่ดูตามข่าวนั้น นายสุชาติ ออกมาระบุว่า ไม่ได้มีปัญหาภายในกับพรรค ส่วนสาเหตุที่ออกจากพรรค เพราะต้องการอยากไปสร้างรังใหม่ของตนเอง ดังนั้นด้วยการกระทำของนายสุชาติในลักษณะนี้ ยังไม่ถือว่าขาดจากสมาชิกพรรค เพราะหากจะเอาผิดนายสุชาติ พรรครวมไทยสร้างชาติต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมาสืบสวนถึงความเป็นไปในพฤติกรรมของนายสุชาติ เพื่อชี้ให้เห็นว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับของพรรครวมไทยสร้างชาติ

เมื่อถามว่า การเอาผิดผู้ฝ่าฝืนข้อบังคับพรรคจะต้องมีการนำเรื่องเข้าสู่คณะกรรมการพรรคเพื่อพิจารณาลงโทษก่อนใช่หรือไม่
ดร.ณัฐวุฒิ กล่าวว่า การจะขาดจากสมาชิกพรรคต้องเป็นเรื่องร้ายแรงเท่านั้น และถ้าคณะกรรมการสอบสวนลงโทษว่า นายสุชาติกระทำผิดข้อบังคับก็จะทำให้ขาดจากสมาชิกพรรค และพ้นจากการเป็น สส.ไปด้วยโดยอัตโนมัติทันที ซึ่งต่างจากกรณีการขับออกที่ต้องเป็นตามกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 101 โดยสมาชิกที่ถูกขับไล่ต้องไปสังกัดพรรคใหม่ภายใน 90 วัน ถือเป็นคนละส่วนกัน

อย่างไรก็ตามการจะลงโทษสมาชิกว่ากระทำผิดข้อบังคับพรรคนั้น คณะกรรมการบริหารต้องมีหลักฐานว่า นายสุชาติกระทำการฝ่าฝืนข้อบังคับพรรคข้อ 53 หรือไม่ ซึ่งพรรคจะต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมา โดยมีประธานกรรมการสอบสวน 3 คน และต้องรับฟังคำชี้แจงจากนายสุชาติอย่างละเอียด เพราะว่าเรื่องการสิ้นสุดการเป็นสมาชิกภาพมีผลกระทบต่อการมีคุณสมบัติในการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรด้วย

สุชาติ, พีระพันธุ์, กระทรวงพลังงาน, รทสช., นักกฎหมายมหาชน, สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง