เจ้าหน้าที่ปิดอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ชั่วคราว ย้ำเป็นพื้นที่สีแดง หลังเกิดเหตุปะทะช่องบก ห้ามบุคคลภายนอกเข้า-ออก

เจ้าหน้าที่ปิดอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ชั่วคราว ย้ำเป็นพื้นที่สีแดง หลังเกิดเหตุปะทะช่องบก ห้ามบุคคลภายนอกเข้า-ออก

วันที่ 30 พ.ค.68 ทีมข่าวเดินทางไปที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นด่านพรมแดนที่สำคัญ ของไทยและกัมพูชา เป็นสถานที่ตั้งของปราสาทพระวิหาร ซึ่งปัจจุบันอยู่ในพื้นที่ของประเทศกัมพูชา โดยการเดินทางไปสำรวจของทีมข่าวครั้งนี้ มาจากการปะทะระหว่างทหารไทยและกัมพูชา บริเวณช่องบก จ.อุบลราชธานี ชายแดนจังหวัดพระวิหารของกัมพูชา ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเช้าวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทำให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต 1 นาย

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เมื่อไปถึงบริเวณหน้าทางเข้าอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ไม่อนุญาตให้ขึ้นไปยังที่ทำการอุทยานฯ และไม่อนุญาตให้มีการบันทึกภาพ ให้เหตุผลว่า เจ้าหน้าที่ทหารสั่งปิดอุทยานฯเป็นการชั่วคราว จากเหตุปะทะกันที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 วันก่อน โดยพื้นที่รอบอุทยาน เช่น ผามออีแดง ไปจนถึงบริเวณเส้นทางที่เชื่อมต่อไปถึงปราสาทพระวิหาร เป็นพื้นที่สีแดง เสี่ยงต่อการปะทะ จึงไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกขึ้นไปยังด้านบนของผามออีแดง

เจ้าหน้าที่อุทยานฯให้ข้อมูลว่า ด้านบนมีทหารวางกำลังไว้อย่างหนาแน่น รวมไปถึงยุทโธปกรณ์ต่างๆ โดยเจ้าหน้าที่มีการประเมินสถานการณ์รายวัน อย่างไรก็ตามคาดว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่น่าจะยืดเยื้อ คาดว่า อีกไม่กี่วัน น่าจะเปิดอุทยานให้นักท่องเที่ยว และชาวบ้านขึ้นไปได้ตามปกติ

 

 

จากนั้นทีมข่าวลงมาสำรวจภายในหมู่บ้านภูมิซลอล ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดน ไม่ถึง 20 กิโลเมตร เมื่อขับผ่านหมู่บ้านพบหลุมหลบภัยตั้งอยู่ริมถนน 4-5 จุด ลักษณะ คล้ายเนินดิน ด้านบนของหลุมหลบภัยมีกระสอบทรายวางทับไว้หลายชั้น โครงสร้างของหลุมหลบภัย เป็นคอนกรีต มีทางเข้าออก 2 ด้าน จุคนได้ประมาณ 20 คน ชาวบ้านบอกว่านับตั้งแต่มีเหตุปะทะกัน ที่สถานการณ์เขาพระวิหารเมื่อประมาณ 10 ปีก่อนก็แทบไม่ได้ใช้หลุมหลบภัยเลย และเชื่อว่า ความขัดแย้งครั้งนี้คงไม่ต้องใช้หลุมหลบภัย เพราะสถานการณ์ไม่มีความรุนแรงใดๆไม่เหมือนเหตุการณ์ที่เขาพระวิหารเมื่อ 10 ปีก่อน

 

จากนั้นทีมข่าวเดินทางมาที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี จุดปะทะกันระหว่างทหารไทยและกัมพูชาเมื่อ 2 วันก่อน เมื่อไปถึงบริเวณหน้าทางเข้า มีฐานปฏิบัติการของทหารตั้งอยู่ โดยทหารไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกขึ้นไปด้านบน โดยให้เหตุผลว่า ยังเป็นพื้นที่สีแดงและเสี่ยงต่อการปะทะ เจ้าหน้าที่ทหารวางกำลังไว้จากหนาแน่น บุคคลภายนอกไม่สมควรขึ้นไป โดยจุดที่ปะทะ อยู่ห่างจากฐานปฏิบัติการด่านตรวจประมาณ 17 กิโลเมตร

สำหรับด่านพรมแดนช่องบก อยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย อำเภอน้ำยืน ลักษณะเป็นป่าเขาสูงชัน จุดที่ปะทะอยู่ในป่าลึก หากสถานการณ์ปกติด่านพรมแดนดังกล่าว เป็นช่องทางธรรมชาติที่ชาวบ้านของทั้ง 2 ประเทศ มักจะเข้าไปหาของป่า ไม่ใช่เป็นด่านเข้าออกถาวร

ชาวบ้านที่อยู่แถวช่องบก ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ทหารปิดทางขึ้นช่องบกทันทีหลังมีเหตุปะทะเมื่อวันก่อน แม้แต่ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ก็ไม่สามารถขึ้นไปได้ บางคนมีสวน อยู่ด้านบนก็ไม่สามารถขึ้นไปดูสวนของตนเองได้ โดยทหารขอความร่วมมือและชี้แจงว่ายังเป็นพื้นที่อันตราย โดยเฉพาะ ในเวลากลางคืนและเช้ามืด แต่คาดว่าสถานการณ์คงไม่รุนแรงมากไปกว่านี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เที่ยวบึงกาฬ สัมผัสมหัศจรรย์แห่งศรัทธา “แก่งนาคราช” ชมรอยพญานาค พร้อมวิวสะพานมิตรภาพไทย–ลาว แห่งที่ 5 แบบ 360 องศา
"พระราชินี" ทรงพระปรีชาสามารถ นำทีมนักกีฬาเรือใบไทย คว้าเหรียญทอง ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ไม่เป็นทางการแล้ว หลังทำคะแนนรั้งอันดับ 1 ก่อนแข่งขันพรุ่งนี้ เรซสุดท้าย
ในหลวงพระราชทานแจกันดอกไม้–ตะกร้าสิ่งของ ให้กำลังพลบาดเจ็บจากเหตุปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา ณ รพ.ค่ายสุรนารี
กองทัพภาคที่ 2 อัปเดตสถานการณ์ชายแดน "ทหารไทย" ยึดที่หมายสำคัญ ช่องอานม้า-พื้นที่คนา ได้ 100 % ส่วน "ตาควาย - เนิน 350-ผามออีแดง–ห้วยตามาเรีย" ยังปะทะเขมรเป็นระยะ
ปาฏิหาริย์มีจริง "กัน จอมพลัง" โพสต์ข่าวดี "พลทหารจักรภัทร" นักรบภูมะเขือ บาดเจ็บนอนไอซียู 7 วัน ฟื้นรู้สึกตัวแล้ว
"เขมร" เมินไม่ร่วม "สีหศักดิ์" ประกาศจุดยืนไทย จับมือ UNODC ประชุมนานาชาติ 58 ประเทศ เดินหน้าต้านสแกมเมอร์ภัยคุกคามโลก

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​