วันที่ 30 พ.ค. แถลงการณ์แพทย์จุฬาฯรุ่น 34 แพทย์จุฬาฯ ดังมีรายชื่อต่อท้ายแถลงการณ์นี้ ขอแสดงออกถึงจุดยืนร่วมกัน หลังจากที่ได้ทราบว่า สภานายกพิเศษ หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (นายสมศักดิ์ เทพสุทิน) ได้ใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรมพ.ศ. 2525 ยับยั้งหรือวีโต้มติของที่ประชุมใหญ่แพทยสภา
ซึ่งประกอบด้วยกรรมการที่เป็นแพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่าง ๆ จำนวน 70 คน เป็นกรรมการแพทยสภาโดยตำแหน่งจำนวน 35 คน ซึ่งรวมถึงคณบดีคณะแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ถึง 28 คน และเป็นกรรมการแพทยสภาที่มาโดยการเลือกตั้งจากจำนวนแพทย์สมาชิกที่มีหลายหมื่นคน อีกจำนวน 35 คน
การที่คณะกรรมการแพทยสภาชุดใหญ่ดังกล่าวข้างต้น จะมีมติใด โดยเฉพาะเรื่องการดูแลด้านจริยธรรม จรรยาบรรณของสมาชิกแพทย์ด้วยกันเองนั้น มีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อยังประโยชน์ให้กับประชาชนหรือคนไข้จะได้รับการดูแลรักษาอย่างดียิ่ง กอปรไปด้วยคุณธรรม จริยธรรม ตลอดจนจรรยาบรรณ ซึ่งแพทยสภาจะให้ความเป็นธรรมเสมอมา
ในกรณีที่มีผู้ร้องเรียนแพทย์หรือผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม แพทยสภาจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายคือ ผู้ป่วยหรือผู้ร้องเรียน และแพทย์ผู้ทำการรักษา โดยการกลั่นกรองข้อมูลอย่างเป็นระบบและมีคุณภาพสูงยิ่ง
ตั้งแต่ในชั้นคณะอนุกรรมการจริยธรรมซึ่งดูข้อเท็จจริงเบื้องต้น หลังจากนั้นถ้ามีมูล จึงจะส่งให้อนุกรรมการสอบสวน และสุดท้ายส่งเข้าคณะกรรมการแพทยสภาชุดใหญ่ โดยที่ทางแพทยสภาได้จัดตั้งอนุกรรมการกลั่นกรองขึ้นมาอีกชุดหนึ่ง เพื่อดูแง่มุมให้รอบคอบมากยิ่งขึ้น
คณะกรรมการแพทยสภาชุดใหญ่ จึงใช้ข้อมูลที่มีรายละเอียดที่ครบถ้วนสมบูรณ์สูงมาก จากอนุกรรมการทั้งสามคณะ ใช้เวลามากพอสมควร จนหลายครั้งมีเสียงร้องเรียนว่าทำไมเรื่องถึงล่าช้ามาก
จากข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้นของการทำงาน กว่าจะได้มาซึ่งมติของคณะกรรมการแพทยสภา จึงต้องใช้ความรู้ความสามารถ ความละเอียดรอบคอบในทุกมิติทุกประเด็น ตลอดจนระยะเวลานานพอสมควร จึงมีความน่าเชื่อถือสูง