ศาลยกฟ้อง “รศ.ดร.สายประสิทธิ์” เอี่ยวคดี “บอส อยู่วิทยา” ปมเปลี่ยนความเร็ว

ศาลยกฟ้อง "รศ.ดร.สายประสิทธิ์" เอี่ยวคดี "บอส อยู่วิทยา" ปมเปลี่ยนความเร็ว

เมื่อวันที่ 27 พ.ค.2568 รศ.ดร.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม รองศาตราจารย์ด้านวิศวกรรมเครื่องกล ผู้เชี่ยวชาญด้านความเร็วรถ 1 ในจำเลยคดีเปลี่ยนเเปลงความเร็ว คดีบอส อยู่วิทยา ที่ศาลได้พิพากษายกฟ้องเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2568 ออกมากล่าวเปิดใจภายหลังศาลยกฟ้องว่า ตนเป็นจำเลยที่ 7 ในฐานะผู้ถูกกล่าวหาว่าเข้าไปเอี่ยวช่วยคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ในเรื่องการเปลี่ยนแปลงความเร็วรถ เเต่ในคำพิพากษา

ประเด็นที่มีการเอา ดร.เฮอร์แมน สเตฟานส์ (Dr.Hermann Steffan) มาขึ้นเบิกความในศาลไทย โดยเมื่อศาลไต่สวนได้ให้ความน่าเชื่อถือเเละเขียนไว้ในคำพิพากษาที่ว่า การคำนวณความเร็วของรถยนต์ และการประชุม เพื่อแสดงวิธีการคำนวณความเร็วสามารถกระทำได้โดยชอบหรือไม่

 

 

พ.ต.ท.ธนสิทธิ์ แตงจั่น ให้คำนวณความเร็วรถเพิ่มเติมประกอบสภาพของความเสียหายรถยนต์ว่า รถยนต์ควรแล่นด้วยความเร็วอย่างน้อยกี่กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายและการหาคำตอบในข้อสงสัยเพื่อคำนวณหาความเร็วที่ถูกต้อง ชัดเจน แม่นยำในหลักวิชาการ ด้วยเหตุว่า ก่อนหน้านี้ก็มี พ.ต.ท.สมยศ เเอบเนียน ผู้ชำนาญการตรวจสภาพรถยนต์ให้ความเห็นว่าความเสียหายของรถยนต์และจักรยานยนต์มีความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม. ขณะที่ พ.ต.ท.สุรพล เดชรัตนวิชัย ผู้เชี่ยวชาญของศาลและผู้ชำนาญการพิเศษ ในการตรวจพิสูจน์เครื่องกลและเครื่องอุปกรณ์ส่วนควบของรถยนต์ที่เกี่ยวเนื่องกับอุบัติเหตุ ก็มีความเห็นว่าสภาพความเสียหายของรถไม่รุนแรง อยู่ในระดับปานกลาง สันนิษฐานว่าขณะชนความเร็ว 70-80 กม./ชม. ไว้เช่นกัน

สอดคล้องกับข้อเท็จจริงทางไต่สวน ดร.เฮอร์แมน สเตฟานส์ (Dr.Hermann Steffan) บุคคลที่มีโปรไฟล์ระดับโลก ซึ่งจบการศึกษาปริญญาเอกด้านวิศวกรรมเครื่องกล ได้รับอนุญาตให้สอนในระดับมหาวิทยาลัยในสหภาพยุโรป ดำรงตำแหน่ง ผอ.ทางวิทยาศาสตร์ของศูนย์ความสามารถในด้านยานพาหนะเสมือนจริง VIF เป็น CEO ขององค์กรแห่งสหภาพยุโรปของผู้เชี่ยวชาญอุบัติเหตุ (EVU) และเป็นผู้เชี่ยวชาญการย้อนรอยอุบัติเหตุยานยนต์ที่ได้รับการรับรองจากศาลหลักของประเทศออสเตรียที่ให้ความเห็นทางวิชาการประมาณ 500 คดีต่อปี ในเรื่องการเบิกความ 90% เกี่ยวกับอุบัติเหตุการจราจร

ที่สำคัญเขายังเป็นผู้คิดและพัฒนาชอฟต์แวร์ PC-CRASH ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์จำลองการเกิดอุบัติเหตุมาประมาณ 30 ปี ขายใบอนุญาตกว่า 7,000 ใบ มีผู้ใช้มากกว่า 13,000 คนทั่วโลก และซอฟต์แวร์ตัวนี้เป็นที่นิยมใช้มากที่สุดในโลก มีประเทศที่ใช้ เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น จีน และสหภาพยุโรป สามารถสร้างแบบจำลองอุบัติเหตุทั่วโลก โดยซอฟต์แวร์มีความแม่นยำ 100 %

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ท้ายที่สุดศาลพิเคราะห์มีความเห็นต่างจาก พ.ต.ท. ธนสิทธิ์ แตงจั่น กลุ่มงานตรวจสอบทางเคมี ฟิสิกส์ กองพิสูจน์หลักฐานกลาง ที่เห็นว่าความเร็ว 177 กม./ชม. โดยไม่ได้นำความเห็นของผู้เชี่ยวชาญอื่นมาพิจารณา ไม่ได้มีการสอบทวนผลความเร็วว่า หากรถยนต์มี 177กม./ชม. รถจักรยานยนต์จะความเร็วที่ 60 กม./ชม.แล้วจะมีการชนกันได้หรือไม่ ที่ระยะทางเท่าใด หากชนเมื่อลากเส้นจากจุดพบจะชนที่ตำแหน่งเลยจากกล้องวงจรปิดทำมุมเท่าใด อันจะทำให้เกิดความแม่นยำน่าเชื่อถือ

แสดงให้เห็นว่า ขณะที่มีการสอบสวนคดีนี้มีข้อสงสัยเกี่ยวกับความเร็วของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ว่ามีความเร็วเท่าใดกันแน่ แสดงให้เห็นความไม่แน่นอน แตกต่างเป็นอย่างมากและส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ

ในคำพิพากษาศาลได้ให้ความเห็นไว้อีกว่า การคิดหรือการวิเคราะห์ของรายงานการเกิดอุบัติเหตุของ ดร.เฮอร์แมน สเตฟานส์ ว่ามีหลายวิธีการ เช่น

1.คำนวณความเร็วจากหน้ากล้อง CCTV ใช้หลักพื้นฐานการคำนวณความเร็วใช้สูตรคำนวณของหลัก ฟิสิกส์ซึ่งเป็นสากลทั่วโลกสูตรเดียว คือ ระยะทางหารด้วยระยะเวลา

2.ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์การย้อนรอยอุบัติเหตุ (ขั้นสูงขึ้น) หรือประมวลในซอฟต์แวร์ PC-CRASH สามารถทวนสอบและตรวจสอบหลักฐานข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุ

3.ทดสอบเชิงประจักษ์ หรือการย้อนรอยอุบัติเหตุ ด้วยการทดสอบการชนจริงของรถยนต์กับรถจักรยานยนต์คันรุ่นเดียวกัน เพื่อเปรียบเทียบการยุบและตำแหน่งการกระแทกของศีรษะบนกระจกรถเปรียบเทียบกับข้อมูลอุบัติเหตุจริง (จากการทดสอบจริงอย่างละเอียดถ้าชนด้วยความเร็วแบบนั้น โดยใช้การทดสอบเทียบจากของจริงอย่างละเอียด ไม่ได้เเค่นั่งหน้าจอเท่านั้น จุดกระเด็นหรือตกกระทบบนกระจก ผู้เสียชีวิตจะต้องอยู่สูงกว่านั้น)

 

 

ซึ่งเมื่อใช้ทั้ง 3 วิธีการในการทดสอบเพื่อหาความเร็วของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในคดี “บอส อยู่วิทยา” จะได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างไปจากการคำนวณความเร็วของ พ.ต.อ. ธนสิทธิ์ ที่ใช้เพียงวิธีการที่ 1 เท่านั้น เพราะหากใช้วิธีทดสอบเฉพาะจากกล้องวงจรปิดเพียงอย่างเดียว ผลจะไม่น่าเชื่อถือ เพราะกล้องวงจรปิดมีคุณภาพและอัตราต่อเฟรมที่คุณภาพไม่ดี ตำแหน่งจุดที่ชนข้อมูลที่ได้จากกล้องวงจรปิดก็ไม่ใช่ตำแหน่งเดียวกัน ทำให้เกิดความผิดพลาดได้มาก

โดยพยานคำนวณความเร็วจากการนับเฟรมภาพแบบวิธีแรก โดยคำนวณได้ความเร็วประมาณ 78 กม./ชม. เมื่อใช้ซอฟต์แวร์ PC-CRASH ในการประมวลผลหลายครั้ง ดังนั้น การชนที่จะทำให้เกิดความเสียหายตามสภาพ ก็ได้ความเร็วรถยนต์ประมาณ 80 กม./ชม. ความเร็วของจักรยานยนต์ประมาณ 27 กม./ชม.

นอกจากนี้ ในการทดสอบจำลองเหตุการณ์จริง ครั้งแรกได้นำรถยนต์ Toyota Celica ที่มีขนาดใกล้เคียงกับรถยนต์ Ferrari รุ่น FF มาลองทดสอบชนกับรถจักรยานยนต์รุ่นเดียวกันกับที่เกิดเหตุเพื่อเทียบเคียงข้อมูลก่อน ส่วนครั้งที่สองใช้รถยนต์ Ferrari รุ่น FF ซึ่งเป็นรุ่นและขนาดเดียวกันกับรถยนต์ของนายวรยุทธ ขณะเกิดเหตุ และนำรถจักรยานยนต์รุ่นเดียวกันกับวันเกิดเหตุมาทดลองชนซ้ำจริงอีกครั้ง โดยติดตั้งระบบอัตโนมัติให้ความเร็วของรถยนต์เฟอร์รารี่ที่ 80 กม./ชม. ความเร็วของจักรยานยนต์ 27 กม./ชม. ผลการทดสอบปรากฏว่า ความเสียหายที่เกิดกับรถยนต์ที่ทดสอบใกล้เคียงกับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุจริง

โดยมีการเปรียบเทียบความลึกรถยนต์คันที่ทดสอบเสียรูปทรงมากกว่ารถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุจริงเล็กน้อย คำนวณย้อนกลับและหักทอนเปรียบเทียบความเสียหายของรถยนต์ Ferrari ได้ความเร็วที่ 76 กม./ชม. ส่วนรถจักรยานยนต์ 30 กม./ชม. ค่าความคลาดเคลื่อนในการเกิดอุบัติเหตุในการทดสอบที่มีประสบการณ์ที่สามารถยอมรับได้ เพิ่มขึ้นหรือลดลงเพียง 5%

 

 

อีกทั้งเมื่อ ดร.เฮอร์แมน สเตฟานส์ ได้ยืนยันว่าการทดลองและทดสอบครั้งนี้ได้ผลดีมาก เหตุเพราะความเสียหายและการเสียรูปทรงของรถยนต์ที่ทำการทดลอง จุดตำแหน่งและความเสียหายของรูปทรงของรถยนต์คันที่ทำการทดลองใกล้เคียงกับรถยนต์คันที่เกิดอุบัติเหตุจริงมาก ทำให้การทดลองย้อนรอยอุบัติเหตุในครั้งนี้มีความสมบูรณ์แบบที่สุดในโลกครั้งหนึ่ง เหตุเพราะการเลือกสภาพแวดล้อมใกล้เคียงกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจริง รวมทั้งเรื่องของความเร็วด้วย เพราะถ้าหากมีการทดสอบซ้ำก็คงไม่มีการเปลี่ยนวิธีการรายละเอียดหรือผลที่ได้รับ ผลการทดสอบก็จะเป็นแบบเดิม 100%

เมื่อรายงานการย้อนรอบอุบัติเหตุของ ดร.เฮอร์แมน สเตฟานส์ ที่ได้ให้การและนำเสนอต่อศาล กับรายงานและการคำนวณความเร็วของ เมื่อปี 2559 มีความใกล้เคียงกัน ย่อมแสดงให้เห็นถึงข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถพิเคราะห์และพิสูจน์ได้ภายใต้หลักวิชาการด้านการย้อนรอยอุบัติเหตุ ไม่ว่าวันและเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม

“การคิดคำนวณความเร็วของรถที่เกิดเหตุว่าทฤษฎีใดที่จะเชื่อถือหรือรับฟังได้ของนักวิทยาศาสตร์หรือผู้เชี่ยวชาญแต่ละคนเป็นเรื่องความเห็นเฉพาะตัว เเต่หากมีการประชุมนำเสนอแนวทางวิธีการ หรือทางวิทยาศาสตร์ใหม่ๆ โดยใช้ความรอบคอบในการพิสูจน์ดังกล่าว ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ความโปร่งใส ความถูกต้อง และก่อให้เกิดความเป็นธรรม” รศ.ดร.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม ระบุ

นอกจากนี้ รศ.ดร.สายประสิทธิ์ ยังได้เปิดใจกับทีมข่าวถึงชีวิตที่ผ่านมาว่า “ผมคิดว่าสังคมส่วนใหญ่ยังไม่รับรู้อย่างลึกซึ้งถึงกระบวนการต่างๆ ของวิชาการว่าทำกันอย่างไร ในแวดวงผมส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับต่างชาติ พวกเขารู้ว่าผมทำงานอย่างไร ความปลอดภัยของยานยนต์เป็นเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น วิธีการต่างๆ เราได้ทำตามมาตรฐานของสากลทั้งหมด ทุกอย่างอยู่ในมาตรฐานของวิธีการและตัวเลข ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถวิเคราะห์ได้

ถามว่า ชีวิตของผมหลังจากถูกข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้นใช้ชีวิตลำบากหรือไม่ ขอตอบเลยว่า ลำบากมาก เพราะแม้แต่คนใกล้ชิดก็คิดว่าผมเปลี่ยนแปลงความเร็วที่เกิดขึ้น หรือแม้แต่ญาติพี่น้องก็ยังตามกระแสสังคมไป ตลอดชีวิตการทำงาน ผมทำคดีช่วยเหลือสังคมจนได้รับหนังสือขอบคุณมากมาย และเคยได้รับรางวัลจากนายกรัฐมนตรี และรางวัลระดับนานาชาติ สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่เชิดชูใจของผมไว้ แต่จากเหตุการณ์นี้ผมต้องถอยมาดูตัวเองว่าสิ่งที่ทำไปนั้นมันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย แง่ลบมันบั่นทอนจิตใจของผมมากเกินไป แต่แง่บวกก็ทำให้สังคมได้รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้น ถึงจะต้องใช้ระยะเวลาในการพิสูจน์ข้อเท็จจริงนานแค่ไหนก็ตาม

หากย้อนเวลากลับไป ผมก็ยังคงจะให้คำแนะนำจากเหตุการณ์นี้ แต่คงทำได้เพียงให้คำแนะนำ ไม่เอาตัวเข้าไปยุ่งมาก ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเขาจัดการไป อาชีพผมเป็นอาจารย์ เวลามีคนมาถาม ผมก็ช่วย ใครขอร้องอะไรมาเราก็ช่วยไป แต่ที่ผ่านมาผมกลายเป็นจำเลยสังคม ซึ่งก็ต้องยอมรับสภาพและรอเวลาให้ความจริงปรากฏขึ้น และบทสรุปสุดท้ายเมื่อความจริงปรากฏขึ้น ความเท็จทุกสิ่งอย่างย่อมสูญสลายไป เพราะผมคือคนที่ให้เหตุผลในทางวิชาการใกล้เคียงกับหลักสากลมากที่สุด”

ผู้สื่อข่สวรายงานว่าสำหรับ กรณีของ นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ขับรถชน ด.ต. วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผู้บังคับหมู่ปราบปราม สน. ทองหล่อ จนเสียชีวิต ซึ่งคดีนี้มีบุคคลเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยมากมาย ทั้งในเรื่องของพยาน การตรวจสอบหลักฐาน รวมไปถึงการให้ความเห็นจากมุมมองของนักวิชาการ

โดยหนึ่งในบุคคลสำคัญที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีนี้ นั่นก็คือ “รศ.ดร.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม” รองศาตราจารย์ด้านวิศวกรรมเครื่องกล ผู้เชี่ยวชาญด้านความเร็วรถ ซึ่งเป็นผู้พลิกตำราคำนวณความเร็ว “เฟอร์รารี่” ด้วยหลักวิชาการและประสบการณ์ด้านการย้อนรอยอุบัติเหตุ ทำการวิเคราะห์อย่างละเอียด โดยชี้ชัดว่า ความเร็วในการขับขี่รถยนต์ตามที่ปรากในกล้องวงจรปิดอยู่ที่ประมาณ 76 กม./ชม. ไม่ใช่ 177 กม./ชม. ตามที่มีการเสนอข่าวตามหน้าสื่อต่างๆ ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์จนเวลาผ่านมานานร่วม 10 ปี ทำให้ผลสุดท้ายเขาต้องตกเป็นจำเลยที่ 7 กลายเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่าเข้าไปเอี่ยวช่วยคดี “บอส อยู่วิทยา” วันนี้เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏขึ้นจากการที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้มีคำพิพากษายกฟ้อง

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ช้างน้ำหนัก 2 ตันโผ่ลกลางเมืองแอฟริกาใต้
"ธรรมนัส" ไม่วิจารณ์ข้ามพรรคปรับครม. ลั่นกระทรวงเกษตรฯต้องเป็นพรรคกล้าธรรม
"มทภ.2" ค้างคืนฐานช่องบก ปลุกขวัญ-กำลังใจกำลังพล มอบพระหลวงปู่ทวด-เหรียญหลวงพ่อใหญ่โชคดี พร้อมปกป้องอธิปไตย
"ทักษิณ" พูดเองต้องให้เพื่อไทยดูแล "ก.มหาดไทย" อ้างทำงานไม่ถึง เชื่อภูมิใจไทยไม่ถอนตัวร่วมรัฐบาล
เจ้าหน้าที่ปิดอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ชั่วคราว ย้ำเป็นพื้นที่สีแดง หลังเกิดเหตุปะทะช่องบก ห้ามบุคคลภายนอกเข้า-ออก
"ทักษิณ" ชี้เหตุปะทะช่องบกไม่บานปลาย เหตุุกระทบกระทั่งทหารชั้นผู้น้อย ยันคุย "ฮุนเซน" ตลอด
“อธิบดี DSI” เผยความคืบหน้า คดีอั้งยี่-ฟอกเงิน ฮั้วสว.67 สอบพยานแล้วกว่า 60 ปาก
กัมพูชาเตือนสื่ออย่าเผยแพร่ข้อมูลด้านการทหาร
จเรตำรวจแห่งชาติ แจงสาเหตุ "ฮ.เบลล์ 212 " ตกประจวบฯ พบน็อตยึดใบพัดหลุด ทำเครื่องเสียการทรงตัว
"ผู้ว่าฯ อุดรธานี" รุดตรวจสอบ เหตุ นร.ท้องร่วง 275 ราย หามส่งรพ.กลางดึก

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น