แนวปฏิบัติดังกล่าวเน้นย้ำความสำคัญของการรับประทานผักในอาหารทุกมื้อและบริโภคผลไม้เป็นประจำทุกวัน โดยเฉพาะผู้ใหญ่ควรรับประทานผักสดอย่างน้อย 300 กรัมต่อวัน และให้มีผักใบเขียวเข้มครองสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของผักทั้งหมด ส่วนผลไม้สดควรรับประทานระหว่าง 200-350 กรัมต่อวัน โดยผักและผลไม้ไม่สามารถทานทดแทนกันได้ เนื่องจากทั้งสองอย่างมีความจำเป็นและคุณค่าทางโภชนาการแตกต่างกัน
ขณะที่ธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต คีนัว และข้าวสาลีไม่ขัดสี เป็นแหล่งใยอาหาร วิตามินบี และแร่ธาตุจำเป็น ผู้ใหญ่ควรบริโภคธัญพืชไม่ขัดสี 50-100 กรัมต่อวัน เพื่อให้ได้รับสารอาหารเพียงพอและดีต่อระบบย่อยอาหาร
ส่วนผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำควรเน้นปลาที่มีไขมันสูง เช่น แซลมอน ปลาไหล และปลาแมคเคอเรล ซึ่งล้วนอุดมด้วยดีเอชเอ (DHA) และอีพีเอ (EPA) รวมถึงวิตามินดีและเอ สาหร่ายอย่างสาหร่ายเคลป์ วากาเมะ และลาเวอร์ มีไอโอดีน วิตามินเค และโฟเลต (folate) และอาหารทะเลที่มีเปลือก (shellfish) ให้ธาตุเหล็ก สังกะสี ไอโอดีน และแร่ธาตุที่จำเป็นอื่นๆ
ทั้งนี้ แนวปฏิบัติด้านโภชนาการล่าสุดออกมาท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับอัตราโรคอ้วนที่สูงขึ้น โดยข้อมูลจากคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีนระบุว่าอัตราโรคอ้วนและน้ำหนักเกินรวมกันในผู้ใหญ่ชาวจีนสูงแตะร้อยละ 51.2 ซึ่งหากไม่เปลี่ยนแปลง ตัวเลขนี้อาจสูงเกินร้อยละ 70 ภายในปี 2573
เครดิต: ซินหัว