"สว.สำรอง" ยื่นหนังสือ "ป.ป.ช." ป้อง "ภูมิธรรม-ทวี" โดนร้องปฏิบัติหน้าที่มิชอบ แทรกแซงคดีฮั้ว
ข่าวที่น่าสนใจ
26 พ.ค.2568 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว อดีตผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะสว.สำรอง ยื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช. โดยภายหลังยื่นหนังสือ พล.ต.ท.คำรบ เผยว่า วันนี้ตนมายื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. เพื่อให้พิจารณาจริยธรรมของคณะ สว. ตัวจริง ทั้ง 92 คน ที่มายื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. เมื่อปลายเดือนก่อน เกี่ยวกับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รวมถึง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่กล่าวหาเรื่องการดำเนินคดีเกี่ยวกับการเลือก สว. ว่ากระทำการไม่ถูกต้อง ซึ่งการดำเนินการครั้งนั้นเป็นการก้าวก่ายการดำเนินการของข้าราชการประจำ ซึ่งผิดหลักตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ (รธน.) มาตรา 185(1)
ดังนั้น เราจึงมายื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช. ว่า ท่านได้กระทำผิดจริยธรรมของนักการเมืองและผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ปัจจุบัน คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้รับเรื่องไว้พิจารณาแล้ว ฉะนั้น การกระทำของ สว.ตัวจริง ที่ได้ฟ้องร้องเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งที่ ป.ป.ช. และศาล รธน. เนื่องจากการกระทำดังกล่าว ท่านเป็นฝ่ายนิติบัญญัติแต่ไปก้าวก่ายฝ่ายข้าราชการประจำ ทั้ง นายภูมิธรรม หรือ พันตำรวจเอก ทวี ก็ดี เนื่องจาก นายภูมิธรรม ดำรงตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ และพันตำรวจเอก ทวี ดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ ซึ่งเป็นกระบวนการทำงานของฝ่ายข้าราชการประจำ
ดังนั้น การที่มาฟ้องร้องการกระทำต่างๆเหล่านี้ ส่วนตัวคิดว่าท่านได้ใช้อำนาจของความเป็นนิติบัญญัติมากระทำการเพื่อประโยชน์ของตนเอง ซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ
นอกจากนี้ยังเข้าข่ายความคิดตามกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 111 (7) คือ สามารถหมดสมาชิกภาพ ซึ่งเป็นข้อห้ามอันร้ายแรงของกฎหมายรัฐธรรมนูญ รวมทั้งมีความบกพร่องทางจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตนจึงมายื่นเรื่องให้ป.ป.ช. พิจารณาเรื่องจริยธรรมของสว. ทั้ง 92 คน อีกครั้ง
พล.ต.ท.คำรบ เผยอีกว่า หลังจากนี้ ตนจะไปยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญอีกครั้ง เพราะก่อนหน้านี้ศาลได้ยกคำร้องขอพวกตน โดยอ้างว่าพวกตนร้องตามมาตรา 82 ซึ่งพวกตนยื่นตามมาตรา 41 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พรป.) ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้น เราถือว่าเป็นคณะบุคคลตามมาตรา 81 ที่ถูกรับรองตามพระราชบัญญัติเกี่ยวกับการเลือก สว. ในมาตรา 42 เนื่องจากพวกตนเป็นสว.สำรอง ที่ได้รับการประกาศตามพระราชกิจจานุเบกษา
ดังนั้น ยืนยันว่า พวกเราไม่ได้ร้องตามมาตรา 82 จึงต้องไปยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอให้มีการทบทวนคำวินิจฉัยเสียใหม่ เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญหยิบคำร้องเรื่องดังกล่าวขึ้นมาพิจารณาอีกครั้ง
ทั้งนี้ การร้องที่ศาลรัฐธรรมนูญ นอกจากเป็นการร้องเกี่ยวกับการขอให้เพิกถอนสิทธิ์ของ สว. ทั้ง 92 คนตามมาตรา 185(1) ที่กระทำผิดนั้น ยังขอให้ศาลรัฐธรรมนูญโปรดพิจารณาสั่งยุติบทบาทหน้าที่ของ สว. ทั้ง 92 คนเป็นการชั่วคราว จึงคาดหวังว่าศาลจะเล็งเห็นความต้องการของภาคประชาชนทั้งประเทศ ที่อยากเห็นการดำเนินการบนหลักของความยุติธรรม
“อย่างไรก็ตาม ตนคาดหวังว่า ศาลรัฐธรรมนูญ ทั้ง 9 คน จะมีการหยิบเรื่องดังกล่าวที่ตนจะไปยื่นอีกครั้ง ขึ้นมาเร่งพิจารณาก่อนจะมีการเลือกองค์กรอิสระช่วงสิ้นเดือนนี้”
เมื่อถามถึงกรณีคลิปเสียงเกี่ยวกับการเสนอเงินให้เพื่อดำเนินการเพื่อเลือกสว. ในพื้นที่จังหวัดนครพนม มีการรับทราบเรื่องนี้หรือไม่ พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า เรื่องคลิปเสียงนั้นตนไม่ได้มีโดยตรง แต่ที่อื่นอาจจะมีรวมถึงเรื่องคลิปเรื่องภาพต่างๆ ซึ่งมีมากมาย และที่อยู่ในกระบวนการตรวจสอบของ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และดีเอสไอ รวมถึงการเรียกผู้เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม ส่วนรายละเอียดตนอาจจะรู้ไม่มากนักอาจเป็นเรื่องความลับในสำนวน เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตามยืนยันว่าคลิปเสียงดังกล่าวไม่ได้มาจากสว.สำรอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง