BBC, AFP และ RT รายงานว่ารัสเซียเปิดปฏิบัตืการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ช่วงเช้ามืดวันเสาร์ที่ผ่านมา (24 พค.) ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศยูเครน แต่กรุงเคียฟตกเป็นเป้าหมายสำคัญ เพราะโดนถล่มด้วยขีปนาวุธนำวิถีถึง 14 ลูกและโดรนอีก 250 ลำ ถูกเป้าหมายสำคัญหลายแห่ง รวมทั้งอพาร์ทเม้นต์และบ้านเรือนประชาชน ทำให้เกิดระเบิดและไฟลุกไหม้ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 14 คนเฉพาะในกรุงเคียฟ ถือเป็นการปฎิบัติการโจมตีทางอากาศแบบผสมผสาน ถล่มเมืองหลวงยูเครนครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งนับตั้งแต่สงครามเปิดฉากเมื่อ 3 ปีที่แล้ว
กองทัพอากาศยูเครนเผยว่าสามารถยิงสกัดขีปนาวุธรัสเซียได้ 6 ลูกและโดรน 245 ลำ ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี้ ผู้นำยูเครนกล่าวว่าการโจมตีที่ต่อเนื่องของรัสเซียยิ่งสะท้อนถึงความตั้งใจของรัสเซียว่าไม่ต้องการยุติสงคราม พร้อมยอมรับว่าคืนวันศุกร์เป็นคืนที่ยากลำบากของชาวเคียฟ เพราะทั้งไฟไหม้และระเบิดดังตลอดทั้งคืน บ้านเรือนอาคารร้านค้าและรถราถูกระเบิดเสียหายจำนวนมาก
ส่วนที่แคว้นโดเน็ตสก์ ทางตะวันออกของยูเครนมีรายงานผู้เสียชีวิต 4 คน, แคว้นโอเดสซ่าและเคอร์ซอน พื้นที่ทางใต้มีผู้เสียชีวิต 5 คนและแค้วนคาร์คีฟ ทางตะวันออกเฉียงเหนือ เสียชีวิต 4 คน ผู้บัญชาการกองทัพป้องกันกรุงเคียฟยอมรับว่ารัสเซียมีการพัฒนากลยุทธ์ที่ใช้ทั้งโดรนและขีปนาวุธนำวิถีควบคู่กันไปได้ดียิ่งขึ้น
ด้านกองทัพรัสเซียออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้(เสาร์ที่ 24 พค.) เผยว่าปฎิบัติการโจมตีเคียฟมีเป้าหมายเพื่อถล่มโรงงานผลิตขีปนาวุธและโดรน รวมทั้งศูนย์เฝ้าระวังเรดาร์, ระบบป้องกันภัยทางอากาศแพทริออตของสหรัฐและโรงงานผลิตเครื่องบินแอนโทนอฟของยูเครน ซึ่งการโจมตีประสบผลสำเร็จและถล่มถูกเป้าหมายทั้งหมด
เซเลนสกี้ชี้ว่าการเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรภาคอุตสาหกรรมสำคัญๆอาจทำให้รัสเซียยอมบรรลุข้อตกลงหยุดยิง
การโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ในหลายภูมิภาคของยูเครนมีขึ้นในขณะที่มีการแลกเปลี่ยนเชลยศึกระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยวันศุกร์มีการแลกเปลี่ยนไปราวๆ 390 คน วันเสาร์ 307 คนและวันนี้ (อาทิตย์) อีกราว 300 คนหลังจากการเจรจาที่ตุรกีทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะแลกเปลี่ยนเชลยศึกจำนวนทั้งสิ้น 1 พันคน
ทั้งนี้รัสเซียเผยว่าการโจมตีครั้งนี้เพื่อตอบโต้ที่ยูเครนส่งโดรนหลายร้อยลูกโจมตีหลายพื้นที่ในรัสเซีย รวมทั้งกรุงมอสโกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่รัสเซียยิงสกัดโดรนยูเครนร่วงไป 485 ลำ