AFP รายงานว่าประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อได้แถลงข่าวที่ทำเนียบประธานาธิบดีเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (20 พค.) เนื่องในโอกาสครบรอบ 1 ปีการบริหารไต้หวัน โดยไล่กล่าวว่าไต้หวันมีการเตรียมพร้อมในการเจรจาสันติภาพกับจีน แต่จะต้องเป็นการเจรจาในฐานะคู่เจรจาที่เท่าเทียม และว่าไต้หวันไม่ต้องการทำสงคราม สันติภาพเป็นสิ่งที่ล้ำค่าและไม่มีใครเป็นผู้ชนะในสงคราม อย่างไรก็ตามไต้หวันจะเดินหน้าเสริมสร้างความแข็งแกร่งของกองทัพเพื่อปกป้องตนเอง ไต้หวันจะร่วมมือกับชาติพันธมิตรชนิดเคียงบ่าเคียงไหล่ด้วยการเตรียมความพร้อมรับมือสงคราม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสงคราม และให้ได้มาซึ่งสันติภาพซึ่งเป็นเป้าหมายสุดท้าย
แถลงการณ์ของไล่มีขึ้นหลังจากที่สำนักงานยามฝั่งไต้หวันออกมาเตือนเมื่อวานนี้ (จันทร์ที่ 19 พค.) ว่าจีนอาจจะใช้สงครามจิตวิทยาเพื่อทำลายขวัญกำลังใจของชาวไต้หวัน เนื่องจากไต้หวันขณะนี้ก็ถูกกดดันจากสหรัฐภายใต้รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการให้ไต้หวันย้ายโรงงานและการผลิตไปที่สหรัฐ รวมทั้งลดความไม่สมดุลทางการค้า ซึ่งไล่ก็มีท่าทีน้อมรับบอกว่าจะเพิ่มความยืดหยุ่นทางการเศรษฐกิจด้วยการกระจายตลาด และหันมากระตุ้นความต้องการในประเทศ
ช่วง 1 ปีที่ผ่านมาไล่เผชิญกับความวุ่นวายและขัดแย้งทางการเมืองกับพรรคฝ่ายค้าน KMT ที่ครองเสียงข้างมากในรัฐสภา โดยพรรค KMT เรียกไล่ว่าเป็นเผด็จการและมีนโยบายท้าทายและต่อต้านจีนจนเสี่ยงต่อการเกิดสงคราม ขณะที่ไล่กล่าวหพรรค KMT ว่าเป็นเครื่องมือของจีนและบ่อนทำลายความมั่นคงไต้หวัน จนหลายครั้งเกิดการปะทะจนถึงขั้นใช้กำลังในสภา ขณะที่ผู้สนับสนุนจากทั้งสองพรรคก็เผชิญหน้ากันหลายครั้ง
อย่างไรก็ตาม วันนี้ไล่กล่าวว่ารัฐบาลไต้หวันต้องการฟื้นฟูและยกระดับความร่วมมือกับพรรคฝ่ายค้าน พร้อมเรียกร้องให้ทำงานร่วมกันเพื่อรับมือกับความท้าทายจากภายนอก
ด้านนักวิเคราะห์กล่าวว่าท่าทีของไล่วันนี้ดูอ่อนลงและระมัดระวังคำพูดมากขึ้น ไม่แข็งกร้าวและท้าทายจีนเหมือนครั้งก่อนๆ ท่ามกลางความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์ และคะแนนนิยมที่ลดลง โดยโพลล่าสุดชี้ว่าคะแนนนิยมของไล่ลดลงเหลือ 45.9% จาก 58% เมือปีที่แล้ว ขณะที่คะแนนความไม่พอใจก็เพิ่มขึ้นเป็น 45.9 สูงสุดนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง โดยส่วนใหญ่ไม่พอใจกับการรับมือภาษีทรัมป์ของไล่