“โสภณ” ลุยแก้ปัญหาคุณภาพการศึกษาโรงเรียนขนาดเล็ก ตั้งศูนย์เรียนรู้ 4 วิชา ไทย-คณิต-วิทย์-อังกฤษ ในบุรีรัมย์ หวังทำเป็นโมเดลระดับชาติ

"โสภณ" ลุยแก้ปัญหาคุณภาพการศึกษาโรงเรียนขนาดเล็ก ตั้งศูนย์เรียนรู้ 4 วิชา ไทย-คณิต-วิทย์-อังกฤษ ในบุรีรัมย์ หวังทำเป็นโมเดลระดับชาติ

เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 นายโสภณ ซารัมย์ ประธานคณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร สส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย เป็นประธานเปิดโครงการ “ตูมใหญ่รักศรัทธา พัฒนาการศึกษาแบบบูรณาการ” ที่โรงเรียนบ้านตูมใหญ่ ตำบลตูมใหญ่ อำเภอคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์

นายโสภณ กล่าวว่า โครงการนี้เป็นแนวคิดการบริหารจัดการศึกษา เพื่อแก้ปัญหาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนขนาดเล็กในตำบลตูมใหญ่ แบบบูรณาการ ซึ่งตำบลนี้มีโรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็ก 5 โรงเรียน และโรงเรียนขนาดกลาง 5 โรงเรียน มีนักเรียน 833 คน ครูผู้สอน 86 คน เป็นการนำนักเรียนที่อยู่ใกล้เคียงกันมาเรียนรวมกัน โดยจัดตั้งเป็นศูนย์การเรียนรู้ 4 ศูนย์ ได้แก่ ศูนย์การเรียนรู้ภาษาไทย ศูนย์การเรียนรู้คณิตศาสตร์ ศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และศูนย์การเรียนรู้ภาษาอังกฤษ โดยแต่ละศูนย์การเรียนรู้จะมีครูที่มีความรู้ ความสามารถเฉพาะทางประจำศูนย์ ให้โรงเรียนแต่ละโรงเรียนในตำบลตูมใหญ่ นำนักเรียนหมุนเวียนไปเรียนตามศูนย์การเรียนรู้ต่างๆ การดำเนินการในครั้งนี้ได้รับสนับสนุนจากมูลนิธิอาณัตพณ ซารัมย์ (ลูกเติ้ง) และนางชลธิชา บุญครอบ มอบทุนดำเนินการในเบื้องต้นจำนวน 100,000 บาท และจักรยานจำนวน 10 คัน

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นอกจากนี้ นายชาตรี ศรีตะวัน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตูมใหญ่ มอบสื่อการเรียนการสอนเป็นเงินจำนวน 500,000 บาท นายปิยวิทย์ เชิดกลิ่น ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ สนับสนุนการจัดการเรียนอาชีพให้กับนักเรียน ส.ต.ต.ดร.นปดล นพเคราะห์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาบุรีรัมย์ สนับสนุนครูที่มีความรู้ ความสามารถ มาช่วยในการจัดการเรียนรู้ตามศูนย์การเรียนรู้ต่างๆ นายประสิทธิ์ พิเศษ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 4 ร่วมดำเนินการขับเคลื่อนในครั้งนี้

นายโสภณ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่ทุกฝ่ายร่วมบูรณาการตั้งแต่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชน รวมถึงผู้ปกครองและประชาชน ร่วมมือกันทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาการบริหารโรงเรียน ขนาดเล็ก และคุณภาพการจัดการศึกษาของโรงเรียนที่อยู่ในชนบท ซึ่งขาดแคลนทรัพยากรทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นบุคลากรครู สื่อการเรียนการสอน สวัสดิการอื่นๆ เนื่องด้วยประชาชนที่มีฐานะเศรษฐกิจไม่เพียงพอที่จะส่งลูกหลานไปเรียนในเมืองได้ ต้องจำทนให้เรียนในโรงเรียนของหมู่บ้าน

 

 

“จากการทำความเข้าใจของทุกฝ่าย จึงได้เกิดความร่วมมือตั้งโครงการนี้ขึ้นมา ส่วนจะสำเร็จหรือไม่ก็อยู่กับความร่วมมือ ร่วมใจกันของทุกฝ่าย และผมยินดีที่จะสนับสนุนโครงการนี้อย่างเต็มกำลังความสามารถ ถ้าได้ผลตอบรับอย่างดีก็หวังว่าจะเป็นโมเดลหนึ่งที่รัฐจะนำไปใช้ในระดับชาติต่อไป” นายโสภณกล่าว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

คลี่คลายปัญหาที่ดินชุมชนป่าสน นายอำเภอ–ส.ว. เร่งตั้งโต๊ะไกล่เกลี่ยแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยประชาชน
มทบ.17 ส่งต่อความห่วงใยจากกองทัพบก: มอบผ้าห่มและบริการสุขภาพถึงมือชาวช่องสะเดา กาญจนบุรี
"กรมปศุสัตว์" ย้ำเกณฑ์เยียวยาความเสียหาย 7 จังหวัดชายแดนไทย–กัมพูชา ล่าสุดเกษตรกรได้รับผลกระทบกว่า 2 แสนราย มีสัตว์ในพื้นที่รวม 6.5 ล้านตัว ส่งความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง
คนไทยน้ำตาริน เทิดเกียรติ 2 ทหารกล้า พลีชีพเพิ่มบนสมรภูมิ เนิน 350 ยุทธศาสตร์สำคัญต้องบุกยึดคืนให้ได้
ภูเก็ตส่งเสริม Young Smart Farmer ดันเกษตรผสมผสาน เพิ่มรายได้ สู่เกษตรยั่งยืน
แต่ละช็อตอย่างโดน "หน่วยทหารม้า" นำรถถังยิงถล่มตึกกาสิโน-ฐานสแกมเมอร์ ช่องสายตะกู  "ทหารเขมร" ใช้เป็นฐานกำลังโดรนโจมตีไทย

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​