ชัดเจน! กอ.รมน.ภาค 4 เผยผลตรวจคนร้ายใช้ยิงแม่เฒ่าวัย 76 ปี เป็นปืนที่ใช้ก่อเหตุรุนแรง เป็นของผู้ก่อเหตุจริง

ชัดเจน “กอ.รมน.ภาค 4” ยืนยันผลปืนใช้ทำร้ายแม่เฒ่าวัย 76 พื้นที่นราธิวาส เป็นของผู้ก่อเหตุจริง – Top News รายงาน

จากกรณีที่เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงประชาชนชาวไทยพุทธในพื้นที่ในพื้นที่ อ.จะแนะ และอ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 2 พ.ค.68 ที่ผ่าน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 3 ราย โดยในจำนวนผู้เสียชีวิต เป็นหญิงชราพิการทางสายตาอายุ 76 ปี และเด็กหญิงอายุ 9 ปี

ล่าสุด วันนี้ (14 พ.ค.68) เพจเฟซบุ๊กกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า หรือ กอ.รมน.ภาค 4 สน.ได้โพสต์ข้อความ ว่าชัดเจน! ปืนที่ใช้ก่อเหตุรุนแรง เป็นของผู้ก่อเหตุจริง

ผลการพิสูจน์หลักฐานปลอกกระสุน กรณีเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 15.30 น. เหตุคนร้ายยิง นางสง่า แสงย้อย (แม่) เสียชีวิต และนายทัศไนย์ ตั้งคง (ลูก) บาดเจ็บ ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์มาจากโรงพยาบาลจะแนะ เพื่อที่จะกลับบ้าน เหตุเกิดบนถนนรอยต่อ หมู่ที่ 4 กับ หมู่ที่ 5 ตำบลช้างเผือก สถานีตำรวจภูธรจะแนะ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส

เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่และเก็บหลักฐานวัตถุพยานเพื่อเร่งดำเนินการนำผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย ซึ่งสามารถเก็บปลอกกระสุนปืนออโตเมติก ขนาด 9 มิลลิเมตร LUGER จำนวน 9 ปลอก (GLOCK) และลูกกระสุนปืนออโตเมติก (ทองแดงหุ้มตะกั่ว) ขนาด 9 มิลลิเมตร LUGER จำนวน 1 ลูก ได้ในที่เกิดเหตุ

ข่าวที่น่าสนใจ

สุดจะต้าน! ทหารเมียนมา “ฐานตานเหล่” แตกแล้วหลังจากพยายามป้องกันฐานนาน 1 สัปดาห์ – ไทยคุมเข้มชายแดน

โดยมีผลการตรวจพิสูจน์ปลอกกระสุน และทองแดงหุ้มตะกั่ว มีรายละเอียดดังนี้

1.ของกลางรายการที่ 1 ปลอกกระสุนปืนออโตเมติก ขนาด 9 มม. LUGER ทั้ง 9 ปลอก ใช้ยิงมาจากปืนกระบอกเดียวกัน (GLOCK) และตรวจพบว่าใช้ยิงมาจากปืนกระบอกเดียวกันกับคดีอื่นที่มีประวัติเก็บไว้ในระบบฐานข้อมูลของ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 จำนวนรวม 3 คดี

2. ของกลางรายการที่ 2 ลูกกระสุนปืนออโตเมติก (ทองแดงหุ้มตะกั่ว) ขนาด 9 มิลลิเมตร LUGER ยังตรวจไม่พบว่าใช้ยิงมาจากปืนกระบอกเดียวกันกับคดีอื่นที่มีประวัติเก็บไว้ในระบบฐานข้อมูลของ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10

นอกจากนี้ ยังปรากฎว่าปืนออโตเมติก ขนาด 9 มิลลิเมตร (GLOCK) พบประวัติรวม 3 คดี เคยใช้ยิงเจ้าหน้าที่ทหารพราน และประชาชนมาแล้ว ทั้งนี้ได้สังหารเจ้าหน้าที่ทหารพราน ไปแล้ว จำนวน 1 นาย และประชาชนอีก 1 ราย ประกอบด้วย

คดีที่ 1 เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2564 คนร้ายยิงนายจันทร์ ขวัญคุม ขณะล่าสัตว์ ไม่ได้รับบาดเจ็บ พบปลอกกระสุนปืน บริเวณสวนผลไม้บนเนินเขา หมู่ที่ 3 ตำบลช้างเผือก อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส

คดีที่ 2 เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2566 อาสาสมัครทหารพราน ศัยฟูดีน มะเซ็ง ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเสียชีวิต หลังจากประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอิสลามเสร็จ บริเวณหน้ามัสยิดดารุลอิสลาม บ้านบูยง หมู่ที่ 3 ตำบลช้างเผือก อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส

คดีที่ 3 เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 คนร้ายยิง นางสง่า แสงย้อย (แม่) เสียชีวิต และนายทัศไนย์ ตั้งคง (ลูก) บาดเจ็บ ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์มาจากโรงพยาบาลจะแนะเพื่อที่จะกลับบ้าน เหตุเกิดบนถนนรอยต่อ หมู่ที่ 4 กับ หมู่ที่ 5 ตำบลช้างเผือก อำเภอจะแนะ สถานีตำรวจภูธรจะแนะ จังหวัดนราธิวาส

จากการกระทำของผู้ก่อเหตุรุนแรง แสดงให้เห็นถึงความพยายามที่มุ่งหวังกระทำต่อเจ้าหน้าที่ที่ช่วยเหลือดูแลความสงบสุขของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ อีกทั้งยังกระทำต่อพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ นับเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยม ไร้มนุษยธรรม ผิดต่อกฎหมายและเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างยิ่ง ซึ่งนอกจากจะก่อให้เกิดต่อชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์แล้ว ยังเกิดความเศร้าสลดใจแก่ผู้พบเห็นและต่อสังคมโดยรวม อีกด้วย

ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน หากพบเบาะแส รวมถึงบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรง แม่ทัพภาคที่ 4 , ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โทร 061-1732999 หรือเบอร์สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง