ชาวบ้านริมคลองเปรมฯ ร้องซ้ำผู้ว่าฯกทม.โดนเลือกปฏิบัติ เข้าร่วม “บ้านมั่นคง”

ชาวบ้านชุมชนริมคลองเปรมประชากรที่เข้าร่วมโครงการ “บ้านมั่นคง” บุกยื่นหนังสือถึง ผู้ว่าฯชัชชาติ หลังผ่านไป 8 เดือน ยังมีชาวบ้านบางกลุ่มได้รับโอกาส “ตัดบ้านคืนคลอง” พร้อมซ่อมบำรุงให้ฟรีโดยที่ไม่เสียค่าใช้จ่าย และตกเป็นหนี้รัฐ

ชาวบ้านริมคลองเปรมฯ ร้องซ้ำผู้ว่าฯกทม.โดนเลือกปฏิบัติ เข้าร่วม “บ้านมั่นคง” – Top News รายงาน

ชาวบ้านริมคลองเปรมฯ

 

จากกรณีเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2567 ชาวบ้านชุมชนริมคลองเปรมประชากร และคลองลาดพร้าว กว่า 100 คน ได้รวมตัวกันบุกเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ลานคนเมือง หลังถูกเจ้าหน้าที่เลือกปฏิบัติ ทำให้ชาวบ้านที่เข้าร่วมในโครงการ “บ้านมั่นคง” พัฒนาชุมชนริมคลอง ตามนโยบายของรัฐบาลให้มีการพัฒนาความเป็นอยู่ของชาวบ้านริมคลองเปรมประชากร และคลองลาดพร้าว ให้ดียิ่งขึ้น ไม่ได้รับความเป็นธรรม และผู้ว่าฯ ก็รับปากว่า พร้อมจะแก้ไขปัญหาในเรื่องดังกล่าว “ใครอยู่ล้ำเส้นแนวเขื่อนจะต้องเข้าร่วม ไม่ก็ต้องออกจากพื้นที่ริมคลอง”

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุด เมื่อเวลา 08.30 น. วันนี้ (6 พ.ค.68) ชาวบ้านริมคลองเปรมประชากร กว่า 50 คน ได้รวมตัวกันมายื่นหนังสือถึง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร อีกครั้ง หลังผ่านไปแล้ว 9 เดือน ก็ยังไม่ได้รับความยุติธรรม ยังคงมีชาวบ้านที่มีบ้านล้ำแนวเขื่อนริมคลองเปรมประชากร และยังได้รับทางเลือกพิเศษ “ตัดบ้านคืนคลอง” แถมยังได้รับการซ่อมแซมบ้านให้เรียบร้อยโดยที่ไม่ต้องเข้าร่วมกับโครงการบ้านมั่นคง ไม่ถูกดำเนินคดี หรือไล่ออกจากพื้นที่ และไม่ตกเป็นหนี้เหมือนกับชาวบ้านคนอื่นๆ ที่เข้าร่วมโครงการบ้านมั่นคง

โดย นายวันชัย เอี่ยมสอาด ตัวแทนเครือข่ายพัฒนาชุมชนและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า หลังจากที่ชาวบ้านหลายคนที่ได้เข้าร่วมโครงการบ้านมั่นคง จนขณะนี้ประสบปัญหาว่ามีชาวบ้านในบางชุมชนไม่ยอมเข้าร่วมโครงการ แต่ยังอาศัยอยู่ที่ริมคลองเปรมประชากรได้ โดยมีเจ้าหน้าที่สำนักงานระบายน้ำ ได้ดำเนินการตัดบ้านคืนคลองให้กับชาวบ้าน ตัดบ้านที่ล้ำแนวเขื่อน และซ่อมบำรุงให้อย่างสวยงาม โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย อีกทั้งไม่ถูกดำเนินคดี หรือให้ออกจากพื้นที่ ทำให้เกิดข้อเปรียบเทียบเป็น 2 มาตรฐานหรือไม่

จึงสร้างความไม่พอใจให้ชาวบ้านที่เข้าร่วมโครงการบ้านมั่นคง ที่ต้องตกเป็นหนี้กับโครงการฯ ดังกล่าว ยอมทำตามนโยบายในการพัฒนาชุมชนริมคลองให้สวยงาม และน่าอยู่ยิ่งขึ้น จนทำให้ชาวบ้านชุมชนคนรักถิ่น , ชุมชนเปรมสุขสันต์ , ชุมชนศิษย์หลวงปู่ขาว  และชุมชนร่วมพัฒนา ของเขตหลักสี่ ที่เข้าร่วมโครงการบ้านมั่นคง บางคนขอออกจากโครงการฯ เพราะเห็นว่ามีบางคนไม่ต้องตกเป็นหนี้ และก็ยังอาศัยอยู่ที่ริมคลองได้ตามปกติ

วันนี้ จึงมายื่นหนังสือถามความคืบหน้าจากผู้ว่าฯ กทม. ว่าได้บังคับใช้กฎหมายกับชาวบ้านที่ไม่เข้าร่วมโครงการฯ แล้วหรือไม่ หากยังไม่บังคับใช้กฎหมาย ชาวบ้านก็จะไม่เข้าร่วมโครงการดังกล่าว และนโยบายการพัฒนาชุมชนริมคลอง ก็จะดำเนินการไปต่อไม่ได้ อีกทั้งปัญหาอื่นๆ ก็จะตามมาอย่างแน่นอน

 

 

ต่อมา เวลา 11.45 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ได้ลงมารับหนังสือด้วยตัวเอง พร้อมกับรับฟังปัญหาของชาวบ้าน และวางแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดย นายชัชชาติ ได้ให้สัมภาษณ์กับท็อปนิวส์ว่า เรื่องที่ชาวบ้านมายื่นหนังสือในวันนี้มีอยู่ 2 ประเด็น คือ เรื่องผู้ที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการบ้านมั่นคง แต่ยังคงอาศัยอยู่ในชุมชนริมคลองได้ และมาติดตามการบังคับใช้กฎหมายกับบุคคลที่ถูกกล่าวอ้างที่ยังอาศัยอยู่ในพื้นที่

ซึ่งเรื่องเหล่านี้ทางกรุงเทพมหานครยังคงดำเนินการมาโดยตลอด บ้านหลังไหนที่ล้ำเส้นแนวเขื่อนคลองเปรมประชากร จะต้องถูกรื้อออก และเข้าร่วมโครงการฯ หากมีความประสงค์ที่จะอยู่ต่อ  ส่วนผู้ที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการฯ แต่ยังอาศัยอยู่ที่ริมคลองเปรมประชากรนั้น ตนเองขอยืนยันว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่ กทม.ไปเสนอนโยบายตัดบ้านคืนคลอง และซ่อมบ้านให้สวยงาม ให้กับชาวบ้านอย่างแน่นอน ส่วนตัวคิดว่าอาจจะเป็นทีมงานของผู้รับเหมาก่อสร้างแนวเขื่อน ที่อยากจะสร้างเขื่อนนำหน้าการเจรจา หรือขอความร่วมมือไปก่อน โดยตัดบ้านบางส่วนที่ล้ำออก แล้วก็ซ่อมให้

อย่างไรก็ตาม บ้านที่อยู่บนพื้นน้ำริมคลอง ทุกคนจะต้องเข้าร่วมโครงการบ้านมั่นคง ไม่ช้าก็เร็ว ใครไม่ออก ก็จะถูก กทม.ฟ้องร้องตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 44 ห้ามเข้าเขตกำหนด คือการห้ามมิให้เข้าไปในท้องที่ หรือสถานที่ที่กำหนดไว้ในคำพิพากษา  ส่วนบ้านริมคลองที่อยู่บนพื้น ก็จะต้องให้ทางกรมธนารักษ์เป็นผู้ฟ้องร้อง เพราะเป็นเจ้าของพื้นที่ และมีอำนาจดูแลทั้งหมดที่อยู่บนพื้นดิน

 

เบื้องต้น ผู้ว่าฯ กทม. ได้มีคำสั่งระงับโครงการสร้างเขื่อนริมคลองเปรมประชากรไปก่อน จนกว่าจะมีข้อสรุปจากการประชุมในช่วงต้นเดือนมิถุนายน ทั้งนี้ ภายหลังจากที่มีคำสั่งดังกล่าวออกมา ทำให้ชาวบ้านพอใจ และได้แยกย้ายกันกลับ

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

แจกแน่ "เผ่าภูมิ" ยันเงินหมื่นเฟส 3 ไม่เกินไตรมาส 2 ปีนี้ พร้อมเร่งพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
"ธรรมนัส-นฤมล" เปิดพรรคกล้าธรรม ยินดี "ก้องเกียรติ" ว่าที่สส.นครศรีฯ พร้อมต้อนรับ "เอกราช" สส.ขอนแก่น นำทีมผู้สมัครใหม่ เป็นสมาชิกทางการ มั่นใจสร้างแกร่งการเมืองอนาคต
ประกาศคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง เรื่อง รับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกผู้ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง
MEA แจ้งปิดทำการ เนื่องในวันพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ และวันหยุดชดเชยวันวิสาขบูชา ระหว่างวันที่ 9 - 12 พฤษภาคม 2568
CPF ปันน้ำปุ๋ยสู่เกษตรกร ลดเสี่ยงภัยแล้ง ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต
"ฉัตรวรรษ" ฉะกระบวนการสอบฮั้ว "สว.อำนาจเจริญ" ไม่โปร่งใส พยายามบังคับให้ยอมรับ จ่อส่งเอกสารยื่นร้องป.ป.ช.-ศาลรธน.
ญาติเหยื่อตึกสตง.ถล่ม ขอความช่วยเหลือ "อัยการคุ้มครองสิทธิฯ" จ.น่าน
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ยืนโทษคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา "ฟ้า พรหมศร" ผิด 112 ปราศรัยพาดพิงเบื้องสูง "แอมมี่" รอด
ครั้งนี้สาหัสแน่ "หมอวรงค์" มั่นใจผลสอบแพทยสภา ชี้มูลป่วยทิพย์ ถ้าถึงศาล ใครช่วย "ทักษิณ" โดนหมด!
"นฤมล" สั่งการกรมชลประทาน เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำช่วงฤดูฝน กำชับวางแผนกักเก็บใช้ถึงฤดูแล้งปี 69

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น