โฆษกเพื่อไทยหวังพรรคการเมือง-ประชาชนหยุดวงจรอุบาทว์

กรุงเทพฯ 6 ต.ค.- เพื่อไทยร่วมวางพวงมาลารำลึก 6 ตุลา 19 โฆษกพรรคชี้เหตุการณ์นี้คือจุดเริ่มต้นวงจรอุบาทว์ฉุดรั้งประเทศ หวังพรรคการเมืองและประชาชนทุบรื้อโครงสร้างป้องกันความรุนแรงโดยรัฐอีก

น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช และนายสุธรรม แสงประทุม อดีตนักศึกษานักเคลื่อนไหวในเหตุการณ์ 6 ตุลา นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรค และนายกฤตนัน สุทธิธนาเลิศ สมาชิกพรรค เข้าร่วมวางพวงมาลาเพื่อรำลึกถึงวีรชนผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

น.ส.อรุณี กล่าวว่า เนื่องในวันครบรอบ 45 ปีเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 ขอแสดงความรำลึกถึงเหล่าวีรชนทุกท่าน และเชื่อว่าการต่อสู้ในตอนนั้นคนรุ่นหลังได้เรียนรู้ถึงความเสียสละของผู้วายชนม์แล้ว ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นจุดเปลี่ยนของสังคมไทยที่ทำให้การยึดอำนาจรัฐประหารของเผด็จการเป็นสิ่งที่เลวร้ายและนำมาซึ่งความตกต่ำของประเทศจนถึงทุกวันนี้ เป็นหนึ่งในรูปแบบของความอำมหิตที่รัฐใช้กับผู้ชุมนุมที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย และสุดท้ายประเทศไทยก็ตกหลุมวนอยู่ในวงจรอุบาทว์ที่ทำให้ประเทศชาติไม่พัฒนา โดยมี 4 ขั้นตอนหลัก คือ

1.การสร้างสังคมที่ “อยุติธรรม” เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 การกลับเข้ามาในประเทศของจอมพลถนอม กิตติขจร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ไม่เคยได้รับโทษใด ๆ ในเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ซึ่งเป็นชนวนเหตุความรุนแรง เช่นเดียวกับปัจจุบัน การชุมนุมของเยาวชนทั้งหลายก็เกิดจากการอึดอัดคับแค้นใจต่อความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นในสังคม

2.ใช้สื่อสารมวลชนอย่าง “อยุติธรรม” เพื่อสร้างวาทกรรมลดทอนคุณค่า โดยกรณี 6 ตุลา ผู้ชุมนุมถูกลดทอนคุณค่าการเรียกร้องความยุติธรรมและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ทำให้กลายเป็นปีศาจคอมมิวนิสต์ ปีศาจญวน จนมาถึงปัจจุบันเยาวชนที่ออกมาชุมนุมถูกลดทอนคุณค่าให้เหลือเพียง พวกชังชาติ หรือพวกสามกีบ โดยสื่อบางกลุ่ม หรือหน่วยไอโอ

3.เผด็จการเข่นฆ่ากระทำการรุนแรงกับประชาชน ในกรณี 6 ตุลา รัฐระดมกำลังพลและอาวุธสงครามล้อมฆ่าประชาชนที่ไร้ทางสู้ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ขณะที่ปัจจุบันรัฐเริ่มเพิ่มระดับความรุนแรงในการปราบผู้ชุมนุมมากขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่แก๊สน้ำตา ฉีดน้ำแรงดันสูงที่ผสมสารเคมี เอากระบองไล่ทุบตี ตระเวนขึ้นรถกระบะไล่ยิงกระสุนยาง และมี “มือมืด” ใช้กระสุนจริงด้วย

4.บังคับให้ถูกลืม กรณี 6 ตุลา การล้อมฆ่าถูกทำให้ลืมเลือน ใช้เวลาเป็นสิบปีกว่าจะถูกรื้อฟื้น เมื่อเทียบกับการชุมนุมในปัจจุบันมักจะมีข่าวสังคมสร้างดราม่าเข้ามาแทรกเกือบทุกครั้ง ดังนั้นพรรคการเมืองและประชาชนจะต้องร่วมกันรื้อทุบโครงสร้างเหล่านี้ไปให้ได้ เพื่อสร้างสรรค์สังคมที่ยุติธรรมกลับคืนมาจะได้ไม่ต้องมีเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 เกิดขึ้นซ้ำอีก

“หากรัฐบาลซึ่งมีที่มาจากเผด็จการทหาร ที่ยึดอำนาจมาจากมือของประชาชนยังคงปกครองประเทศ วงจรอุบาทว์ จะหมุนวนซ้ำไปเรื่อย ๆ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของคนไทยจะถูกลดทอน ด้อยค่า สิทธิและเสรีภาพจะไม่มีค่าไปกว่าความมั่นคง และท้ายที่สุดระบอบการปกครองของไทยที่ชื่อว่าประชาธิปไตยจะไม่สามารถพัฒนา 7 ปีที่ผ่านมาก็เกินพอแล้วสำหรับเผด็จการทหาร” นางสาวอรุณี กล่าว

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

Kick off ตรวจเข้มแรงงานต่างด้าว ป้องกันปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน จังหวัดฉะเชิงเทรา
นครสวรรค์!!!!การแข่งขันทักษะทางวิชาการโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา เขต 4 งานปริยัติสามัญวิชาการ เขต 4 ครั้งที่ 11
สวนสัตว์เปิดเขาเขียว คว้าโล่ศูนย์ข้อมูลข่าวสารโดดเด่น ย้ำความโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล
เด็ดปีกรายสำคัญ! ตร.ชัยภูมิ กวาดล้างสิ่งเสพติดข้ามชาติ ยึดของกลางรวมกว่า 1.2 แสนเม็ด เตรียมกระจายช่วงเทศกาล
พิษณุโลก ชวนชม ซากุระญี่ปุ่น บานสะพรั่ง ณ บ้านร่องกล้า “หมู่บ้านสีชมพู”
สั่งปิดหูปิดตาทั้งเมือง‘กัมพูชา’ ประกาศห้ามชาวเขมร คอมเมนต์ แชร์ข่าวสารจากไทย รับความจริงไม่ได้ สั่งให้กดรีพอร์ตด้วย

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​