มติกนง.เสียงส่วนใหญ่ ให้ลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25 เหลือ 1.75% ต่อปี

มติกนง.เสียงส่วนใหญ่ ให้ลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25 เหลือ 1.75% ต่อปี

วันนี้ (30 เม.ย.68) นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล เลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุม กนง. โดยคณะกรรมการฯ มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25 จากร้อยละ 2.00 เป็นร้อยละ 1.75 ต่อปี โดยให้มีผลทันที ทั้งนี้ 2 เสียง เห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

ทั้งนี้เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวลดลง และมีความเสี่ยงด้านต่ำเพิ่มขึ้นจากนโยบายการค้าโลก และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มลดลงต่ำกว่ากรอบเป้าหมายจากปัจจัยด้านอุปทานเป็นสำคัญ ด้านภาวะการเงินโดยรวมยังตึงตัว กรรมการส่วนใหญ่จึงเห็นควรให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 0.25 ในการประชุมครั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจและรองรับความเสี่ยงด้านต่ำที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งดูแลภาวะการเงินให้เหมาะสมกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่เปลี่ยนไป ขณะที่กรรมการ 2 ท่าน เห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อใช้ในจังหวะที่เกิดประสิทธิผลสูงสุดภายใต้ขีดความสามารถของนโยบายการเงิน (policy space) ที่มีจำกัด

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายสักกะภพ กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวลดลง และมีความเสี่ยงด้านต่ำเพิ่มขึ้นจากนโยบายการค้าโลกและจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ มองไปข้างหน้านโยบายการค้าจะเริ่มส่งผลกระทบมากขึ้นตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2568 อย่างไรก็ดีความไม่แน่นอนยังสูงมาก คณะกรรมการฯ จึงประเมินภาพเศรษฐกิจภายใต้หลายฉากทัศน์ ตัวอย่างเช่น การเจรจาทางการค้ามีความยืดเยื้อ และภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ใกล้เคียงกับอัตราปัจจุบัน (reference scenario) อาจส่งผลให้เศรษฐกิจไทยในปี 2568 ขยายตัวประมาณร้อยละ 2.0 และฉากทัศน์ที่สงครามการค้ารุนแรงมาก และภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ อยู่ในอัตราที่สูง (alternative scenario) อาจทำให้เศรษฐกิจไทยในปี 2568 ขยายตัวประมาณร้อยละ 1.3

นายสักกะภพ กล่าวอีกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นจริงจะขึ้นอยู่กับนโยบายและการปรับตัวของประเทศต่างๆ จึงต้องติดตามพัฒนาการการค้าโลกและผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างใกล้ชิด การแก้ปัญหาและลดผลกระทบจากนโยบายการค้าข้างต้น จำเป็นต้องผสมผสานนโยบายหลายด้านเสริมกัน

 

 

นายสักกะภพ กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มลดลงต่ำกว่ากรอบเป้าหมายจากราคาน้ำมันดิบโลก และมาตรการภาครัฐ ซึ่งมีส่วนช่วยบรรเทาค่าครองชีพ และลดต้นทุนของภาคธุรกิจ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานมีแนวโน้มทรงตัว และเงินเฟ้อคาดการณ์ในระยะปานกลางยังยึดเหนี่ยวอยู่ในกรอบเป้าหมาย ทั้งนี้นโยบายกีดกันทางการค้าและการเปลี่ยนแปลงห่วงโซ่อุปทานโลก อาจส่งผลต่อแนวโน้มเงินเฟ้อในระยะข้างหน้า

นายสักกะภพ กล่าวว่า ภาวะการเงินยังตึงตัว สินเชื่อรวมหดตัวเล็กน้อย และคุณภาพสินเชื่อยังปรับด้อยลง โดยเฉพาะสินเชื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อธุรกิจในกลุ่มที่เผชิญปัญหาเชิงโครงสร้าง นอกจากนี้ นโยบายการค้าโลก อาจ สร้างแรงกดดันเพิ่มเติมต่อฐานะการเงินของภาคธุรกิจและครัวเรือน จึงต้องติดตามนัยต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและภาคการเงินที่มีความเชื่อมโยงกัน

 

นายสักกะภพ กล่าวว่า ความผันผวนในตลาดการเงินโลกปรับสูงขึ้นจากความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าประเทศเศรษฐกิจหลัก และส่งผลให้ความผันผวนของตลาดการเงินไทยสูงขึ้นเช่นกัน อย่างไรก็ดี การทำงานของกลไกตลาดการเงินไทยโดยรวมยังคงเป็นปกติ คณะกรรมการฯ เห็นควรให้ติดตามพัฒนาการในตลาดการเงินโลกและการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด ภายใต้กรอบการดำเนินนโยบายการเงินที่มีเป้าหมายรักษาเสถียรภาพราคา ควบคู่กับดูแลเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน และรักษาเสถียรภาพระบบการเงิน คณะกรรมการฯ ประเมินว่า แนวโน้มเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนสูง จึงจะพิจารณาปรับนโยบายการเงินให้เหมาะสมกับแนวโน้มและความเสี่ยงของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในระยะข้างหน้า

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) 'โลมาขาวจีน' แหวกว่ายน่านน้ำในกวางตุ้ง
'ยลดา' ย้ำ ถนนประสานแผนจากพี่น้องท้องถิ่น แม้ไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของ อบจ.แต่ทุกสายทางต้องได้มาตรฐานเดียวกัน
ทบ.สดุดีทหารกล้า จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ “จ.ส.อ. อโนทัย ป้องแก้ว” พร้อมปูนบำเหน็จและขอพระราชยศทหารเลื่อนขั้นเป็น “พลตรี” อย่างสมเกียรติ
"นฤมล" ร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ 7 พลเรือน เสียชีวิตเหตุกัมพูชาก่อความรุนแรงชายแดน ชี้ไทยสูญเสียครั้งใหญ่ ศธ.พร้อมดูแลจิตใจเพื่อนนร.ครูในพื้นที่
“เป๊ก ผลิตโชค” ถูกฟันคางเลือดอาบ กลางปั๊มน้ำมันกลางกรุงฯ คู่กรณีอ้างป้องกันตัว
"แรงงานชาวกัมพูชา" แห่เดินทางกลับประเทศ กว่า 7 พันคน ด่านบ้านแหลม" จันทบุรี เหตุกังวัลความปลอดภัย 

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​