วันนี้ แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือศบค. แถลงสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ประจำวันนี้ว่า มีผู้ติดเชื้อ 2,041 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 31 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสสมระลอกใหม่ 182 ราย ส่วนผู้ที่ยังรักษาอยู่ 29,765 ราย อาการหนัก 981 ราย ใช้เครื่องช่วยหายใจ 278 ราย ขณะที่จำนวนการฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 เพิ่มขึ้น 1,598 ราย รวม 1,099,460 ราย เข็มที่ 2 เพิ่มขึ้น 744 ราย รวม 387,477 ราย
ทั้งนี้ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ยังมีผู้ติดเชื้อรายวันเป็นอับดับหนึ่ง คือ 675 ราย อันดับสอง นนทบุรี 277 ราย อันดับสาม สมุทรปราการ 161 ราย อันดับสี่ ชลุบรี 153 ราย และอันดับห้า สุราษฏร์ธานี 69 ราย โดยในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ยังมีแนวโน้มผู้ติดเชื้อสูงขึ้น ส่วนต่างจังหวัดเริ่มชะลอตัวและควบคุมได้ดีขึ้น ซึ่งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จากการรายงานผู้ติดเชื้อรายวันระลอกใหม่สะสมสม 13,283 ราย เขตที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดคือ 10 อันดับแรก อันดับหนึ่ง เขตห้วยขวาง 392 ราย อันดับสอง เขตดินแดง 284 ราย อันดับสาม เขตบางเขน 284 อันดับสี่ เขตวัฒนา 272 ราย อันดับห้า เขตจตุจักร 259 ราย อันดับหก เขตลาดพร้าว 230 ราย อันดับเจ็ด เขตวังทองหลาง 225 ราย อันดับแปด เขตบางกะปิ 215 ราย อันดับเก้า เขตสวนหลวง 211 ราย และอันดับสิบ เขตภาษีเจริญ 186 ราย
แพทย์หญิงอภิสมัย เปิดเผยอีกว่า ที่ประชุมศบค.ชุดเล็กวันนี้ ได้หารือถึงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อในชุมชนคลองเตย พบผู้ติดเชื้อแล้ว 304 ราย ซึ่งมี 193 ราย ที่อาศัยอยู่ในแหล่งชุมชนแออัด อีก 111 ราย อาศัยอยู่ในคอนโด หอพัก โดยกรุงเทพมหานครได้นำผู้ติดเชื้อทั้งหมดเข้าสู่การรักษาแล้ว 100 % และค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุก ซึ่งมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเกือบ 1 พันราย ซึ่งบ่ายวันนี้จะมีการหารือถึงการปูพรหมตรวจในพื้นที่เพิ่มเติม นอกจากนี้กรมควบคุมโรคยังได้มีการหารือว่า จะจัดสรรวัคซีนเข้าไประดมฉีดกลุ่มเป้าหมายในชุมชนที่มีผู้ติดเชื้อสูงด้วย โดยผู้ติดเชื้อพบว่าหนาแน่นอยู่ใน 3 ชุมชนหลักได้แก่ ชุมชน 70 ไร่ ชุมชนพัฒนาใหม่ ชุมชนริมคลองวัดสะพาน นอกจากนี้ในที่ประชุมศบค.ยังขอความร่วมมือไปยังฝ่ายความมั่นคงตามแนวชายแดน ให้เฝ้าระวังชายแดนที่ติดต่อกับทุกประเทศเพื่อนบ้านอย่างใกล้ชิด ทั้งมาเลเซีย เมียนมา กัมพูชา และลาว