วันนี้ (3 พ.ค.64) ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดี คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้กล่าวในช่วงหนึ่ง ก่อนที่ ศบค.จะมีการแถลงประจำวัน ว่า วันนี้เป็นวันครบรอบ 1 ปี ที่เราเริ่มผ่อนคลายมาตรการ แต่ผ่านมา 1 ปี เรากลับเจอวิกฤตการแพร่ระบาดเป็นจำนวนมาก การเสียชีวิตเมื่อ 1 เดือนก่อนหน้านี้ แค่ 0.12% แต่ในวันนี้ตัวเลขของเมื่อวานขึ้นไป 0.36% ถ้าตัวเลขต่างๆ ไม่ลดลงนั่นแปลว่าเรากำลังวิ่งเข้าไปถึงจุดวิกฤตที่แท้จริง
สิ่งที่จากนี้เป็นต้นไปขอให้คนไทยทุกคนเราต้องช่วยกัน การใส่หน้ากากอยู่ตลอดเวลา ไม่เว้นแม้ในบ้าน ตัวเลขการระบาดสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่เว้นแม้ในบ้าน อยู่ในครอบครัว อยู่กับเพื่อนฝูง ตอนนี้แม้อยู่บ้านเราไม่รู้ว่าใครจะนำเชื้อกลับเข้ามา ขอให้รักษาระยะห่าง หมั่นทำความสะอาดสิ่งของ ล้างมือ ซึ่งต้องย้ำอีกครั้งว่านี่เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนต้องช่วยกัน
อีกสิ่งหนึ่งที่จะขอ คือมาตรการของผู้ประกอบการก็ขอให้ทำตามที่รัฐบาลกำหนด ซึ่งเป็นมาตรการที่มาจากข้อมูลต่างๆ แล้วมีกระบวนการทบทวนว่ามีอะไรจำเป็นอะไรไม่จำเป็น
สำหรับทุกคนวัคซีนเป็น หนึ่งในเครื่องมือที่จะทำให้เราปลอดภัย ปัจจุบันมีข่าวลือเยอะมากเกี่ยวกับวัคซีนจนสร้างความสับสน ซึ่งต้องขอย้ำว่าความเสี่ยงเกี่ยวกับวัคซีนเมื่อเทียบกับอัตราการเสียชีวิต หรือความเสี่ยงจากโควิด19 นั้นแตกต่างกันอย่างมาก การฉีดวัคซีน 1 ล้านคน มีโอกาสที่มีภาวะที่แทรกซ้อนรุนแรง อยู่ 4 คน ผลข้างเคียงผลที่ไม่พึงประสงค์ต่างๆ เกิดขึ้นชั่วคราว แต่ตัวเลขคนติดเชื้อโควิด 100 คน เสียชีวิต 2.2 คน มันเป็นตัวเลขที่แตกต่างกันอย่างมากมาย
ความจริงวันนี้การฉีดวัคซีนไม่ใช่เพื่อตัวท่านเองอย่างเดียวเพื่อคนที่ท่านรักเพราะท่านจะได้ไม่แพร่เชื้อไปสู่คนเหล่านั้นถ้าเราฉีดกันได้เยอะพอและทันเวลา นี่เรากำลังจะช่วยประเทศเพราะโควิด 19 มันจะอยู่ไม่ได้ถ้าคนในประเทศไทยมีภูมิคุ้มกันเยอะขึ้นระดับหนึ่ง ขอให้มั่นใจว่า สิ่งเดียวที่อยู่ในหัวเราคือทำอย่างไรให้คนไทยปลอดภัยจากโควิด19 ขอให้เชื่อกันอีกครั้งนึงนะครับ ผมขอร้องกันจริงๆ ถ้าเราร่วมกันจริงๆ เราจะผ่านวิกฤตนี้ไปได้ด้วยดี อย่ารอจนวิกฤตรุนแรงจนแก้ไขไม่ได้แล้วเราค่อยคิดออกนะครับ