ลุยต่อเนื่อง DSI จ่อเอาผิดแม่ข่าย ‘ดิไอคอน’ เปิดเฟส 2 ดำเนินคดี หลังพบผู้เสียหายตกหล่นจากชุดแรก

กรมสอบสวนคดีพิเศษ เดินหน้าลุยต่อเนื่องกับคดี ดิไอคอน กรุ๊ป เปิดเฟส 2 และ 3 หลังพบผู้เสียหายในต่างประเทศ และผู้เสียหายที่ตกหล่นจากชุดแรก

ลุยต่อเนื่อง DSI จ่อเอาผิดแม่ข่าย ‘ดิไอคอน’ เปิดเฟส 2 ดำเนินคดี หลังพบผู้เสียหายตกหล่นจากชุดแรก

 

ข่าวที่น่าสนใจ

หลังจากที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ส่งสำนวนร้องทุกข์หรือกล่าวโทษบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด กับพวก กระทำความผิดอาญาอันเป็นคดีพิเศษ พบว่ามีผู้เสียหายซึ่งพักอาศัยอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นได้พบเห็นการกระทำของผู้ต้องหา ถูกชักชวน และหลงเชื่อสมัครเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าของผู้ต้องหากับพวก โดยพนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นความผิดซึ่งมีโทษตามกฎหมายไทยได้กระทำลงนอกราชอาณาจักร จึงให้แยกสอบสวน โดยมอบหมายให้ พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ และมีอำนาจแต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวน เพื่อร่วมสอบสวนกับพนักงานอัยการ

 

 

ต่อมา อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้อนุมัติให้สอบสวนเป็นคดีพิเศษที่ 17/2568 โดยมีร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน และอัยการสูงสุดได้มีคำสั่งมอบหมายให้คณะพนักงานอัยการ สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด รวม 6 ราย นำโดย นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีสำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด เข้าร่วมสอบสวนคดีพิเศษดังกล่าว และได้ร่วมประชุมแบ่งงานกันไปเมื่อวันที่ 20 มีนาคม ที่ผ่านมา

 

 

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ (1 เม.ย.68) ทีมข่าวได้สอบถามความคืบหน้าในคดีนี้ กับร้อยตำรวจเอก วิษณุ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน โดยเปิดเผยข้อมูลว่า หลังจากที่มีการประชุมไปเมื่อวันที่ 20 มีนาคม ที่ผ่านมา ขณะนี้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้อนุมัติให้สอบสวนเป็นคดีพิเศษที่ 18/2568 ซึ่งเป็นคดีในภาค 3 ที่มีผู้เสียหายตกหล่นจากรอบแรกในจำนวน กว่า 8 พันราย โดยมีตนเองเป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนเช่นเดียวกัน ซึ่งทั้ง 2 สำนวน อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน โดยส่วนนี้จะต้องสอบสวนพยานเพิ่มเติม ก่อนจะมาพิจารณาในการดำเนินคดีกับผู้ร่วมกระทำผิด

 

ส่วนการดำเนินคดีในขณะนี้ ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของคดีในราชอาณาจักร และนอกราชอาณาจักร โดยทำควบคู่กันไป ซึ่งคดีนอกราชอาณาจักร ผู้เสียหายอยู่ต่างประเทศ ทางเราก็ต้องนัดสอบสวนผู้เสียหาย โดยร่วมกับทางอัยการ เพื่อทำการสอบสวน จึงต้องใช้เวลาดำเนินการ ส่วนคดีที่มีผู้เสียหายในราชอาณาจักรที่ตกหล่นจากรอบแรก ก็จะต้องเชิญผู้เสียหายมาสอบสวนเช่นกัน ซึ่งในส่วนนี้เรามีหลักฐานเดิมที่ดำเนินคดีกับบรรดา 18 บอส “ดิไอคอน” ไปก่อนหน้านี้ สามารถนำมารวบรวมเพิ่มเติมได้ ซึ่งในชุดแรกเรามีเวลารวบรวมหลักฐานที่จำกัด แต่ในภาค3 นี้ เรามีเวลารวบรวบหลักฐานมากขึ้น จึงจะสืบสวนสอบสวนหาหลักฐานมาประกอบสำนวนให้ได้ครบถ้วนมากที่สุด ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาสักระยะ

ทั้งนี้ ร้อยตำรวจเอก วิษณุ ระบุว่า หลังจากนี้ จะมีการนัดคณะพนักงานอัยการในคดีนี้ มาร่วมประชุมความคืบหน้าอีกครั้ง คาดว่าจะมีการประชุมเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตาม จะดำเนินการสอบสวนคดีพิเศษให้มีความรวดเร็ว ต่อเนื่อง และเป็นธรรม เป็นนโยบายหลักของอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการสอบสวนคดีพิเศษ และให้เป็นที่น่าเชื่อถือ ศรัทธาของสังคม ในการป้องกันปราบปราม สืบสวนสอบสวนคดีในความรับผิดชอบ เพื่อให้การบริหารองค์การมีความยั่งยืนตามหลักธรรมาภิบาลต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

หนุ่มหลอนยาซิ่งเก๋งพุ่งแหกด่านตรวจ ตำรวจตามรวบตัว พบยาอื้อ โดนหนัก 7 ข้อหา
มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา ให้การต้อนรับเยาวชนจาก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 320 คน อย่างอบอุ่น ในโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 45 จัด “ค่ายประวัติศาสตร์ชาติไทย”
ปลุกเสกกระสุนพลาสติก ยิงเป้า 'วุ้นเส้น' กลางงานถนนคนเดินยูวิลล์มาร์เก็ต ผู้จัดประกาศไล่สิ่งชั่ว–คืนสีสันให้คนโคราช
จนท.เร่งตรวจสอบโครงสร้าง "อาคาร ROUTE 66" ย่าน RCA หลังเกิดเหตุไฟไหม้
"นฤมล" พรรคกล้าธรรม คว้าเก้าอี้เลือกตั้งซ่อม ส.อบจ.เชียงราย
มุกดาหาร ชสอ.แถลงข่าวมหกรรมข้อมูล ล่าสุด ณ เดือนธันวาคม 2567 ชี้ให้เห็นว่า เฉพาะเครือข่ายสหกรณ์ออมทรัพย์ มี สินทรัพย์รวมกันสูงถึง 3.43 ล้านล้านบาท มีการให้เงินกู้แก่สมาชิกเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตไปแล้วกว่า 2.39 ล้านล้านบาท และที่สำคัญที่สุดคือ มียอดเงินรับฝากจากสมาชิกรวมกันสูงถึง 1.43 ล้านล้านบาท ประกอบกับมี ทุนเรือนหุ้นของสมาชิกอีกกว่า 1.37 ล้านล้านบาท ตัวเลขมหาศาลนี้ยืนยันว่าสหกรณ์ออมทรัพย์คือแหล่งเงินออมภาคสมัครใจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศรองจากธนาคารพาณิชย์ และเป็นกลไกสำคัญที่สร้างผลตอบแทนในรูปของ "เงินปันผล" และ "เงินเฉลี่ยคืน" กลับสู่สมาชิกโดยตรง ช่วยลดความเหลื่อมล้าและกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นอย่างเป็นรูปธรรม มหกรรมวันออมแห่งชาติ ปี 2568 ณ จังหวัดมุกดาหาร ด้วยความสำคัญดังกล่าว ในปี 2568 นี้ เราจึงร่วมกับจังหวัดมุกดาหาร จัด "มหกรรมวันออมแห่งชาติ" ภายใต้แนวคิด "พลังสหกรณ์ ส่งเสริมความมั่นคงทางการออมให้คนไทย" และนับเป็นพระคุณอย่างสูง ที่ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของขบวนการสหกรณ์และการออมของภาคประชาชน โดยท่านได้กรุณาให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดงานในวันที่ 31 ตุลาคม 2568 ณ ศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการออมเป็นวาระแห่งชาติ สาหรับกิจกรรมในวันงาน 31 ตุลาคม 2568 จะมีความหลากหลายตลอดทั้งวัน เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมและส่งต่อแรงบันดาลใจในทุกมิติ ประกอบด้วย: ภาคเช้า กิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ "Mekong Savings Run & Ride 2025" การเดิน-วิ่ง และ ปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพริมฝั่งโขง เป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นสร้างความมั่นคงจากสุขภาพกาย สู่สุขภาพทางการเงิน ภาคกลางวัน เวทีสัมมนาวิชาการ "ก้าวข้ามกับดัก เพื่อโอกาสสหกรณ์ไทยให้ยั่งยืน" และทอล์คโชว์ "อนาคตการออมไทย ขับเคลื่อนโดยพลังสหกรณ์" โดยผู้เชี่ยวชาญระดับประเทศ เพื่อมอบความรู้และเปิดมุมมองใหม่ๆ ทางการเงิน ภาคค่ำ งานเลี้ยงสังสรรค์ "Cooperative Power Night" และพิธีมอบโล่รางวัลเชิดชูเกียรติ "สหกรณ์ส่งเสริมการออมยอดเยี่ยม" เพื่อยกย่องสหกรณ์ที่เป็นต้นแบบในการสร้างวินัย ทางการเงิน ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวมุกดาหารและจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงเครือข่ายสหกรณ์ทั่วประเทศ เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานประวัติศาสตร์ครั้งนี้ เพื่อร่วมกันประกาศเจตนารมณ์และสร้างวัฒนธรรมการออมที่เข้มแข็งให้แก่สังคมไทย เพราะเราเชื่อว่า "เงินออมของสมาชิกทุกคน คืออิฐแต่ละก้อนที่ประกอบกันขึ้นเป็นรากฐานเศรษฐกิจที่มั่นคงของประเทศ" มาร่วมกันทาให้วันที่ 31 ตุลาคม ไม่ใช่เป็นเพียงวันออมแห่งชาติ แต่เป็นวันที่คนไทยทุกคนเริ่มต้นสร้างอนาคตที่มั่นคงให้กับตนเองและประเทศชาติสืบไป. ภาพ-ข่าว อนุศักดิ์ - เสาวภา แสนวิเศษ ผู้สื่อข่าวTOPNEWSทั่วไทย จ.มุกดาหาร ประจาปี 2568 ส่งเสริมความมั่นคงทางการออมให้คนไทย

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​