“นายกฯ”สวนคำ “โรม” ถล่มปมชั้น 14 ลั่นไม่มีดีลปีศาจ โอดตอนเกิดเหตุ ยังไม่มีตำแหน่ง เป็นแค่ลูกสาว

"นายกฯ"สวนคำ "โรม" ถล่มปมชั้น 14 ลั่นไม่มีดีลปีศาจ โอดตอนเกิดเหตุ ยังไม่มีตำแหน่ง เป็นแค่ลูกสาว

เมื่อเวลา 15.40 น. ของวันที่ 25 มี.ค. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ 26 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) พิจารณาเรื่องด่วน ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล นส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ลุกขึ้นใช้สิทธิ์พาดพิงประเด็นเรื่องชั้น 14 ว่า สมาชิกฝ่ายค้านที่อภิปรายเรื่องนี้กับดิฉัน เรามีความคิดเห็นที่ต่างกัน เพราะท่านเคยมีความเคลื่อนไหวกับกลุ่มพันธมิตรที่จังหวัดภูเก็ต ดิฉันเชื่อมั่นว่าท่านไม่ได้ใช้อารมณ์ความรู้สึกจากต่อมตอนนั้นมาอภิปรายดิฉันในวันนี้ รายละเอียดต่างๆ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้พูดไปแล้ว “อยากจะขอชี้แจงประเด็นในฐานะลูกสาวคนหนึ่ง ตั้งแต่คุณพ่อกลับมาอยู่ที่ประเทศไทยจนถึงวันที่ออกจากโรงพยาบาลชั้น 14 ดิฉันยังไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีเลย ไม่อยากให้อภิปรายให้เกิดความสับสน เหมือนดิฉันเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วมและมีอำนาจในการสั่งข้าราชการหรือสั่งใคร ดิฉันเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตอนนั้นยังไม่มีมีอำนาจ ในเรื่องของความถูกต้องและกฎระเบียบ ถึงจะอยู่ในตำแหน่งไหนก็ตาม ทุกคนมีหน้าที่รักษากฎระเบียบ ต้องทำต่อ การจะอภิปรายต้องเห็นค่าของผู้รักษากฎหมาย คนที่เป็นข้าราชการถูกพูดแบบนี้เหมือนเป็นการด้อยค่า”

 

 

“ดิฉันเชื่อว่าลูกคนไหนก็ตามที่เห็นความไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้นกับพ่อ ที่ผ่านมาเกือบ 20 ปี ไม่มีใครอยากให้เกิด ทุกท่านต้องทราบถึงความยากลำบากที่เราและประชาชนในเรื่องของยุติธรรม ถ้าจะหาใครสักคนที่เผชิญเรื่องของความไม่ยุติธรรม ดิฉันมั่นใจว่า นายทักษิณ คือหนึ่งในคนท็อปๆที่ไม่ได้รับความยุติธรรม ท่านโดนยึดอำนาจทางการเมือง ถูกอายัดทรัพย์สิน ถูกยึดทรัพย์ ถูกลอบสังหารหลายรอบ ดิฉันอยู่มหาวิทยาลัยทราบว่าคุณพ่อถูกลอบสังหาร แต่สมัยนั้นเครื่องมือสื่อสารยังไม่ดีเท่าสมัยนี้ เด็กอายุ 18-19 ปีคนหนึ่ง ที่ทราบว่ามีคนตั้งใจจะสังหารก็ไม่ได้มีความรู้สึกที่ดี วันนั้นไม่ทราบด้วยว่าเกิดอะไรขึ้น ได้ยินแค่ข่าวต้องรออีกสักพักถึงจะทราบว่าสรุปแล้วเกิดอะไรขึ้นกับคุณพ่อ เป็นเหตุการณ์ที่ต้องลุ้น ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวเกิดหลายครั้ง เป็นสิ่งที่เกิดความเจ็บปวดในครอบครัว นอกจากนี้ถูกพลัดพรากอยู่คนละประเทศ ดิฉันพยายามเดินทางไปหาคุณพ่อจะได้ไม่ต้องคิดถึงกันมากเกินไป จนช่วงโควิดดิฉันท้องลูกคนแรก มีการกักตัว การเดินทางค่อนข้างยากลำบาก เสียน้ำตากันไม่รู้ว่าจะติดโควิดหรือไม่ และไม่ทราบว่าโรงบาลไหนมีที่รักษา ความไม่ยุติธรรมเหล่านี้เกิดขึ้นทำให้ครอบครัวที่สนิทอยู่แล้วรักกันมากขึ้น เราผ่านช่วงเวลาที่ลำบากมาด้วยกัน เข้าใจกันและกัน เป็นสิ่งที่ทำให้ตนเติบโตอย่างมีสติ อะไรควรหรือไม่ควรจะต้องเห็นใจซึ่งกันและกันเสมอ เป็นสิ่งที่ฝึกฝนตัวเอง ในเรื่องที่มีความลำบากก็มีข้อดีซ่อนอยู่เสมอ ที่ผ่านมาสมาชิกกล่าวหาว่าคุณพ่อกลับมาเพราะมีการดีลกับปีศาจ ผ่านการจัดตั้งรัฐบาลชุดนี้ 100% ไม่ใช่ความจริง นี่คือการตัดสินใจของพ่ออย่างเต็มรูปแบบว่าจะกลับมา”

ข่าวที่น่าสนใจ

นส.แพทองธาร ชี้แจงอีกว่า ดิฉันไม่อยากให้ท่านกลับมาติดคุกหรือถูกจำกัดที่ทาง ท่านอายุ 75 ปี บอกอยากใช้เวลาที่เหลือกับครอบครัวที่เมืองไทย เพราะชีวิตท่านเติบโตที่เมืองไทยมาโดยตลอดและเป็นห่วงประชาชน คิดเรื่องเศรษฐกิจให้ประชาชนรวย ดิฉันฟังท่านและมีแพชชั่นมีแรงบันดาลใจในการทำงาน จริงๆ คนเราเจอเรื่องมากมายขนาดนี้แต่ยังคิดเรื่องดีๆ กับคนอื่นได้ นี่เป็นสิ่งที่ต้องใช้พลังบวกเยอะในใจ ดิฉันได้อะไรจากตรงนี้เช่นกัน

“หากวันนั้นทางพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลจับมือสำเร็จตั้งรัฐบาลได้ ท่านเองเป็นผู้นำรัฐบาล ส่วนพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ยังไง นายทักษิณ ก็กลับมาอยู่ดี ไม่ว่ารัฐบาลนั้นจะจัดตั้งโดยใคร นี่คือเรื่องจริง คุณพ่อตั้งใจแล้วว่าจะกลับมาให้ได้”

 

 

ส่วนกระบวนการขอพระราชทานอภัยโทษ เป็นสิทธิของผู้ต้องคดีความ ซึ่งมีขั้นตอนกระบวนการต่างๆ ที่ดิฉันไม่ขอก้าวล่วง เมื่อแพทย์วินิจฉัยว่าคุณพ่อมีอาการป่วยต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ก็เป็นสิ่งที่ชัดเจน คุณพ่ออายุ 70 กว่า ป่วยท่านจะเชื่อดิฉันหรือคะ ไม่เชื่อ ต้องรับการผ่าตัดในช่วงเป็นโควิดหนักน้ำหนักลดไป 10 กิโลกรัม ทำให้เกิดอาการผมร่วง มีแผลที่ปอด ท่านไม่เชื่อถูกไหมคะ คนที่อายุ 70 ขึ้นไปต้องผ่าตัดและการผ่าตัดไม่ได้ง่ายเหมือนคนอายุน้อย ท่านก็ไม่เชื่อ ดิฉันไม่ทราบว่าจะต้องอธิบายแบบไหน เรามีการยื่นเรื่องตรวจสอบต่อแพทย์สภา เชื่อว่าผลสรุปออกมาในอีกไม่นาน หวังอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะยอมรับ ดิฉันตอบทุกท่านก็ไม่เชื่อ ไม่ทราบต้องทำอย่างไร

 

เมื่อมีกระบวนการตรวจสอบ นายทักษิณ หน่วยงานต่างๆ ในฐานะลูกดิฉันห่วงใยแน่นอน ดิฉันเป็นลูกสาวที่รักคุณพ่อเรียกว่า แด๊ดดี้เกิร์ล ในฐานะของนายกรัฐมนตรี ดิฉันไม่เคยใช้อำนาจไปแทรกแซงในหน่วยงานไหน อย่าดูถูกข้าราชการไทย ยุคสมัยนี้ทุกอย่างตรวจสอบได้ ดิฉันไม่เคยแทรกแซงกระบวนการเหล่านี้เลย

 

 

“ตลอดการอภิปรายสมาชิกเรียกร้องให้ดิฉันลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นสิทธิ์ของทุกท่านในสภาอันทรงเกียรติแห่งนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่ท่านทำไม่ได้คือ ขอให้ดิฉันลาออกจากความเป็นลูกสาว หรือความเป็นแม่ สิ่งนี้ดิฉันทำไม่ได้ ดิฉันพร้อมจะทำงานให้กับคนทุกกลุ่ม ทุกจังหวัด เพราะสวมหมวกของนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ทำหน้าที่นี้อย่างเต็มที่ ฝึกความสามารถ ขณะเดียวกันในฐานะลูกสาวของ นายทักษิณ ชินวัตร ดิฉันพูดคำนี้ด้วยความภาคภูมิใจตั้งแต่ดิฉันสามารถพูดได้ ขอให้ทุกท่านดูและพิสูจน์ที่ความสามารถของดิฉัน ความตั้งใจในการทำงานอย่างเต็มที่ในฐานะนายกรัฐมนตรี หากจะมีการวิพากษ์วิจารณ์อภิปรายใดๆ ขอให้วิจารณ์ในเรื่องของการทำงาน”

ด้านนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ลุกขึ้นชี้แจงภายหลัง นส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวพาดพิงว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มพันธมิตรที่จังหวัดภูเก็ต ว่า ในฐานะที่อภิปรายเรื่องกรณีชั้น 14 และถูกกล่าวหาว่าเป็นพันธมิตรที่จังหวัดภูเก็ต เข้าใจนายกฯ ว่าคงมีประสบการณ์ชีวิตหลายอย่างที่เจ็บปวด จึงขอให้กำลังใจท่านในช่วงที่ผ่านมา แต่เหตุการณ์ที่ผ่านมาก็คือที่ผ่านมา วันนี้พวกเรารับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น

 

ประเด็นเรื่องพันธมิตรนั้น ชั่วชีวิตนี้ไม่เคยเข้าร่วมกลุ่มพันธมิตร ไม่ว่าจะเป็นที่กรุงเทพหรือภูเก็ต ตนเองอายุ 14 ปี ในตอนที่พ่อของท่านถูกรัฐประหาร มีโอกาสเรียนที่โรงเรียนทวีธาภิเษก กรุงเทพมหานคร “ยืนยันว่าไม่เคยเข้าร่วมกับกลุ่มพันธมิตร เพราะไม่เห็นด้วยกับอุดมการณ์และความคิด หากจะมีความคิดไหนที่ใกล้เคียงที่สุดคือ กลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตย ที่เขานิยามตนเองว่าเสื้อแดง” แต่ตนเองไม่เคยนิยามว่าเป็นคนเสื้อแดง เพราะตะขิดตะขวง ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่พ่อของท่านทำหลายเรื่อง ”ผมคือตัวผม” ทั้งนี้หลังการรัฐประหารครั้งที่ 2 ยึดอำนาจจากคุณอาของท่าน ผมเป็นคนแรกๆ ที่มาต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ย้ำว่าไม่เคยเข้าร่วม ไม่เคยไปยึดสนามบินอะไรทั้งสิ้น เข้าใจว่ามีคนจำนวนมากพยายามใส่ความ แต่ขอยืนยันเนื่องจากนายกฯ เก็บประเด็นนี้ขึ้นมาว่า ตนไม่เคยเข้าร่วมกลุ่มพันธมิตรอย่างแน่นอน และหากพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล อดีตนายกฯ จะไม่ได้รับสิทธิพิเศษใดๆ

ทำให้ นส.แพทองธาร กล่าวขอบคุณพร้อมระบุว่า “ดิฉันพร้อมรับข้อมูลใหม่ๆ เสมอ ท่านจะได้เข้าใจว่าท่านถูกเข้าใจผิดเป็นอย่างไร ขอบคุณค่ะ”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"กองทัพภาคที่ 2" แจงกรณี "ช่องอานม้า" ยันทหารไทยขับไล่ฝ่ายตรงข้ามรุกล้ำพ้นหมดแล้ว "ทหารกัมพูชา" ลาดตระเวนเฉพาะเขตตัวเอง
'รมว.ปุ๋ง'รุดให้กำลังใจ ผู้อพยพจากชายแดนไทย–กัมพูชา
“เสธ.เบิร์ด” ซัดผู้นำกัมพูชา เห็นแก่ตัว ผลักดันความรับผิดชอบทหารแนวหน้าเสียชีวิต จี้ประชาคมโลกกดดัน ควรเคารพสิทธิมนุษยชน
สุดคึกคัก สงขลาเปิดงาน "Hello Hatyai HardSale 2025" กระตุ้นท่องเที่ยวโลว์ซีซั่น นักท่องเที่ยวหลั่งไหลชม-ชิม-ช้อป ร้านค้าดัง อุดหนุนผลิตภัณฑ์ชุมชน ของดีหาดใหญ่
“ภูมิธรรม” โพสต์ย้ำ ที่ดินเขากระโดงเป็นของรัฐตามกฎหมาย กรมที่ดินสามารถเพิกถอนโฉนดได้ทันที
"พร้อมพงศ์" ฉะม็อบจัดชุมนุม มุ่งโจมตีสร้างเกลียดชังรัฐบาล ลั่นเวลานี้ต้องสามัคคี เชื่อประชาคมโลกเข้าใจ เหตุชายแดน ฝ่ายไหนเริ่มก่อน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​