“ครม.” ไฟเขียว แก้กม.กระทำผิดต่อเด็กในออนไลน์ ให้ครอบคลุม เพิ่มโทษแรงขึ้น

“ศศิกานต์” เผย ครม.อนุมัติหลักการ แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา การกระทำความผิดต่อเด็กผ่านสื่อออนไลน์ ให้ครอบคลุม-โทษรุนแรงขึ้น

“ครม.” ไฟเขียว แก้กม.กระทำผิดต่อเด็กในออนไลน์ ให้ครอบคลุม เพิ่มโทษแรงขึ้น

 

ข่าวที่น่าสนใจ

18 มี.ค.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่าคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติ (พรบ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาการกระทำความผิดต่อเด็กผ่านสื่อออนไลน์ โดยสาระสำคัญ เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมความผิดเกี่ยวกับเพศ และความผิดต่อเสรีภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา เพื่อกำหนดการกระทำความผิดต่อเด็กผ่านสื่อออนไลน์

สืบเนื่องจากว่ากฎหมายที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน ยังไม่ครอบคลุมกับสภาพปัญหา ที่เกิดขึ้นจากบริบททางสังคมได้เปลี่ยนไป ปัจจุบันอย่างที่ทราบกันว่ามีการนำเทคโนโลยี มาเข้ามาใช้ในการสื่อสารต่างๆ เป็นจำนวนมาก ในขณะเดียวกันก็เป็นดาบสองคม เพราะว่าก็มีการเทคโนโลยีมาใช้ การกระทำความผิดด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะการกระทำผิดต่อเด็ก และกลุ่มเยาวชนซึ่งเป็นกลุ่มที่ประสบการณ์น้อย สามารถถูกล่อลวงและตกเป็นเหยื่อ ต่อผู้กระทำความผิดได้โดยง่าย

นอกจากนี้การกระทำความผิด โดยอาศัยเทคโนโลยี หรือว่าบนโลกออนไลน์ สามารถทำได้แบบไร้พรมแดน ทำให้ผู้ปกครอง ชี้แนะกับเด็กเยาวชนได้ยากขึ้น ซึ่งร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมความผิดเกี่ยวกับเพศ และความผิดต่อเสรีภาพ โดยเพิ่มเติมฐานความผิดในประมวลอาญาไว้ 5 ประเภท ดังนี้

1.เป็นการล่อลวงเด็กเพื่อวัตถุประสงค์ทางเพศ ต้องระวังจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับ 60,000 บาท หรือทั้งจำปรับ ซึ่งหากเป็นการกระทำผ่านอุปกรณ์โทรคมนาคม หรือระบบคอมพิวเตอร์ ก็จะเพิ่มโทษแก่ผู้กระทำผิดขึ้นอีกหนึ่งใน 3 ของที่กฎหมายกำหนด

2.การพูดคุยเรื่องที่ไม่เหมาะสมแก่เด็กและเยาวชน เพื่อการอนาจารหรือเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศ ไม่ว่าจะด้วยการแสดงออกทางวาจา ลายลักษณ์อักษร ภาพ เสียง หรือด้วยการวิธีการอื่นใด ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 40,000 บาท แต่ว่าหากกระทำแก่อายุไม่ถึง 15 ก็ต้องระวังโทษหนักขึ้น จำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 60,000 บาท แต่หากเป็นการกระทำผ่านอุปกรณ์โทรคมนาคม หรือระบบคอมพิวเตอร์ ก็จะเพิ่มโทษแก่ผู้กระทำผิดขึ้นอีกหนึ่ง ในสามของที่กฎหมายกำหนด

3.การแบล็กเมล์ทางเพศ เช่น การขู่ว่าจะเผยแพร่หรือส่งต่อข้อความ ภาพ หรือเสียงที่บันทึกเพื่อการอนาจาร หรือแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศ เช่นการแอบถ่าย ต้องระวังโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปีและปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท

4.การติดตามคุกคามไม่ว่าด้วยทางตรงหรือทางอ้อม โดยทำให้ผู้ถูกติดตามหวาดกลัวหรือเดือดร้อน ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่หากเป็นการกระทำผ่านอุปกรณ์โทรคมนาคม หรือระบบคอมพิวเตอร์ ก็จะเพิ่มโทษแก่ผู้กระทำผิดขึ้นเป็นจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาทหรือว่าทั้งจำทั้งปรับ

5.การกลั่นแกล้งออนไลน์หรือว่าไซเบอร์บูลลี่ เช่นการแกล้งการรังแกข่มเหง หรือกระทำการใดๆ ผ่านอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ที่ทำให้ได้รับความอับอาย หรือผลกระทบทางกายกระทบทางจิตใจ และเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เสรีภาพ ชื่อเสียง ทรัพย์สิน หรือสิทธิอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำปรับ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ด่วน! ตำรวจระดมกำลังปิดล้อมป่าหลังศาลพัทยา ไล่ล่าผู้ต้องหา ลัก จยย. กระโดดหนีระหว่างนำตัวฝากขัง
"มูลนิธิยังมีเรา" ร่วม "ท็อปนิวส์" ผนึกเยาวชนคิดดี เดินหน้าโรงครัวดูแลผู้อพยพอุบลฯ "เจ๊น้อยร้อยล้าน" ชวนไรเดอร์จิตอาสา นำส่งอาหารถึงผู้เดือดร้อนทันที
นครแหลมฉบัง ห่วงใยนักเรียน รณรงค์แจกหมวกกันน็อคเพื่อความปลอดภัย
ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองการประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายสิริราชพัสตราภรณ์”
โฆษกทบ. รับไทยเชิญเอกอัครราชทูต-ทูตทหาร ดูชุมชน-รร.-รพ. ถูกกัมพูชาโจมตีอาวุธหนัก 1 ส.ค.นี้ มั่นใจเกิดผลประจักษ์มากกว่า เห็นหลักฐานชัดใครละเมิด โจมตีพลเรือน
ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมช่องทางการตลาด ผลิตภัณฑ์ OTOP จังหวัดฉะเชิงเทรา การขับเคลื่อน "โครงการ OTOP 100 ร้าน สู่ชุมชน คน 8 ริ้ว"

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​