“อดีตทูตรัศม์” ย้ำไทยส่งอุยกูร์กลับจีน คำนึงสิทธิมนุษยธรรม พ้อโดนหาเหตุประณามง่ายเกินไป

“รัศม์” ผช.รมว.กต.ย้ำไทยส่งกลับอุยกูร์คำนึงสิทธิมนุษยธรรม พ้อหลายประเทศชี้นิ้วประณามไทยง่ายๆ แค่ต้องการหาแพะ

“อดีตทูตรัศม์” ย้ำไทยส่งอุยกูร์กลับจีน คำนึงสิทธิมนุษยธรรม พ้อโดนหาเหตุประณามง่ายเกินไป – Top News รายงาน

อดีตทูตรัศม์

 

เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2568 นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า “ราคาของมนุษยธรรม ความถูกต้อง และการเป็นแพะสังเวยมโนธรรม (conscience scapegoat)”

การชี้นิ้วประณามคนอื่นมันมักเป็นวิธีที่ง่ายกว่าเสมอ และบางทีก็ทำเพียงเพื่อได้แสดงว่า ฉันเป็นคนดีนะ แล้วไปหาคนอื่นมาเป็นแพะ เพื่อสังเวยกลบเกลื่อนต่อมมโนธรรมของตนเอง ทุกวันนี้หลายประเทศที่เคยชูเรื่องสิทธิมนุษยชน ต้องเผชิญปัญหาเรื่องผู้อพยพ หลายประเทศเริ่มเนรเทศคนเหล่านี้ กลับไปยังประเทศต้นทาง ที่บ้างยังมีการสู้รบและมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ประเทศเหล่านี้ทำได้ ไม่เป็นไร ไม่มีใครประนาม

แต่เรื่องนี้มันบ่งบอกความจริงประการหนึ่งว่า การอพยพไปตั้งรกรากในประเทศที่สาม มันไม่ใช่เรื่องสวยงามง่ายดายขนาดนั้น อย่างที่หลายคนชอบนึก มันมีปัญหาเรื่องการปรับตัวให้เข้ากับสภาพสังคมที่แตกต่าง ที่ก็ไม่ได้อยากต้อนรับจริง มีการดูถูกเหยียดหยามเชื้อชาติ ฯลฯ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

มีประเทศหนึ่งบอกว่าขออย่าให้ไทย ส่งตัวชาวจีนอุยกูร์กลับไปให้จีน แต่ก็ไม่ได้บอกว่าจะรับคนเหล่านั้นไปอยู่ด้วยเอง โดยเสนอว่าจะให้เอาไปอยู่ในประเทศหนึ่งในแอฟริกา (ซึ่งจากข้อมูลที่ปรากฏ ประเทศที่ว่ายังมีความขัดแย้ง การสู้รบและก่อการร้ายอยู่) ถามว่านี่คือมนุษยธรรมแค่ไหน? หรือเป็นเพียงแค่การเล่นเกมส์ในความขัดแย้งของภูมิรัฐศาสตร์ (geo-politics) ของบางประเทศแค่นั้น

เกณฑ์สำคัญในการพิจารณา การส่งคนกลับไปยังประเทศต้นทาง ว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและกฏหมายระหว่างประเทศหรือไม่นั้น มีหลักๆ สองประการ คือต้องไม่บีบบังคับ และต้องไม่ส่งไปแล้วเขาจะมีภัยอันตรายต่อชีวิต ในกรณีของชาวจีนอุยกูร์ 40 คนนั้น จึงต้องมาดูว่าเข้าข่ายนี้ไหม ประการแรกเรื่องการบีบบังคับให้กลับ จากข้อมูลที่ได้จากเจ้าหน้าที่รับผิดชอบดูแลคนเหล่านี้ ระหว่างถูกคุมขัง พวกเขามีการติดต่อกับญาติพี่น้องและรับทราบถึงพัฒนาการความเจริญก้าวหน้า กินอยู่ดีของผู้คนในซินเจียงแผ่นดินเกิดของเขา และเมื่อทราบว่าทางการจีนมีหนังสือ รับรองสวัสดิภาพของพวกเขาเป็นทางการ พวกเขาก็เลือกที่จะกลับซึ่งการเลือกกลับไปอยู่กับสังคมญาติพี่น้อง ถิ่นฐานของตนเองที่พัฒนาแล้ว อาจดีกว่ารอในห้องขังต่อไปโดยไม่รู้จุดหมาย และต้องไปอยู่ในสังคมที่ไม่ได้ยินดีต้อนรับจริง

ประการที่สอง พวกเขาจะมีภัยอันตรายต่อชีวิตไหม เมื่อกลับไปแล้วนั้น ก็เป็นเรื่องที่จะต้องพิสูจน์ โดยมีหลักฐานเชิงวิทยาศาสตร์ต่อไป (ที่ไม่ใช่การคิดเอาเองตามความเชื่อ หรือสมมุติฐานส่วนตน) ซึ่งต้องมีการติดตามและตรวจสอบให้เป็นที่เชื่อถือได้ แต่อย่างน้อยที่สุดประเทศต้นทาง ได้ให้คำรับรองเป็นทางการที่เขาย่อมมีพันธะที่ต้องปฏิบัติตาม ซึ่งจากทั้งสองข้อนี้ เมื่อเทียบกับสิ่งที่หลายประเทศ ทำในการเนรเทศคนกลับประเทศต้นทาง ที่บางแห่งมีการใส่กุญแจมือ ใส่ตรวนที่เท้า รวมทั้งส่งไปโดยไม่มีการรับรองความปลอดภัยในสวัสดิภาพใดๆ โดยคนเหล่านั้นอาจต้องเผชิญกับภัยอันตรายถึงชีวิต คำถามคือใครกันแน่ที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน?

 

แต่แน่นอนว่าการชี้นิ้วประณามไทย มันย่อมง่ายกว่า และอาจทำให้เขาไม่ต้องรู้สึกผิด กับมโนธรรมตนเองมากนัก และในขณะที่หลายประเทศ บอกไม่เชื่อในคำมั่นของจีน แต่ก็ยังคงมีปฏิสัมพันธ์ คบค้า ทำธุรกิจกับเขา สิ่งนี้บอกถึงอะไร? ชาวจีนอุยกูร์เหล่านั้นถูกขังมานาน กว่าสิบปีโดยไม่มีความผิด (โทษหลบหนีเข้าเมืองนั้นหมดอายุไปนานแล้ว) การกักขังคนโดยไม่มีความผิด แม้เพียงวันเดียวถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนรุนแรงไหม? แต่ก็น่าแปลกใจที่คนไม่น้อย รวมทั้งนักสิทธิมนุษยชนบางท่านกลับเห็นด้วยว่า ควรกักขังเขาต่อไปเรื่อยๆ ในขณะที่ไม่สามารถมีทางออกที่ดีกว่า และเป็นไปได้จริงมาเสนอ ซึ่งผลที่จะตามมาคือพวกเขาจะต้องตายคาคุก ซึ่งพวกเขาได้เสียชีวิตระหว่างถูกกักขังไปแล้วสองคน

การที่ไทยตัดสินใจส่งตัวชาวจีนอุยกูร์ 40 คนกลับจีน จึงเป็นการตัดสินใจบนพื้นฐานของมนุษยธรรม และความถูกต้อง บนทางเลือกที่มีไม่มาก ที่แน่นอนว่าไม่ว่าเลือกทางไหน ก็ต้องมีผลกระทบมหาศาลตามมา ที่เป็นราคาที่เราต้องจ่ายเพื่อสิ่งนั้น นอกจากเสียจากจะเลือกวิธีขังเขาต่อจนตายคาคุกไป อย่างที่หลายคนเลือกและเป็นที่น่าเสียใจว่า เพื่อนของเราบางประเทศไม่เข้าใจ และเลือกที่จะประณามเราง่ายๆ เลือกการหาแพะมาสังเวย มโนธรรมของตัวเองแทน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

คนไทยแห่ต่อคิวข้าม "ด่านคลองลึก" ไปทำงานฝั่ง "ปอยเปต" แถวยาวถึงตลาดโรงเกลือ ด้านเขมร ข้ามฝั่งมาบางตา
สมช. เตรียมถกด่วน ประเมินสถานการณ์ รับมือรัฐบาลกัมพูชาหยุดซื้อไฟ-เน็ตไทย
"ชาวบ้านมะมัง" สุดทน ลุกฮือต้าน "พระนักเทศน์ชื่อดัง" กลับวัด หลังไลฟ์สดยุ "ทหารกัมพูชา" ยิงคนสุรินทร์ ให้ตุยทั้งหมด
กต.สรุปผลประชุม JBC ไทย-กัมพูชา ลุล่วงด้วยดี ยกก้าวสำคัญจัดทำเขตแดน ช่วยลดตึงเครียด เตรียมถกอีกรอบกันยายนนี้
"กัมพูชา" ยอมเปิดด่านให้ผลไม้เข้า ตั้งเงื่อนไขตอบโต้ไทย สั่งห้ามนำเข้าผลไม้จาก "จันทบุรี"
“อนุทิน” มั่นใจ "นายกฯอิ๊งค์" ไม่ชิงยุบสภา แจงยังคุยกันปกติ ย้ำยึดประโยชน์ปชช.เป็นแนวทำงาน
สหรัฐจัดพิธีสวนสนามกองทัพยิ่งใหญ่ท่ามกลางเหตุประท้วง
โฆษกทบ. ยืนยันไม่พบทหารกัมพูชาติดอาวุธ ปิดถนนขึ้นสามเหลี่ยมมรกต ขอประชาชนฟังข้อมูลหน่วยงานราชการ
โซเชียลสุดทน "ใบตองแห้ง" โชว์เก๋า หยันทหารไม่มีอำนาจกำหนดเส้นแดน มีหน้าที่แค่ตายตามคำสั่ง
“ปืนใหญ่เขมร” ไร้น้ำยา! ไทยได้เปรียบ “สัตตะโสม” สูงกว่า บึ้มเดียวเละทั้งฐาน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น