“เกรียงศักดิ์” ชี้ ปราบ “จีนเทา-ไทยเทา” ไม่ยาก ถ้ารัฐเอาจริง นโยบายชัดเจน ไร้ผลประโยชน์ทับซ้อน

"เกรียงศักดิ์" ชี้ ปราบ "จีนเทา-ไทยเทา" ไม่ยาก ถ้ารัฐเอาจริง นโยบายชัดเจน ไร้ผลประโยชน์ทับซ้อน

ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ หรือ “ดร.แดน” ประธานสถาบันการสร้างชาติ และนักวิชาการอาวุโสจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหา “จีนเทา-ไทยเทา” ในฐานะกรณีศึกษาการบริหารจัดการเศรษฐกิจนอกระบบในประเทศไทย โดยระบุว่า ธุรกิจสีเทาที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มทุนจีนมีรากฐานมานาน ตั้งแต่ยุคของเติ้ง เสี่ยวผิง ที่เปิดจีนให้เป็นโรงงานของโลก ผลิตสินค้าและส่งออกไปทั่วทุกมุมโลก ซึ่งแนวคิด “แมวสีอะไรก็ได้ ขอให้จับหนูได้” นำไปสู่การเติบโตของทั้งธุรกิจสีขาว สีดำ และสีเทา พร้อมกัน ซึ่งธุรกิจสีเทาของทุนจีนมีหลากหลาย ตั้งแต่การพนันออนไลน์, คาสิโนเถื่อน, แก๊งคอลเซ็นเตอร์, การค้ามนุษย์, การฟอกเงิน และยาเสพติด ซึ่งแม้แต่รัฐบาลจีนเองก็ไม่ยอมรับ เนื่องจากทำให้ประเทศเสื่อมเสียชื่อเสียงบนเวทีโลก อย่างไรก็ตาม กลุ่มทุนเหล่านี้ยังพยายามขยายฐานอิทธิพลเข้ามาในอาเซียน รวมถึงไทย ซึ่งกลายเป็นพื้นที่เป้าหมายสำคัญ

ซึ่งกรณี “หวังชิง” นักแสดงจีนที่ถูกลักพาตัวเข้าไปใน “ชเวก๊กโก” เขตเศรษฐกิจพิเศษของเมียนมา ซึ่งเป็นฐานปฏิบัติการของกลุ่มจีนเทาในภูมิภาค ได้สะท้อนให้เห็นปัญหาที่ไทยต้องเผชิญ ไทยกลายเป็นจุดผ่านแดนสำคัญของขบวนการนี้ โดยเฉพาะหลังการใช้นโยบาย “วีซ่าฟรี” ที่แม้ช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว แต่กลับทำให้การควบคุมและตรวจสอบกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติเป็นไปได้ยากขึ้นเหตุการณ์ลักพาตัวนักแสดงจีนส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคการท่องเที่ยวของไทย มีการยกเลิกคอนเสิร์ตและการจองโรงแรมกว่าหมื่นห้อง ซึ่งกระแสดังกล่าวกลายเป็นแรงกดดันที่ทำให้รัฐบาลไทยต้องออกมาแสดงท่าทีจริงจัง ขณะที่จีนก็ไม่ปล่อยให้ไทยจัดการเพียงลำพัง โดยมี “หลิว จงอี้” ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะของจีน ลงมาควบคุมสถานการณ์และนำคนจีนกลับประเทศด้วยตนเอง ตามคำสั่งของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ ตั้งข้อสังเกตว่า ไทยยังขาดความเด็ดขาดในการแก้ปัญหานี้ ฝ่ายบริหารและฝ่ายการเมืองของไทยมักอ่อนแอ นโยบายไม่ชัด ไม่มีความต่อเนื่อง และขาดมาตรการเชิงรุก เมื่อสั่งการไปยังข้าราชการก็พบปัญหาการทุจริต ผลประโยชน์ทับซ้อน และการใช้อำนาจรัฐในทางที่ผิด มีการรับส่วยและประนีประนอมเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน มากกว่าคำนึงถึงประเทศชาติ ในกรณีของชเวก๊กโก ไทยสั่งตัดไฟฟ้าเพื่อตัดเส้นทางสนับสนุนธุรกิจผิดกฎหมาย แต่ฝ่ายการเมืองกลับมีความขัดแย้งกันเอง แสดงให้เห็นว่าไทยยังขาดเอกภาพในการบริหารจัดการ

นอกจากนี้ ดร.เกรียงศักดิ์ยังชี้ให้เห็นความแตกต่างระหว่างมาตรการของไทยและจีน โดยรัฐบาลจีนดำเนินการอย่างเข้มงวด เด็ดขาด วางแผนเป็นระบบ และดำเนินงานต่อเนื่อง จึงสามารถจัดการกับปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ไทยยังติดอยู่กับระบบอุปถัมภ์เชิงลบ กลุ่มทุนสีเทาของไทยมีความเชื่อมโยงกับข้าราชการ นักการเมือง และเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วน ก่อให้เกิดโครงสร้างผลประโยชน์ที่ฝังรากลึก หากไม่มีแรงกดดันจากจีนและสื่อมวลชน ไทยอาจไม่ได้ขยับแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง สื่อจึงมีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และต้องทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงของประชาชน มากกว่ารับใช้กลุ่มทุนหรืออำนาจทางการเมือง

“สื่อมวลชนต้องไม่ตกอยู่ภายใต้การครอบงำของฝ่ายการเมือง หรือกลุ่มทุน ต้องกล้าตรวจสอบและทำงานเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ”

ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ กล่าว พร้อมเน้นย้ำว่าภาคประชาชนก็ต้องมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางของชาติ ไม่ใช่แค่รอให้ภาครัฐจัดการ แต่ต้องเป็นพลังขับเคลื่อนที่แท้จริง

“อยากได้นักการเมืองดี ประชาชนก็ต้องเป็นคนดีด้วย ต้องมีส่วนร่วม คิด รับผิดชอบ และเสียสละเพื่อส่วนรวม จึงจะเกิดภาคประชาชนที่เข้มแข็ง สามารถร่วมแก้ปัญหาทุนสีเทาได้”

 

 

ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ กล่าวถึงแนวทางการแก้ปัญหาเศรษฐกิจนอกระบบและกลุ่มทุนสีเทา ว่าจำเป็นต้องสร้างวัฒนธรรมที่ให้ความสำคัญกับอุดมการณ์มากกว่าผลประโยชน์ ต้องมีการคัดเลือกเจ้าหน้าที่รัฐที่ซื่อสัตย์สุจริต และมีความกล้าหาญในการบังคับใช้กฎหมาย

“ต้องสกัดการซื้อขายตำแหน่ง ให้คนดีได้เข้าสู่ตำแหน่งสำคัญ เลือกคนที่มีผลงานจริง ไม่ใช่คนที่มีเส้นสาย”

ทั้งนี้ หากต้องการปราบ “จีนเทา-ไทยเทา” หรือกลุ่มทุนสีเทาทุกประเภท การดำเนินนโยบายของรัฐบาลต้องชัดเจน มีความต่อเนื่อง และปลอดจากผลประโยชน์ทับซ้อน การปฏิรูปภาครัฐให้มีความโปร่งใส และการสร้างจิตสำนึกในหมู่ประชาชนให้ตระหนักถึงผลกระทบของเศรษฐกิจสีเทา เป็นปัจจัยสำคัญในการแก้ปัญหานี้อย่างแท้จริง

“ปัญหานี้แก้ได้ ถ้ารัฐจริงจัง ภาคประชาชนลุกขึ้นมา และสื่อมวลชนทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่” ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ ย้ำ

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สระแก้ว เขมรรวมตัวบริเวณป่ายูคาฯ รื้อรั้วลวดหนามหีบเพลง ตะโกนท้าทายทหารเสียงดัง
เบื้องลึก "เลขาฯ ป.ป.ช." ไขก๊อก - เปิด 11 คดีเผือกร้อนในมือ
จังหวัดอุตรดิตถ์ เตรียมจัดงาน “เทศกาลลางสาด ลองกองหวาน และสินค้า OTOP อุตรดิตถ์ ประจำปี 2568”
ชงกาแฟไทยให้โลกรู้จัก: ขยายตลาด สร้างแบรนด์ชุมชน
"รทสช." แตกยับ เบื้องหลังมือมืดปล่อยข่าว "เอกณัฏ" ลาออกกก.บห. จับตา "ลูกหมี ชุมพล" ย้ายไปภท.
บูรณะโบสถ์มหาอุตม์ 300 ปี วัดแจ้งใน เชื่อพลังศรัทธา ‘หลวงพ่อแจ้ง’ คุ้มครองสิ่งร้าย สืบสานพระพุทธศาสนาแดนโคราช

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​