BBC รายงานว่าเมื่อวานนี้ (เสาร์ที่ 1 มีค.) ผู้นำชาติพันธมิตรยุโรปจำนวนมาก รวมทั้งเยอรมนี, ฝรั่งเศส, สเปน, โปแลนด์และเนเธอร์แลนด์ ต่างออกมาโพสต์ให้กำลังใจและประกาศสนับสนุนประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี้ของยูเครนผ่านโซเชียลมีเดีย หลังจากเซเลนสกี้เปิดศึกปะทะคารมกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และรองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ ของสหรัฐภายในห้องรูปไข่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (28 กพ.) ระหว่างหารือกันเรื่องข้อยุติสงครามกับรัสเซีย จนเซเลนสกี้ถูกสองผู้นำสหรัฐรุมเอ็ดแบบไม่ไว้หน้า โดยทรัมป์กล่าวหาเซเลนสกี้ว่าไม่สำนึกบุญคุณและไม่ขอบคุณสหรัฐที่ให้การสนับสนุนด้านอาวุธ ทั้งยังจุดความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดสงครามโลกครั้งที่สาม จนเซเลนสกี้ถูกเชิญออกจากห้องรูปไข่และไม่มีการทำข้อตกลงเรื่องแร่ธาตุหายากตามที่ตั้งใจไว้
ทั้งนี้ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสชี้ว่ารัสเซียเป็นผู้รุกราน ส่วนยูเครนเป็นเหยื่อการรุกราน และยุโรปจะเดินหน้าสนับสนุนยูเครนและคว่ำบาตรต่อไป ด้านนายกรัฐมนตรีดิ๊ก สโคฟ ของเนเธอร์แลนด์โพสต์ว่าเนเธอร์แลนด์จะยิ่งเพิ่มการสนับสนุนยูเครนให้มากกว่าเดิม และยืนยันว่ายุโรปต้องการสันติภาพและยุติสงคราม ขณะที่นายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์และฟรีดิช เมิร์ซ ว่าที่ผู้นำเยอรมันประกาศจะอยู่เคียงข้างยูเครน และจะผลักดันมาตรการต่างๆเพื่อช่วยยูเครนแม้สหรัฐจะถอนตัวจากการสนับสนุน ลั่นยูเครนต้องได้สันติภาพ ไม่ใช่การยอมจำนน
นอกจากนี้ยังมีผู้นำแคนาดา, ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ที่ประกาศจะอยู่เคียงข้างยูเครนและประชาชนชาวยูเครนที่พยายามปกป้องอธิปไตย์จากการรุกรานของรัสเซีย ซึ่งเซเลนสกี้ก็ได้ออกมากล่าวขอบคุณบรรดาผู้นำแบบรายตัว ก่อนที่จะมุ่งหน้าต่อไปยังกรุงลอนดอนเพื่อร่วมประชุมสุดยอดผู้นำยุโรปในวันนี้เพื่อถกเรื่องนี้ต่อ
อย่างไรก็ตามมีเพียงนายกรัฐมนตรีวิกเตอร์ ออร์บาน ของฮังการีที่ออกมาโพสต์สนับสนุนทรัมป์ โดยกล่าวว่า “คนเข้มแข็งสร้างสันติภาพ คนอ่อนแอสร้างสงคราม วันนี้ประธานาธิบดีทรัมป์ออกมายืนหยัดอย่างกล้าหาญเพื่อสันติภาพ แม้ว่าเป็นเรื่องยากที่หลายคนจะเข้าใจ ขอบคุณท่านประธานาธิบดี”
ขณะที่มาร์ก รุต เลขาธิการนาโต ซึ่งได้ต่อสายคุยกับเซเลนสกี้ถึง 2 ครั้งหลังเหตุการณ์ในห้องรูปไข่ ซึ่งรุตได้เตือนสติเซเลนสกี้ว่าเซเลนสกี้ต้องขอบคุณและเคารพในสิ่งที่ทรัมป์ทำให้ยูเครน และแนะเซเลนสกี้ให้หาวิธีฟื้นฟูความสัมพันธ์กับทรัมป์
ด้านนายกรัฐมนตรีจอร์จีย เมโลนี่ของอิตาลีได้เรียกประชุมสุดยอดระหว่างสหรัฐ, ยุโรปและพันธมิตรยูเครนแบบเร่งด่วนเช่นกัน ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ของอังกฤษเชื่อว่าข้อตกลงหยุดยิงจำเป็นต้องมีกองทัพสหรัฐเข้ามามีส่วนร่วม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเฝ้าระวัง, การช่วยด้านข่าวกรองหรือส่งเครื่องบินมาช่วยป้องกันน่านฟ้ายูเครน
