“นายกฯ” ลงพื้นที่สระแก้ว ติดตามปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำอาชญากรรมข้ามชาติต้องหมดไป

นายกฯ ลงพื้นที่สระแก้ว ติดตามการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขอทุกภาคส่วนบูรณาการข้อมูล แต่งตั้ง คกก.ป้องกันและปราบปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยี รายงานการทำงานให้ ครม.ทราบตลอดเวลา ย้ำอาชญากรรมข้ามชาติต้องหมดไป

“นายกฯ” ลงพื้นที่สระแก้ว ติดตามปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำอาชญากรรมข้ามชาติต้องหมดไป – Top News รายงาน

นายกฯ

เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊ก Ing Shinawatra ระบุว่า ลงพื้นที่สระแก้ว ติดตามการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์วันนี้ ไม่ใช่แค่เฉพาะประเทศไทย แต่เป็นภัยคุกคามของทุกประเทศทั่วโลก การทำงานเพื่อปราบปรามจึงต้องบูรณาการหลายภาคส่วน ซึ่งที่ผ่านมา เรากำลังมาถูกทาง เห็นได้จากตัวเลขสถิติการปิดบัญชีม้าไปแล้วกว่า 1.92 ล้านบัญชี (1.44 แสนรายชื่อ) มูลค่าความเสียหายลดลงจาก 100 ล้านบาทต่อวัน เหลือประมาณ 50 ล้านบาทต่อวัน เป็นตัวเลขที่พิสูจน์ว่าเรามาถูกทาง แต่ยังไม่ใช่ตัวเลขที่เราพึงพอใจ

 

ดิฉันจะติดตามเรื่องนี้อย่างหนัก เพื่อให้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์หมดไปจากประเทศไทย จึงขอให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันทำงาน เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน หน่วยงานรับเรื่องร้องทุกข์ ศูนย์ต่อต้านอาชญากรรมออนไลน์ หรือ AOC 1441 ขึ้น ซึ่งเป็นศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์และแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพื่อบูรณาการข้อมูลและแต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีขึ้น เพื่อติดตาม และรายงานการทำงานให้คณะรัฐมนตรีรับทราบการปฏิบัติของทุกส่วนอยู่ตลอดเวลา

 

ข่าวที่น่าสนใจ

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และสำนักงาน กสทช. ขอให้ติดตามเรื่องสัญญาณอินเทอร์เน็ต สัญญาณสื่อสาร รวมทั้งซิมโทรศัพท์อย่าให้ถูกมิจฉาชีพนำไปใช้หลอกลวงประชาชน และตรวจสอบสัญญาณที่จัดไปแล้ว อย่าให้มีการติดตั้งขึ้นมาใหม่อย่างเด็ดขาด หน่วยงานความมั่นคง ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ให้กวดขันเรื่องการเข้าออกบริเวณแนวชายแดน เฝ้าระวังการลักลอบนำคนหรืออุปกรณ์ใดๆ เข้าออกตามแนวชายแดน โดยเฉพาะตามช่องทางธรรมชาติ และต้องมีการทำงานด้านการข่าวกับคนในพื้นที่และประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง

ทหาร ตำรวจ ศุลกากร ฝ่ายปกครอง ดูแลคุมเข้มเรื่องการจับกุม การเดินทางเข้ามาของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการการปราบปรามของรัฐบาล และให้ตรวจสอบคัดกรองด้วยความรอบคอบว่าผู้ใดเป็นผู้กระทำความผิด ผู้ใดเป็นเหยื่อ และต้องมีบันทึกการจับกุมอย่างชัดเจน

กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่รับผิดชอบประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้าน กรณีที่มีการส่งกลับทั้งคนไทยและคนต่างชาติ โดยเฉพาะผู้ที่ถูกส่งกลับแล้วจะต้องส่งตัวต่อไปยังประเทศที่สาม ขอให้มีความชัดเจนในการส่งตัวกลับไปยังประเทศปลายทางในทันที พร้อมทำบันทึกเป็นหลักฐาน เพื่อป้องกันการกลับเข้ามากระทำผิดซ้ำในประเทศไทยด้วย

 

ขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง กองกำลังป้องกันชายแดน และหน่วยงานด้านความมั่นคง เพิ่มมาตรการคัดกรองและตรวจสอบบุคคลที่เดินทางเข้าออกประเทศอย่างเข้มงวดการควบคุมเส้นทางการลักลอบเคลื่อนย้ายแรงงานข้ามชาติที่ผิดกฎหมาย เพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของขบวนการอาชญากรรม เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบด่านชายแดนที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา เมียนมา ลาว และมาเลเซีย

โอกาสนี้ดิฉันขอขอบคุณการปฏิบัติหน้าที่ที่จริงจังและเข็มแข็งของทุกภาคส่วน ในการร่วมกันแก้ไขปัญหาที่ยิ่งใหญ่นี้เพื่อพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคน และดิฉันขอเป็นกำลังใจให้กับทุกท่าน เชื่อว่าเรื่องอาชญากรรมข้ามชาติที่ทำให้พี่น้องประชาชนไทยเป็นทุกข์ ต้องหมดไป

  

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

TPIPL และ TPIPP ร่วมประกาศเจตนารมณ์เครือข่ายอนุรักษ์พลังงาน “Energy Beyond Standards 2025” กับ กระทรวงพลังงาน
ซีพีเอฟ หนุนนโยบายผู้ว่าฯเชียงใหม่ เดินหน้าป้องกันไฟป่า ลด PM2.5 ต่อเนื่อง
เครือซีพีเดินหน้าสร้างแนวกันไฟใน จ.น่าน กว่า 4,500 ไร่ ผนึกกำลังภาครัฐ–ชุมชน ป้องกันไฟป่าและหมอกควัน พร้อมมอบน้ำดื่มช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในพื้นที่
"ดีเอสไอ" ประสานตำรวจเข้ารับเอกสาร คดี "ตึกสตง.ถล่ม"
พลังใหม่สุดเจ๋ง แยม น้องเมีย รมต.เฮ้ง กวาดเรียบยกทีม เทศบาลเสม็ดชลบุรี
MEA เปิดตัว “MEA ENERGY AWARDS 2025” สร้างมาตรฐานอาคารประหยัดพลังงาน
ตร.ยื่นศาลออกหมายจับ "วิศวกร - ผู้ควบคุมงาน" 17 รายเอี่ยว คดีตึก สตง.ถล่ม
"เอกนัฏ" แจงไม่รู้ข่าวลือ "สุชาติ" พร้อมย้ายพรรค ไม่กังวล "พีระพันธุ์" โดนร้องหนัก
ยุโรปผนึกกำลังกดดันรัสเซียหยุดยิง ทรัมป์ทำพัง
ไต้หวันทดสอบยิงจรวด HIMARS ครั้งแรก

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น