ขุดกำพืด! “นายพลเขมร” จ้องฮุบ “ตาเมือนธม” กกล.สุรนารี บุกประจันหน้า

เปิดประวัติ “ปราสาทตาเมือนธม” กรมศิลปากรยืนยันขึ้นบัญชีเป็นโบราณสถานของไทยตั้งแต่ปี 2478 ทีมข่าวพาย้อนวีรกรรมแสบ! “นายพลเขมร” พร้อมกำลังทหารครึ่งร้อย บุกปราสาท แต่ถูกกองกำลังสุรนารี ประจันหน้าไล่พ้นประเทศ

ขุดกำพืด! “นายพลเขมร” จ้องฮุบ “ตาเมือนธม” กกล.สุรนารี บุกประจันหน้า – Top News รายงาน

นายพลเขมร

กลายเป็นดราม่าร้อนข้ามประเทศขึ้นมาเลยทีเดียว กรณีทหารกัมพูชาจำนวนหนึ่ง ขึ้นมาร้องเพลงชาติ บริเวณปราสาทตาเมือนธม ซึ่งอยู่ในดินแดนของประเทศไทย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งทหารไทยเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวจึงไม่ยอม ทำให้เกิดการโต้เถียงกัน และต่างฝ่ายต่างถ่ายคลิป

โดยคนที่ใส่เสื้อแขนยาวสีขาว เป็นผู้บังคับบัญชาของทหารฝั่งประเทศกัมพูชา ได้พูดทั้งภาษาไทย และภาษากัมพูชา ประมาณว่า “ห้ามไม่ให้ทหารฝั่งไทย เข้ามาเหยียบพื้นที่บริเวณนี้ซักขาเดียว ถ้าจะยิงก็ยิง” และฝั่งทหารไทยได้พูดตอบไปด้วยเหตุผลว่า “ผมมายืนตรงนี้ เพราะได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา” ก่อนที่ผู้บังคับบัญชาฝั่งกัมพูชา จะตอบกลับขึ้นเสียงว่า “เดี๋ยวกูก็จะสั่งลูกน้องกูเหมือนกัน” หลังจากนั้นทหารกัมพูชา ก็ได้เดินกลับไปยังเขตดินแดนประเทศตัวเอง

นายพลเขมร

 

ล่าสุด ทีมข่าวท็อปนิวส์ ได้ตรวจสอบประวัติความเป็นมาของปราสาทตาเมือนธม ซึ่งพบว่า ปราสาทแห่งนี้ มีอายุเกือบ 1,000 ปี ตั้งอยู่ในช่องเขาตาเมือน เทือกเขาพนมดงรัก ในเขตบ้านหนองคันนาสามัคคี หมู่ 8 ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นปราสาทขนาดใหญ่ที่สุด ในอุทยานประวัติศาสตร์ กลุ่มปราสาทตาเมือน

ในอดีตกลุ่มปราสาทตาเมือน ยังไม่มีความรับรู้ในเรื่องพรมแดน มีแต่เพียงแนวทิวเขาพนมดงรัก เป็นพรหมแดนธรรมชาติ ที่กั้นผู้คนสองดินแดนไว้  ปราสาทตาเมือนธม อยู่ใกล้ดินแดนเขมรมากที่สุด การเข้าชมตัวปราสาท เข้าได้เฉพาะฝั่งไทยเท่านั้น ส่วนฝั่งกัมพูชาอาจเข้าถึงได้ยาก เพราะทางหลวงเก่า ถูกป่าไม้กลืนกินหมด  แล้วในช่วงกรณีพิพาทพรมแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การถือครองปราสาทพระวิหาร การปะทะริมชายแดนขยายไปถึงตาเมือน ทำให้ต้องหยุดเข้าชมวิหารชั่วคราว หลังจากนั้นแรงกดดันมีมากขึ้น ทำให้นักท่องเที่ยว ไม่สามารถเดินทางไปไกลกว่าทางเข้าหลัก ทางใต้เพียงไม่กี่เมตร โดยมีตำรวจตระเวนชายแดนประจำการตรงนี้ แต่นับตั้งแต่ปี 53 ทางเข้าปราสาทฝั่งกัมพูชาเริ่มง่ายขึ้น เพราะมีการพัฒนาถนน

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ก็ได้ออกมายืนยันว่า พื้นที่ปราสาทตาเมือนธม อยู่ในดินแดนของไทย แต่พื้นที่คาบเกี่ยว กับพื้นที่ที่ยังปักปันไม่แล้วเสร็จ และฝ่ายไทยอนุโลมให้กัมพูชาขึ้นมาสักการะบูชาได้ ตั้งแต่เวลา 09.00 – 15.00 น.ทุกวัน แต่ต้องไม่แสดงออกสัญลักษณ์ใดๆ ดังนั้นการที่ทหารกัมพูชา ขึ้นมาร้องเพลงชาติ ทำไม่ได้แน่นอน ฝ่ายไทยเข้าไปตักเตือนท้วงติง ไม่เช่นนั้นอนาคตจะเกิดปัญหา หากนำภาพถ่ายและคลิปไปกล่าวอ้าง นอกจากนี้ ยังได้พูดคุยกับผู้บังคับบัญชาฝั่งกัมพูชา ตามช่องทางคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค หรือ RBC ไทย – กัมพูชา ซึ่งขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายแล้ว และกองกำลังสุรนารี ได้ทำหนังสือประท้วงเหตุการณ์ดังกล่าวไปแล้ว ว่าอย่าให้เกิดขึ้นอีก เพราะเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และผิดตามข้อตกลง

มทภ.2

ย้อนไปเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ปี 51 พลตรีโป เฮง รองผู้บัญชาการทหารภูมิภาคที่ 4 และพันเอก เนียะ วงศ์ รองผู้บังคับกองพลน้อยที่ 42 กัมพูชา นำกำลังทหารกว่า 50 นายพร้อมอาวุธครบมือ และสื่อมวลชนกัมพูชา ขอเข้าชมปราสาทตาเมือนธม แต่ถูกทหารจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ของไทย ได้เข้าเจรจาให้ถอยร่นกลับไป พร้อมเพิ่มกำลังคุมเข้มปราสาทตาเมือนธม วางลวดหนามปิดกั้นทางขึ้น และบริเวณรอบปราสาท

8 กุมภาพันธ์ ปี 53 เกิดกระแสข่าวกรณีที่สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา จะขึ้นชมปราสาทตาเมือนธม ทำให้หลายฝ่ายเกรงว่า กัมพูชาจะอ้างสิทธิ์พื้นที่ จนเกิดกรณีพิพาทซ้ำรอยปราสาทพระวิหาร  นายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร ได้ออกมายืนยันว่า ปราสาทตาเมือนธมอยู่ฝั่งไทย โดยกรมศิลปากรทำการสำรวจพบ และขึ้นบัญชีเป็นโบราณสถานของไทย ตั้งแต่ปี 2478 และปัจจุบันอยู่ในความดูแลของสำนักศิลปากรที่ 5 ปราจีนบุรี ซึ่งที่ผ่านมา กรมศิลปากรได้บูรณะ โดยทางการกัมพูชารับรู้มาตลอด ไทยยืนยันว่าพื้นที่ชายแดนจุดนี้เป็นของเรา โดยใช้แผนที่ตามหลักสากล ซึ่งแบ่งพื้นที่ตามหลักสันปันน้ำ

30 สิงหาคม ปี 67 ในโลกออนไลน์มีการแชร์ต่อๆ กันว่า กัมพูชายึดปราสาทตาเมือนธม ซึ่งต่อมาทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยกองประมวลและวิเคราะห์ข่าว จากกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

7 ตุลาคม ปี 67 เพจเฟซบุ๊ก อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ ได้ออกมาโพสต์คลิป ของเหล่าชาวบ้านและทหารกัมพูชา ที่ออกมายืนร้องเพลงชาติกัมพูชา หน้าปราสาทตาเมือนธม  ซึ่งคล้ายคลึงกับกรณีที่เกิดขึ้นล่าสุด

 

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า จริงๆ พื้นที่ตรงนี้อยู่ในประเทศไทย แต่ยังมีเส้นที่ยังแบ่งกันไม่ชัดเจน ก็ยังเป็นเรื่องค้างคาอยู่ ซึ่งเราก็เปิดให้ฝ่ายประชาชนฝ่ายกัมพูชา ขึ้นไปสักการะ สได้ปกติ

แต่การขึ้นไปร้องเพลง หรือแสดงเชิงสัญลักษณ์ แบบนี้เราไม่สบายใจ ทางผู้บัญชาการทหารที่เกี่ยวข้อง ก็ได้ทำเรื่องประท้วงไปแล้ว ซึ่งขณะนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ อยู่ที่ปักกิ่ง เดี๋ยวจะประสานโทรคุย เพราะทางการทูต ก็จะต้องดำเนินการต่อด้วย ที่สำคัญ คือเราไม่ได้คิดว่ามีอะไรที่ขัดแย้งกัน เป็นเรื่องที่ทั้งสองฝ่ายระดับประเทศ และผู้ปฏิบัติงาน ไปมาหาสู่กันดี ไม่มีอะไร ซึ่งส่วนนี้ก็อาจจะเป็นประชาชนที่ขึ้นไปเที่ยว แล้วก็ไปร้องเพลง ซึ่งเราก็ไม่สบายใจ ที่ทำสัญลักษณ์ เดี๋ยวจะเหมือนเรื่องเดิม เพราะฉะนั้นเราก็แสดงจุดยืนประท้วง เพื่อแสดงให้เห็นว่า ยังมี 2 จุด ที่ยังไม่สามารถอ้างอิงได้

เมื่อถามย้ำว่า แต่กรณีนี้เป็นภรรยาของนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ของกัมพูชา นายภูมิธรรม ยืนยันว่า ก็เหมือนกัน จะภรรยาผู้ใหญ่ ภรรยารัฐมนตรี ประชาชน ก็เหมือนกัน เราไม่อยากให้กลายเป็นประเด็นนำไปสู่ความขัดแย้ง สงบสุขไว้ดีกว่า เราก็ทำสัญลักษณ์ของเรา ด้วยการประท้วง ว่าไม่ควรกระทำแบบนั้น ก็ถือว่าเจ๊ากันไป

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ทหารสกัดจับช่างก่อสร้างไทย 10 ราย ถูกโกงค่าแรงในกัมพูชาและถูกยึดบัตรประชาชน ทนไม่ใหวหนีกลับไทย
ตำรวจ สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว สกัดพ่อค้ายาหัวใส ซุกยาเสพติดในถุงอาหารสุนัข เตรียมส่งให้ลูกค้าทางไปรษณีย์
เจ้าหน้าที่ ชายแดนไทย-กัมพูชา ร่วมกันอำนวยความสะดวกนำร่างชาวกัมพูชาส่งคืนให้กับครอบครัว
"อดีตผู้พิพากษาอาวุโส" ศาลฏีกา ชี้สส.-สว. เข้าชื่อยื่นขอส่งเรื่องให้ศาลรธน.พิจารณา ถอดถอน "แพทองธาร" พ้นรมว.วัฒนธรรม ได้
“ภูมิธรรม”​ แจง “อุ๊งอิ๊ง” พร้อมลุยงานก.วัฒนธรรม มั่นใจรอด​คดีจริยธรรม พยายามบริหารรัฐบาลอยู่ครบเทอม
"ไชยชนก" นำทีมภท. ร่วมประชุมวิปฝ่ายค้านครั้งแรก จ่อกระทู้สดถามรัฐบาลปมชายแดนไทย-กัมพูชา
"บิ๊กเล็ก" ลั่นไร้สุญญากาศ​ แม้ไม่มี รมว.กลาโหม ย้ำปม​ชายแดนไทย-กัมพูชา​ มีแนวโน้มดีขึ้น​ หลัง "เตีย​ เซ็ยฮา​" ยอมคุย​เปิดเวที​ GBC​
“ดีเจแมน” เดินสวน “ฟิล์ม รัฐภูมิ” เจอหน้าครั้งแรก เข้าไกล่เกลี่ย ปมหมิ่นประมาทเรียกเงิน 14 ล้าน
“ปานเทพ” แจงยอดเงินบริจาค “คณะรวมพลังแผ่นดินฯ” 30 ล้าน หักค่าใช้จ่ายชุมนุม 2 ล้าน ประสานทหารแล้ว มอบเตรียมมอบกองทัพภาค 1- ภาค 2
พบแล้วร่าง "ร.ต.ท.เริงศักดิ์ ขวกเขียว" ที่แม่น้ำเลย หลังจมหายระหว่างปฏิบัติหน้าที่จับคนร้าย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น