เตือนปมเขมรร้องเพลงชาติ ไม่ธรรมดา ระวังส่อเสียดินแดน-ซัด “หัวหมอ” ใช้ชาวบ้านเป็นโล่ห์มนุษย์

"อดีตบิ๊กข่าวกรอง" ชี้ พวกเขมร ไม่ธรรมดา พาลูกเมียทหาร มาร้องเพลงชาติ ชี้ อย่ามองเป็นเรื่องเล็ก หวั่น เสียดินแดน ขอบคุณ แม่ทัพภาค 2 ไม่เป็นจ่าเฉย ขณะ เพจแนวสงคราม ซัด "เขมร" หัวหมอ? ใช้ พลเรือน เป็น"โล่มนุษย์" พร้อมโยนบาป"ทหารไทย"ทันที หากเกิดปะทะรุนแรง แนะปลุก "คนไทย" รักชาติ สนใจการต่างประเทศมากขึ้น

เตือนปมเขมรร้องเพลงชาติ ไม่ธรรมดา ระวังส่อเสียดินแดน-ซัด “หัวหมอ” ใช้ชาวบ้านเป็นโล่ห์มนุษย์

 

ข่าวที่น่าสนใจ

จากกรณีที่เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ที่ผ่านมา ทหารกัมพูชา จำนวนหนึ่งได้พาชาวบ้าน ขึ้นมาร้องเพลงชาติเขมร บริเวณปราสาทตาเมือนธม ซึ่งอยู่ในดินแดนของประเทศไทย ที่ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ แต่ ทหารไทย ไม่ยอม จึงมีการโต้เถียงกัน ซึ่งต่างฝ่ายต่างถ่ายคลิป ระหว่างนั้น ผู้นำทหารกัมพูชา ได้อ้างสิทธิ และละเมิดข้อตกลง พูดทั้งภาษาไทยและภาษาเขมร ว่า … ถ้าเราเข้ามาในพื้นที่นี้ เป็นพื้นที่ของทหารไทย … แต่เขาบอกว่า เป็นพื้นที่ของเขา และสั่งกับทหารกัมพูชาว่า ห้ามไม่ให้คนไทย ลงมาในลงในเขตพื้นที่ทับซ้อนของกัมพูชา ถ้าเข้ามาเหยียบพื้นที่บริเวณนี้ซักขาเดียว จะยิงก็ยิง” ส่วนฝั่งทหารไทย พูดตอบไปด้วยเหตุผลว่า “ผมมายืนตรงนี้ เพราะได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา” หลังจากนั้น ผู้บังคับบัญชาฝั่งเขมร สวนกลับขึ้นเสียงว่า ”เดี๋ยวกู ก็จะสั่งลูกน้องกูเหมือนกัน“หลังจากนั้น ทหารเขมร ก็ได้เดินกลับไปอย่างดินแดนประเทศตัวเอง

จากในคลิปดังกล่าว ไม่ทราบว่า ที่ทหารเขมรได้ขึ้นมาบริเวณปราสาทตาเมือนธมและร้องเพลงชาติเขมร นั้น สาเหตุเกิดจากอะไร และได้เข้ามาขู่ด้วยน้ำเสียงที่ดุเดือด และทิ้งทายว่า “ถ้าจะยิงกันก็ยิง

ทั้งนี้ ปราสาทตาเมือนธม อยู่ฝั่งไทย โดย กรมศิลปากร ทำการสำรวจพบและขึ้นบัญชีเป็นโบราณสถานของไทย ตั้งแต่ปี 2478 แต่เวลานี้ มีปัญหาเรื่องพื้นที่ทับซ้อน เพราะ กัมพูชา ยึดถือแผนที่คนละฉบับกับไทย

 

จากประเด็นนี้ … นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์วิเคราะห์ไว้อย่างสนใจนว่า เอาให้ดี ๆ การมายืนร้องเพลงของลูกเมียนายทหารเขมร บริเวณปราสาทตาเมือนธม มันไม่ธรรมดา ….

ปราสาทตาเมือนธม (ธมแปลว่าใหญ่) เป็นปราสาทที่ ไทยกับกัมพูชา มีข้อพิพาทกันว่า มันเป็นของใคร ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิว่าเป็นของตน หากฝ่ายนั้น สามารถขึ้นมาร้องเพลงและถ่ายรูปถ่ายคลิป. หรือทหารเขมร ขึ้นมาร้องเพลงชาติกัมพูชาได้ และถ่ายคลิปไว้ โดยที่ทหารไทยไม่ทำอะไร หรือทหารไทยคิดว่า ไม่เป็น อะไร แค่ร้องเพลงจะอะไรกันนักหนา แต่คลิปเหล่านี้จะกลายเป็นหลักฐานบนเวทีศาลโลก จะเข้าข่าย เหมือนกรณีที่กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เห็นทหารฝรั่งเศสชักธงชาติฝรั่งเศสแต่พระองค์ไม่ทรงท้วงติง ทำให้เข้าข่ายกฎหมายปิดปาก น้ำท่วมปากพูดไม่ได้

กลุ่มปราสาทตาเมือน มีอยู่ 3 ปราสาท ปราสาทตาเมือนโต๊ด อยู่ในเขตกัมพูชา. อยู่เลยจากปราสาทตาเมือนธม ไปทางด้านใต้ ซึ่งลึกลงไปจากตาเมือนธมร่วมเมตร

หลังจากนั้น จึงถึง ปราสาทตาเมือนธม ที่อยู่บน ที่สูงกว่าตาเมือนโต๊ด. ความสำคัญของตาเมือนธม คือ มีรูปเคารพ(ศิวะลึงค์) เป็นแท่งหิน โผล่มาจาก ลานหิน และสร้างปราสาทตามือนธมคร่อมรูปเคารพ

ปราสาทสุดท้ายที่เข้าลึกในเขตไทยคือ ปราสาทตาเมือน และกลุ่มอโรคยาศาลา ที่เชื่อกันว่า สร้างขึ้นเพื่อการดูแลคนเดินทางไปยังปราสาทพิมาย

ต้องขอบคุณนายทหารทัพภาค 2 และผู้เกี่ยวข้อง ที่ไปห้ามไม่ให้ทำ. มิเช่นนั้น. มีหนึ่ง ต้องมีสองสามสี่ห้าตามมา ขอบคุณแม่ทัพภาคที่ 2 ที่ทำหนังสือประท้วง และคัดค้านการกระทำดังกล่าว …. เรื่องนี้ คนอื่นอาจจะมองว่าเป็นเรื่องเล็ก. แต่จะทำให้ไทยเสียดินแดนและปราสาทตาเมือนธมไป. ด้วยเหตุเล็ก ๆ ที่จะมองข้ามไม่ได้

 

ขณะที่เพจการทูตและการทหาร วิเคราะห์ไว้เช่นกันว่า ….. เนื่องจากมีหลายท่าน สอบถามผมเรื่องข่าวที่ ทหารกัมพูชา เข้ามาร้องเพลงชาติที่ปราสาทตาเมือนธม

เท่าที่ผมเห็นภาพและคลิปในสื่อ … ทางฝั่งกัมพูชา ไม่ได้เข้ามาเฉพาะทหาร แต่มาพร้อมพลเรือนด้วย ถ้าจะเรียกว่า “โล่มนุษย์” ก็คงไม่ผิดนัก เพราะถ้าเกิดความรุนแรงขึ้น ภาพที่จะปรากฏออกไปก็จะเป็นภาพทหารไทยใช้ความรุนแรงกับพลเรือนทันที

พอเห็นข่าวนี้แล้ว ผมก็คิดว่า นโยบายเกี่ยวกับข้อพิพาทตามแนวชายแดนของไทยเรา อย่างหนึ่งผิดพลาดมาตลอด กล่าวคือ ถ้าเราจะยอมตามประเทศเพื่อนบ้านมาก ๆ เลย … ใช้คำเรียกพื้นที่พิพาทว่า “พื้นที่ทับซ้อน” ตลอดเวลา อย่างน้อยก็ไม่ควรให้อีกฝ่ายทำการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ โดยเฉพาะการนำพลเรือนเข้ามาตั้งถิ่นฐาน แบบที่เกิดขึ้นในกรณีของกัมพูชา … เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้น ข่าวจะออกไปว่า ไทยเราทำร้ายพลเรือนทันที นี่ยังไม่ต้องพูดถึงนักวิชาการไทยบางส่วนที่ชอบประดิษฐ์วาทกรรมว่า เส้นเขตแดนเป็นสิ่งสมมติวิถีชาวบ้านเป็นของจริง … อย่าคลั่งชาตินู่นนี่นั่นอีก เวลาได้ยินวาทกรรมทำนองนี้ .. ผมก็นึกสงสัยทุกครั้งว่า แล้วทะเบียนบ้านกับโฉนดที่ดินของนักวิชาการนี่ เป็นสิ่งสมมติด้วยหรือเปล่า ….

กลับมาที่เรื่องการเปลี่ยนแปลงพื้นที่พิพาท ต้องยอมรับว่า ไทยเราละเลยมานาน ถ้าฝ่ายตรงข้ามมีแค่กองกำลังติดอาวุธแบบกรณีของว้าแดง ในกรณีที่เกิดเหตุบานปลาย อย่างมากก็รบกัน ใช้กำลังทหารผลักดันออกไปแล้วจบ แต่ถ้าเป็นกรณีที่อีกฝ่ายใช้พลเรือน เข้ามาตั้งถิ่นฐานแล้วนี่ ลำบาก …. เพราะถ้าเราใช้กำลังผลักดัน ภาพจะออกไปว่า เป็นการทำร้ายพลเรือนทันที เราจะเสียเปรียบในด้านสงครามสื่อมาก ความจริงต้องไม่ให้อีกฝ่ายนำพลเรือนเข้ามาแต่แรก

อย่างไรก็ตาม จะโทษว่า หน่วยงานท้องถิ่นของไทยเรา ปล่อยปละละเลยฝ่ายเดียวก็ไม่ถูกต้อง เพราะเรื่องระดับนี้ จำเป็นต้องอาศัยการสั่งการจากส่วนกลางด้วย แต่ปัญหาคือ เรื่องนโยบายการต่างประเทศนี่ แทบจะเป็นสิ่งที่รัฐบาลเกือบทุกยุคให้ความสำคัญเป็นลำดับท้าย ๆ เลยก็ว่าได้ … และคนไทยส่วนใหญ่ก็ไม่สนใจด้วย … ทำให้เวลาหาเสียงเลือกตั้ง นักการเมืองก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้นโยบายต่างประเทศมาหาเสียงแต่อย่างใด สู้หาเสียงเกทับกันว่าจะแจกเงินเท่าไหร่ อย่างไร ง่ายกว่าเยอะ และเมื่อส่วนกลางไม่สั่งการ ท้องถิ่นก็ไม่ขยับ กลายเป็นปัญหางูกินหาง ทั้งที่หลายกรณีก็เป็นเรื่องที่คนไทยได้รับผลกระทบโดยตรง เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ต้องให้รัฐบาลจีนมากดดัน ถึงจะขยับ

กล่าวโดยสรุป การแก้ปัญหา “พื้นที่ทับซ้อน” ส่วนหนึ่งต้องเริ่มจากการทำให้คนไทยส่วนใหญ่ สนใจการต่างประเทศมากขึ้น จนนักการเมืองต้องนำมาเป็นนโยบายหาเสียง และนำไปปฏิบัติจริง อย่างน้อยนโยบายต่างประเทศ ก็ควรมีความสำคัญเท่ากับนโยบายการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ หรือการเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุล่ะครับ พื้นที่พิพาทจะได้ไม่ถูกปล่อยปละละเลย ถึงตอนนี้ก็ไม่รู้ว่า จากข่าวทหารกัมพูชาร้องเพลงชาติที่ปราสาทตาเมือนธม เรามาถึงเรื่องการต้องทำให้คนไทย สนใจการต่างประเทศมากขึ้นได้อย่างไร

 

 

 

ล่าสุด พ.อ.ภาคภูมิ นภากาศ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจที่ 2 (ผบ.ฉก.2) และ พ.อ.โปว เพง หัวหน้าหน่วยประสานงานชายแดนประจำพื้นที่โอร์เสม็ด (หน.นปกท.) ได้พบปะหารือสร้างความเข้าใจ ในการแก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนร่วมกัน เพื่อป้องกันการเข้าใจผิด และให้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ณ หน่วยประสานงานชายแดนประจำพื้นที่ นปพท.2 จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ผลการปฏิบัติ ผู้บังคับบัญชาทั้ง 2 ฝ่าย มีความเข้าใจที่จะรักษาความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ป้องกันความขัดแย้ง โดยการพูดคุยหารือเป็นไปด้วยความชื่นมื่น ตกลงกันได้ด้วยดี

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สื่อนอกตีข่าว กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ อินโดนีเซีย ตั้ง "ทักษิณ" นั่งที่ปรึกษากลุ่ม Dream Team
"ผู้การแต้ม" เชียร์ตำรวจ ฟาดกลับทีมแตงโมปั่นข้อมูล ลิปซิงค์เพลงโชว์สยบดราม่า
"อดีตสว.สมชาย" แนะฝ่ายค้าน จัดหมัดเด็ด น็อกนายกฯ "รธน.มาตรา 144" ซักฟอกบริหารงาน
สื่อนอกเผยอินโดฯตั้งทักษิณเป็นที่ปรึกษากองทุน
"อนุทิน" ชม "นายกฯ" ชี้แจงซักฟอกสั้น แต่มั่นใจ ย้ำไม่ใช่เก็งข้อสอบถูก แต่รัฐบาลมีความพร้อม
ทบ.แจงคลิป "ทหารไทย" เตือน "ทหารกัมพูชา" แค่ขอความร่วมมือ ปมสร้างเพิงพักพื้นที่ต้องห้าม ชายแดนสระแก้ว
กรมวังผู้ใหญ่ ประจําพระองค์สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ เป็นประธานมอบเงินกองทุนกำลังใจฯ เพื่อเสริมสร้าง “คนต้นแบบ” จากกรมราชทัณฑ์ และกรมคุมประพฤติ
ไทเกอร์ วูัดส์ยืนยันคบหากับอดีตลูกสะใภ้ทรัมป์
"ประมงสมุทรปราการ" ยันปล่อยปลานักล่าเห็นผลได้จริง "ปลาหมอคางดำ" แนวโน้มลดลง 
”พีระพันธุ์“ ยันรัฐบาลไม่เอื้อประโยชน์นายทุน ไม่เคยเซ็นสัญญากับใคร

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น