“ปิยบุตร” หัวเหวี่ยง โวยรัฐสภาล่ม ถกแก้รธน.สารพัดโทษเพื่อไทย จบมุกเดิม 2 ขั้ว แขวะพวกล้าหลัง สวามิภักดิ์

"ปิยบุตร" หัวเหวี่ยง โวยรัฐสภาล่ม ถกแก้รธน.สารพัดโทษเพื่อไทย จบมุกเดิม 2 ขั้ว แขวะพวกล้าหลัง สวามิภักดิ์

“ปิยบุตร” หัวเหวี่ยง โวยรัฐสภาล่ม ถกแก้รธน.สารพัดโทษเพื่อไทย จบมุกเดิม 2 ขั้ว แขวะพวกล้าหลัง สวามิภักดิ์

ข่าวที่น่าสนใจ

 

14 ก.พ.68 นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุถึงเพื่อไทยวิธีว่า นายสุทิน คลังแสง และคณะ พยายามอธิบายว่าประเด็นปัญหาเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในรัฐสภาแบ่งแยกออกเป็น 3 จำพวก ได้แก่ ไม่แก้, ได้แก้ และแก้ได้

โดยพวกเขา คือพวก “แก้ได้” ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้สำเร็จ พยายามหาหนทางแก้ไขให้ได้ หากเดินตรงแล้วติดขัดมีอุปสรรค ก็ต้องเดินอ้อมไปเสียหน่อย เพื่อแก้ไขให้ได้ มิใช่ดันทุรังหัวชนกำแพง เพื่อสักแต่จะบอกว่าได้แก้แล้ว แต่สุดท้ายแก้ไม่ได้ ชุดคำอธิบายแบบนี้ มิใช่เป็นปรากฏการณ์ใหม่ พรรคเพื่อไทยเคยใช้คำอธิบายแบบนี้มาโดยตลอด
หลังเหตุการณ์ฆ่าหมู่กลางมหานคร ในปี 2553 ประชาชนจำนวนมหาศาลเทคะแนนให้พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย ด้วยความคาดหวังว่าเมื่อพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล มีอำนาจเด็ดขาดแล้ว จะจัดการแก้ไขปัญหาสำคัญทางโครงสร้าง เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ การปฏิรูปศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ การปฏิรูปกองทัพ และการนำผู้กระทำความผิดจากกรณีสลายการชุมนุมคนเสื้อแดงปี 53 มาดำเนินคดี เป็นต้น

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อพรรคเพื่อไทยมีอำนาจ อารมณ์แบบฮึกเหิม ปลุกระดม เหมือนตอนหาเสียง ก็ค่อยๆ หายไปทันที คำว่า “แก้ไข ไม่แก้แค้น” ขึ้นมาแทนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เป็นผู้บัญชาการทหารบก จ่ายเงินเยียวยาผู้เสียหายจากการสลายการชุมนุม แต่การดำเนินคดีผู้กระทำความผิดไม่คืบหน้า

พยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญมาจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ แต่ศาลรัฐธรรมนูญขัดขวางด้วยการแนะนำแทรกเข้าไปหนึ่งประโยคในคำวินิจฉัยว่าควรไปทำประชามติ พรรคเพื่อไทยยอมถอยครั้งที่ 1 เปลี่ยนไปแก้ไขรายมาตราในหลายประเด็น เช่น เปลี่ยนที่มาของสมาชิกวุฒิสภา เป็นต้น แต่ศาลรัฐธรรมนูญก็ขวางอีก บอกว่าเป็นการได้มาซึ่งอำนาจโดยวิถีทางไม่เป็นประชาธิปไตย คราวนี้พรรคเพื่อไทยถอยอีก นายกรัฐมนตรีไปขอนำร่างฯ ที่อยู่ในขั้นตอนการลงพระปรมาภิไธยกลับคืนมา ทั้งๆ ที่รัฐธรรมนูญไม่ได้ให้ทำเช่นนั้น สุดท้ายการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อไปสู่การทำรัฐธรรมนูญใหม่ก็ไม่เกิดขึ้น

คนของรัฐบาลพยายามบอกว่าการลงนามให้สัตยาบันธรรมนูญกรุงโรมทำไม่ได้ ข้อเสนอการลบล้างผลพวงรัฐประหารของคณะนิติราษฎร์ พรรคเพื่อไทยไม่สนใจ แต่เลือกใช้การตรากฎหมายนิรโทษกรรมเหมาเข่ง แบบไปลงมติกันในสภาลักหลับสุดซอยกันช่วงดึกดื่น

สุดท้ายก็จบด้วยการรัฐประหาร ในการหาเสียงเลือกตั้งปี 2566 ช่วงท้ายๆ แกนนำและคณะผู้ช่วยหาเสียงของพรรคเพื่อไทย พยายามชูธงเรื่องการจัดการมรดกคณะรัฐประหาร การแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะจัดการเรื่องคดีเกี่ยวกับการแสดงออกทางการเมือง ทั้งหมดนี้ก็เพื่อต้องการคะแนนเสียงจากฝ่ายก้าวหน้า ในขณะที่แกนนำพรรคเพื่อไทยหลายคน พูดหลายครั้งในทำนองว่าพรรคก้าวไกลเพ้อฝัน สุดท้ายทำอะไรไม่ได้ ไปได้แค่ยอดมะพร้าว แต่พรรคเพื่อไทย อยู่บนความเป็นจริง และมีโอกาสทำสำเร็จ

สุดท้าย ณ วันนี้ ผลเป็นอย่างไรก็เห็นกันอยู่ ยกเลิกเกณฑ์ทหารภาคบังคับ – ไม่มี, การแก้ไขรัฐธรรมนูญ – ไม่มี, การลบล้างผลพวงรัฐประหาร – ไม่มี, การนิรโทษกรรมคดีเกี่ยวกับการแสดงออกทางการเมือง – ไม่มี ขนาดแค่รายงานคณะกรรมาธิการวิสามัญที่พวกตนเองเสนอ ยังกระโดษหนีกันเกือบยกพรรค การนำเรื่อง 112 มาพูดกันในสภา – ไม่มี มีแต่ออกตัวทุกวัน 3 เวลา หลังอาหารว่าไม่แตะต้องๆๆ การหาวิธีปล่อยตัวชั่วคราว คดี 112 – ไม่มี แต่มีรัฐบาลข้ามขั้ว คุณทักษิณ ชินวัตร ได้กลับมาบ้าน ได้อภัยโทษ ไม่ต้องคิดคุกแม้แต่วันเดียว และคุณแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี

พรรคเพื่อไทยจะส่งตัวแทนที่ในชีวิตมีประวัติการต่อสู้อยู่บ้าง ออกมาร่ายเวทมนตร์คาถาประเภทพี่เจ็บมาก่อน พี่รู้ดี ดันทุรังทำไปทำไม ในเมื่อมันทำไม่ได้ หาวิธีอื่น เรื่องอื่นที่พอทำได้ดีกว่า เข้าไปมีอำนาจก่อน อย่างน้อยก็ได้ทำ ดีกว่าพูดไปแล้วก็เป็นได้แค่เรื่องเพ้อฝัน ไม่มีอำนาจทำ คนแบบพวกพี่ ผ่านการต่อสู้มา ทำไมจะไม่คิดเรื่องการต่อสู้ แต่เราต้องอยู่กับความเป็นจริง หาโอกาสเข้าไปทำก่อนทีละน้อย ต้องกินข้าวทีละคำ เป็นต้น

มาวันนี้ ข้ออ้างเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็กลับมาวนเวียนกันอยู่กับคำอธิบายแบบเดิม ทั้งหมด เพื่อยืนยันว่าพรรคเพื่อไทย คือพรรคที่ยืนอยู่บนความเป็นจริง หาหนทางเท่าที่มี ทำเท่าที่ได้ ชุดคำอธิบายแบบนี้ ปรับให้ทันสมัยด้วยการขายพ่วงมากับการเมือง 3 ก๊ก ผลักฝ่ายหนึ่งให้เป็นพวกอนุรักษ์นิยมล้าหลัง ผลักอีกฝ่ายหนึ่งให้เป็นพวกก้าวหน้าสุดโต่ง ส่วนพวกตนเองคือพวกที่มีจุดยืนประชาธิปไตยเหมือนเดิม แต่มีประสบการณ์ รู้เหมาะรู้ประมาณ ประนีประนอมเพื่อเข้าไปมีอำนาจ ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว พวกเขาก็อยู่ในพวกอนุรักษ์นิยม ล้าหลังสวามิภักดิ์กลับเจ้าของใบอนุญาตที่ 2 เพียงแต่เล่นบทให้ต่างกันพรรคเพื่อไทยจะใช้เพื่อไทยวิธีแบบนี้ไปตลอด ใช้อธิบายกับทุกๆ เรื่องที่พรรคเพื่อไทย ไม่ทำ จนกระทั่งนำไปหาเสียงในการเลือกตั้งครั้งหน้า ประชาชนต้องรู้เท่าทันเพื่อไทยวิธี

ประชาธิปไตยแบบรัฐสภา ประชาธิปไตยแบบผู้แทน ณ เวลานี้ คำว่าแบบรัฐสภา และ แบบผู้แทน ซึ่งเป็นคำคุณศัพท์ขยายคำว่าประชาธิปไตย กำลังกลืนกินประชาธิปไตยจนหมดตัว พวกนักการเมือง พรรคการเมือง ผู้แทน เห็นประชาชนเป็นเพียงจำนวนนับที่ทำให้เขาได้มีอำนาจ
เมื่อไรที่ต้องการประชาชนเป็นสะพานให้พวกเขาเหยียบข้ามผ่านเข้าสู่อำนาจ พวกเขาก็เข้าหาประชาชน แต่เมื่อมีอำนาจก็ไม่ทำ โดยอ้างสารพัดเหตุผลว่าทำไม่ได้ ติดขัดที่พรรคร่วม ติดขัดที่พรรคฝ่ายค้าน ติดขัดที่วุฒิสภา ติดขัดที่นักร้อง ติดขัดที่เดี๋ยวโดนร้องว่าผิดจริยธรรม ติดขัดที่องค์กรอิสระ ติดขัดที่ศาลรัฐธรรมนูญ ติดขัดที่ระบบราชการ ติดขัดที่กองทัพ ติดขัดที่รัฐประหาร ทั้งหมดเพื่อรักษาสถานะให้พวกเขาได้เป็น สส.ได้เป็นรัฐมนตรี ได้เป็นรัฐบาลต่อไป

การเมืองคือความเป็นไปได้ นักการเมืองที่ปวารณาตัวเป็นผู้แทนประชาชน ต้องเป็นตัวแทนของประชาชนเข้าไปขีดเส้นความเป็นไปได้ใหม่ๆ ประชาชนไม่ต้องการนักการเมืองที่เพียรพยายามหาข้ออ้างเพื่อบอกว่าเป็นไปไม่ได้ ทำไม่ได้ ถ้ามีนักการเมืองที่ต้องการอยู่ในอำนาจไปเรื่อยๆ หลายๆ ปี ประกอบอาชีพนักการเมืองไปจนตาย ไม่กล้าทำอะไร เพราะกลัวโดนตัดสิทธิ กลัวโดนร้อง สุดท้ายประชาชนจะมีนักการเมืองเหล่านี้ไปทำไม เราต้องการนักการเมืองที่กล้าหาญ ขยับเส้นวงกลมที่ปิดล้อมอยู่ให้กว้างออกไป เราต้องการนักการเมืองที่เป็นกองหน้าประชาชน สร้างความเป็นไปได้ใหม่ หมดเวลาของนักการเมืองที่ต้องการรักษาโครงสร้างสถานะอำนาจเดิม รักษา status quo การเมืองวันนี้ ไม่มี 3 ก๊ก มีแค่ 2 ขั้ว ขั้วพลังเก่า ล้าหลัง สวามิภักดิ์ใบอนุญาตที่ 2 เพื่อขออยู่ในอำนาจ แต่แสดงบทบาทในโรงละครต่างกันไปกับขั้วพลังใหม่ ก้าวหน้า ต้องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอำนาจการเมืองให้ได้สมดุล

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ตำรวจ สภ.สัตหีบ" ใจฟู "หนุ่มใหญ่ใจบุญ" มอบทุนปรับปรุง "ตู้ยาม" เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน
"นายกฯอิ๊งค์" ถวายสัตย์ปฏิญาณตน แล้ว ยิ้มตอบสื่อ พรุ่งนี้เริ่มทำงาน ก.วัฒนธรรม
ชาวบ้านล้อมจับโจรขโมย จยย. ผู้ก่อเหตุแกล้งเมา พูดไม่รู้เรื่อง
"ท็อปนิวส์" ขออภัยนำเสนอภาพและคลิปข่าว "โดรน JOUAV" ผิดพลาดคลาดเคลื่อน
เรือเฟอร์รี่อินโดนีเซียล่มใกล้เกาะบาหลี
โซเชียลสวดยับ “จิรัฏฐ์” เหยียด "สมาคมแม่บ้านทหารอากาศ" ลั่นแรง "อิพวกแม่บ้าน"
"หนุ่มวัย 28" ดับปริศนาคาโรงแรม กับงูเห่าในถุงผ้าที่มัดไว้
คืนเดียว 2 เคส หนุ่มไทยหนีตายจากแก๊งบัญชีม้า เล่าชะตากรรมสุดช้ำในกรุงปอยเปต
"ปตท." ครองบริษัทชั้นนำอันดับ 1 ในไทย ซ้ำได้อันดับ 2 ใน Southeast Asia ต่อเนื่อง 2 ปีซ้อน สะท้อนศักยภาพดำเนินงานเป็นเลิศในระดับสากล
"ปตท." จับมือ บีเอ็นพี พารีบาส์ ลงทุนตราสารหนี้ ESG หนุนภารกิจยั่งยืน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น